เปิดชื่อตำรวจที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ของก.ตร.วาระประจำปี 2554

30/3/55
โ้ดยผู้จัดการ เมื่อ 30 มี.ค.2555

เผยรายชื่อนายตำรวจระดับรองผบก.-สว. ที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์แต่งตั้งของก.ตร.

วันนี้(30 มี.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการก.ตร. กรณี ยกเว้นหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง ประกอบด้วย

พ.ต.อ.อาณัติ ภุมรินทร์ ผกก.ฝอ.บก.ปอศ เป็น นว. สบ. 5 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.

พ.ต.ท.อาคม ชุมรัตน์ นรป. สบ2 เป็น นรป.สบ3

พ.ต.ท.ธวัชชัย ดุกสุกแก้ว รองผกก.สภ.ช้างกลาง นครศรีธรรมราช เป็น ผกก. สภ. กาบัง จ.ยะลา

พ.ต.ท.ศักดา เจริญกุล รองผกก.สส.สภ.สงขลา เป็น ผกก.สภ.โสร่ง จ.ปัตตานี

พ.ต.ท.สาธิต มูลพินิจ รองผกก.5 บก.ทท. เป็น ผกก.ฝอ.10 อก.ศชต.

พ.ต.ท.นภดล สนธวิท รองผกก.สส.บก.น. 2 เป็น ผกก.ศฝร.ศชต.

พ.ต.ท.ทศม ม่วงเกษม สว.กก.ปพ.กก.สส.ภ. 9 เป็น รองผกก.สส. 1 ศชต.

พ.ต.ท.ญ. สุพรรณี แสงมณี สว.อก.สภ. ควนเนียง จ.สงขลา เป็น รองผกก.ฝอ.8 ศชต.

พ.ต.ท.พัชวิศร์ ปวีศิษย์ สวป.สน.สำราญราษฎร์ เป็น รองผกก.ฝอ.9 บก.อก.ศชต.

พ.ต.ท.ญ. ปุณณภา เอี่ยมสะอาด สว.ฝอ.3 บก.สส.ภ. 3 เป็น รองผกก. ฝอ.บก.ภ. จ.ปัตตานี

พ.ต.ท.เอกชัย พรามณกุล สว.สถานี สส. 2 บก. ทท. เป็น รองผกก.สล2 ศชต.

ร..ต.อ.ยุทธศักดิ์ เอี่ยมสุนทร ผบ.มว.สภ.จะนะ จ.สงขลา เป็นสว.ฝอ. 5 บก.อก.ศชต.

ร.ต.อ.นาวี เหมมินต์ รองสว.สส.สภ.สะเดา จ.สงขลา เป็น สว.อก.สภ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี

ร.ต.อ.ทิวาต. คงเพ็ชร รองสว.ตม ยะลา เป็น สวป.สภ. สุไหงโกลก นราธิวาส

ร.ต.อ.ชวลิต บุญเฟือ ผบ.หมวด กก.3 บก.อก.ตชด. เป็น สว.ฝ่ายปกครอง ศฝร. ศชต.

ร.ต.อ.ศคิศ สุวรรณกุล รองสว.กก.สส.สภ. สงขลา เป็นสว.ฝอ. 3 บก.อก. ศชต.

ร.ต.อ.ธัชชัย พงศ์มานะวุฒิ รองสว.จร.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็น สวป.สภ.เมืองปัตตานี

ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ฉุยแสนดี รองสวป.สภ.เขาชัยสน พัทลุง เป็น สวป. บ้านโสร่ง ปัตตานี

ร.ต.อ.อำนาจ พิสิษฐ์สกุล รองสว.กก.สส.บก.ตม. 2 เป็น สว.ฝอ. 8 บก.อก.ศชต.

ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กลิคุณ รองสวป.สภ.สะเดา สงขลา เป็น สว.กก.ซถ1 บก.สส.ศชต.

ร.ต.ออ.ภาคภูมิ นาคพนน ผบ.มว. (สบ 1) ตชด. เป็น สว.สส.สภ. โกตาบารู ยะลา

ร.ต.อ.นิยม สุวรรณคง รองสว.ทล. 3 กก. 7 บก.ทล. เป็น สว.กก. ซถ. 2 บก.สส. ศชต.

ร.ต.อ.พงศ์เทพ ละอองเทพ รองสว.กก. สส.3 บก.สส. ภ. 9 เป็น สว.อก.สภ. กะพ้อ ปัตตานี

ร.ต.อ.ชาญชัย ทองที รองสว.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส. ภ. 4

ร.ต.อ.สมพจน์ นามวิเศษ รองสว.กก. สส. 3 บก.สส. ภ. 4

ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ สีเสมอ รองสว.กก.สส. 1 บก.สส.ภ. 4

ร.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ รองสว.กก. สส. 1 บก.สส.ภ. 4

ร.ต.อ.พัฒน์วงศ์ จันทร์พล รองสว.กก.สส. 1 บก.สส.ภ. 4

ร.ต.อ.พัฒน์วงศ์ ชลอกลาง รองสว.กก.สส. 3 บก.สส.ภ.4

ร.ต.อ.กิตติชัย ไถวิเชียร รองสว.กก.สส. 3 บก.สส.ภ. 4 ขึ้นเป็นสว.ในบช.ภ .4 เนื่องจากตำแหน่งว่างจำนวนมาก

พ.ต.ท.ญ.ธันยพร จิวางกุล สว.ฝอ.บ.ตร. เป็น รองผกก.อก.บ.ตร.

พ.ต.ต.บัณฑิต แก้วมงคล สว.ฝอ.บ.ตร. เป็น นักบิน (สบ2 ) บ.ตร.

พ.ต.ท.ปรัชญา ไชยยงค์ สว.ฝอ.บ.ตร. เป็น นักบิน(สบ 2 )

ร.ต.อ.ชัยธร นักบิน (สบ1) เป็น สว.อก.บ.ตร.

ร.ต.อ.สุทธิชัย วงศ์มณี นักบินสบ 1 เป็น สว.อก. บ.ตร.

พ.ต.ท.ประทีป เจริญกัลป์ รองผกก.ฝอ. 2 บก.อก. สตม. . เป็น รองผกก. กลุ่มงานตรวจสอบสำนวน4 กองคดี บช.กมค.

พ.ต.ท.พงศ์พันธ์ นุชนารถ สว.กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์ บช.สทส. เป็นวิศวกรไฟฟ้าและสื่อสาร (สบ. 3) สทส.

พ.ต.ต.มณธนก จำรูญโรจน์ สว.ฝ่ายทะเบียนประวัติเป็น สว. สทส.

พ.ต.ท.ศิรเมศร์ เมธีชนวิจิตร์ สว.กลุ่มงานส่งเสริมงานสอบสวน 2 สถาบันสงเสริมงานสอบสวน เป็นสว.งานสายตรวจ 191

ร.ต.อ.อิทธิพล สังข์ประไพ นว.สบ 1 ผบก.น. 1 เป็น สว.กก.สส.บก.น.5

พ.ต.ต.พิชิต ฟื้นแสน สว.อก.สภ.เมืองระยอง เป็น สว.ป.ภ.จว.ระยอง

พ.ต.ท.จารึก อยู่บำรุง สว.อก.หนองแขม เป็น สว.จร.สภ.เมืองสมุทรสาคร

พ.ต.ท.พิสิษฐ์ จิตติอุดมศักดิ์ สว.จร.ปากช่อง จ.ราชบุรี เป็น สวป.สภ.สังขะบุรี จ.กาญจนบุรี

พ.ต.ท.อรรถวิทธ์ เพียรเลิศ รอง ผกก.ฝอ.10 บก.อก.บช.ก.เป็น รอง ผกก.4 บก.ปคม.

พ.ต.ท.รณกร รัตนะพร สว.ฝอ.บก.ส.2 เป็น สว.กก.6 บก.ส.3

พ.ต.ท.วิทูรย์ ดิเรกโภค สว.อก.สังขะบุรี จ.กาญจนบุรี เป็น สวป.สภ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์
Read more ...

แย้มโผ รอง ผบก.-ส.ว.เด็กเส้นวิ่งฝุ่นตลบ

29/3/55
โดยเดลินิวส์ เมื่อ 29 มี.ค.2555

วันนี้ ( 29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 14.00 น.

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) 

นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/55 มีวาระเรื่องเสนอเพื่อพิจารณา

เรื่องที่ 1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผบก.-สว. วาระประจำปี 2554

เรื่องที่ 2. พ.ต.ท.เสริมพร พรหมศรี ขอให้ ก.ตร.ทบทวนมติ โดยในวาระเรื่องการแต่งตั้ง เป็นการขอ ก.ตร. ยกเว้นหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง กรณียกเว้นคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในการแต่งตั้ง รองผบก.-สว. หลายราย โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้ที่ขอยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีนี้ จนทำให้ต้องมีการนัด ก.ตร. แบบแร่งด่วน จนประเด็นที่เหล่าข้าราชการตำรวจจับตามอง เนื่องจากจนถึงจนขณะนี้เหลืออีกเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น จะครบกำหนดที่ต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับโผการโยกย้ายนายตำรวจ ใน บช.น. มีรายงานว่า

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ร่วมกับรองผบช.น. พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ

- รองผบก.-สว. ประจำปี 2554 มีเก้าอี้ที่ว่างระดับ รองผบก. ว่าง 9 ตำแหน่ง
- ผกก. ว่าง 11 ตำแหน่ง
- รองผกก.มี 12 ตำแหน่ง แต่แบ่งเก้าอี้ให้ พงส.(สบ3) เลื่อนเป็นรองผกก. 3 ตำแหน่ง เหลือ 9 ตำแหน่ง และ
- สว. มี 29 ตำแหน่ง

มีนายตำรวจที่มีสิทธิ์ได้เลื่อนขึ้นตามบัญชีอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ 3 ตำแหน่ง ได้แก่

พ.ต.อ.ศิวโรจน์ สุขัควานนท์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง อาวุโสอันดับที่ 1 คว้าที่นั่งรองผบก. ก่อนเกษียณ

พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน และ

พ.ต.อ.สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผกก.สน.บางซื่อ เป็น รองผบก.อก.บช.น.

พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รองผบก.น.3 โยกเป็น รองผบก.น.1

พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาค รองผบก.น.7 โยกเป็น รอง ผบก.น.1

พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.ท่าเรือ ได้โรงพักดีเด่นเลื่อนขึ้นเป็น รองผบก.

พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน

พ.ต.อ.สุนทร โตรอด ผกก.สน.หลักสอง

พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก

พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ปทุมวัน

พ.ต.อ.สุรพันธ์ ปัทมะทิน ผกก.ศฝร. ลุ้นขึ้น รองผบก.

ส่วนตำแหน่งผกก. นายตำรวจอาวุโสที่เลื่อนตำแหน่งอัตโนมัติ 3 ตำแหน่ง ได้แก่

พ.ต.ท.ถวัลย์ พวงเกษม รองผกก.สส.สน.บางกอกน้อย อาวุโสอันดับที่ 1

พ.ต.ท.พิพัฒน์ บุญเพ็ชร์ รองผกก.สส.สน.บางมด และ

พ.ต.ท.สมบัติ แก่นวิจิตร รองผกก.สส.สน.หลักสอง

ขณะที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.สายตรวจ 191 ได้รับการการันตีจากผู้บังคับบัญชารักษาเก้าอี้ไว้ได้

พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ดอนเมือง คาดว่าโยกเป็นผกก.สน.ลุมพินี

พ.ต.อ.ทรงยศ ถวัลย์กิจดำรงค์ ผกก.สส.ภ.จว.จันทบุรี นายตำรวจใกล้ชิด

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เป็นผกก.สน.บางรัก

พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ลาดกระตบัง นรต.รุ่น 32 เป็น ผกก.สน.วังทองหลาง

พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ นรต.รุ่น 46 นายเวร ผบ.ตร. เป็น ผกก.สน.บางนา

ส่วนระดับ ผกก.คุมงานกองกำกับการสืบสวนนครบาลนั้น

พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 อาวุโสลำดับ 4 ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลงานสืบสวนพื้นที่สำคัญนั่งเก้าอีปีสุดท้ายก่อนเกษียณ

พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.ภ.3 นายตำรวจคนสนิท ผบช.น. คาดว่าโยกข้ามหน่วยมาเป็น ผกก.สส.บก.2

พ.ต.อ.สุเทพ ภูยานนท์ ผกก.สน.บึงกุ่ม เป็น ผกก.สส.บก.น.3

พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.4 เลื่อนเป็นรองผบก. เปิดทางให้

พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร ผกก.ฝอ.10 ศชต. เด็กในคาถา ผบช.น. โยกข้ามหน่วยจากแดนใต้เป็น ผกก.สส.บก.น.4

พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.7 นายตำรวจสายคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ข้ามจากฝั่งธนฯ เป็นผกก.สส.บก.น.5

พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.บก.น.2 ย้ายข้ามหน่วยเป็นผกก.สส.บก.น.6 โดย

พ.ต.อ.สุวิชชา จินดาคำ อดีตนายตำรวจติดตามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ โดนย้ายออกนอกหน่วย

พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 ยึดเก้าอี้ที่เดิมไว้ได้ พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน ผลงานจับยาเสพติดที่ขนส่งสายใต้ใหม่ได้หลายล้านเม็ด เป็น ผกก.สส.บก.น.9

ขณะที่ระดับรองผกก. คาดได้เลื่อนเป็นผกก. ได้แก่ พ.ต.ท.ไชยา คงทรัพย์ สวญ.สน.บางคอแหลม เป็นผกก.ดส.บช.น.

พ.ต.ท.สำราญ นวลมา รองผกก.สส.2 บก.สส.

พ.ต.ท.วิเชียร แสงพิทักษ์ รองผกก.ป.สน.ตลิ่งชัน

พ.ต.ท.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผกก.เก็บกู้ระเบิด บก.สปพ. คาดขึ้นผกก.ที่เดิม

พ.ต.ท.สถิต สังข์ประไพ รองผกก.ป.สน.เตาปูน น้องชาย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผบช.น.คาดโยกข้ามมาเป็น รองผกก.ป.สน.ห้วยขวาง
Read more ...

เลื่อนอีก! แต่งตั้ง “รอง ผบก.-สว.” ผบ.ตร.อ้างเปิดตำแหน่งใหม่

29/3/55
โดยผู้จัดการ เมื่อ 29 มี.ค.2555

เลื่อนแล้วเลื่อนอีกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจตั้งแต่ระดับ “รองผู้บังคับการ-สารวัตร” ไปเป็นวันที่ 31 มีนาคม มีผล 5 เมษายนนี้ ผบ.ตร.อ้างเปิดตำแหน่งใหม่หลายตำแหน่ง ส่วนการพิจารณายกเว้นหลักเกณฑ์กรณีแต่งตั้งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปีนั้นยังไม่แล้วเสร็จ

วันนี้ (29 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มี

บันทึกข้อความ ด่วนที่สุด ที่ 0009.231/ว37 ลงวันที่ 28 มีนาคม 

เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ผู้บังคับการ (ผบก.) ในสังกัดสำนักงาน ผบ.ตร. หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า โดยมีใจความว่า 

ตามที่เคยมีหนังสือแจ้งให้ทุกหน่วยดำเนินการ แต่งตั้งระดับ สารวัตร ถึงรอง ผบก.ประจำปี 2554 โดยให้มีคำสั่งพร้อมกันในวันที่ 29 มีนาคม และให้คำสั่งมีผลพร้อมกันในวันที่ 2 เมษายนนั้น 

แต่เนื่องจาก ก.ตร. เมื่อวันที่ 23 มีนาคม มีมติกำหนดตำแหน่งเพิ่มเติมในหน่วยต่างๆ ซึ่งกระทบต่อกระบวนการการแต่งตั้ง

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแต่งตั้งในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ทุกหน่วย เลื่อนวันมีคำสั่งแต่งตั้งออกไป โดยให้มีคำสั่งพร้อมกันในวันที่ 31 มีนาคม 2555 และให้คำสั่งมีผลใช้บังคับพร้อมกันในวันที่ 5 เมษายน 2555 ทั้งนี้ หลังมีคำสั่งแล้ว ให้แต่ละหน่วยรับผิดชอบตรวจความถูกต้อง และ

รวบรวมสำเนาคำสั่งแต่งตั้ง ภายในอำนาจ ผบช.และ ผบก. แล้วจัดส่งไปยัง ตร.ผ่านกองทะเบียนพล โดยด่วนภายในวันที่ 2 เมษายน 2555

ขณะที่ความคืบหน้าในการประชุมพิจารณาเหตุผลความจำเป็นในการยกเว้นหลักเกณฑ์ กรณีแต่งตั้งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปีนั้น ตั้งแต่ 10.00 น.วันนี้ มีการประชุมพิจารณาเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณารายชื่อที่เสนอขอยกเว้นแบบรายคน ทำให้ใช้เวลานาน ประกอบกับจำนวนข้าราชการตำรวจ ที่แต่ละ บช.เสนอขอยกเว้นก็มีจำนวนมาก 

ทำให้การพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจนครบาลก็ยังไม่พิจารณา ทำให้คณะกรรมการต้องนัดพิจารณาต่ออีกในวันทื่ 30 มีนาคม และคาดว่าแต่ละหน่วยจะนัดประชุมคัดเลือก หรือแต่งตั้งได้ในวันที่ 31 มีนาคม และออกคำสั่งในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะครบกำหนดการดำเนินการแต่งตั้งตามที่กฎหมายกำหนด
Read more ...

ประชุมขอยกเว้น 2 ปี การแต่งตั้ง รองผบก.-สว.ประจำปี 2554

28/3/55
โดยเดลินิวส์ เมื่อ 28 มี.ค.2555

วันนี้ (28 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. 

เป็นประธานการประชุมพิจารณาเหตุผลความจำเป็นในการขอยกเว้นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งระดับรองผู้บังคับการ(รองผบก.)-สารวัตร(สว.)ประจำปี 2554 กรณีแต่งตั้งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี โดยมี 

พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ 

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.

ร่วมประชุม

ทั้งนี้การประชุมในวันนี้ มีผู้บัญชาการ(ผบช.) รองผบช.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำลังพล จากหลายกองบัญชาการที่มีการขอยกเว้นหลักเกณฑ์มารอชี้แจง โดยการพิจารณาเริ่มต้นด้วย กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) และหน่วยขึ้นตรงสำนักงานผบ.ตร. ขณะที่หน่วยหลักๆ ที่เป็นที่จับตามอง อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 นั้นจะเริ่มพิจารณาในการประชุมวันที่ 29 มีนาคม เวลา 10.00 น. .

ขณะที่มีรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลตร.ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) นัดประชุมก.ตร.ครั้งที่ 5/55 ในวันที่ 30 มีนาคม เวลา 14.00 น.โดยมีวาระ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 1 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผบก.-สว. วาระประจำปี 2554 เรื่องที่ 2 พ.ต.ท.เสริมพร พรหมศรี ขอให้ ก.ตร.ทบทวนมติ

มีรายงานด้วยว่า ในวาระเรื่องการแต่งตั้ง เป็นการขอก.ตร.ยกเว้นหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง กรณียกเว้นคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในการแต่งตั้งรองผบก.-สว. หลายราย โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้ที่ขอยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีนี้ จนทำให้ต้องมีการนัด ก.ตร.แบบเร่งด่วน เป็นนายตำรวจที่ได้รับการสนับสนุนหลักจากผู้มีอำนาจในก.ตร. 

โดยไม่มีการพิจารณาวาระขอขยายเวลาในการแต่งตั้ง รองผบก.-สว. แต่ก็เป็นประเด็นที่เหล่าข้าราชการตำรวจจับตามอง เนื่องจากจนถึงขณะที่ที่เหลืออีกเวลาเพียง 3 วัน จะครบกำหนดที่ต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จแต่ การกระบวนการแต่งตั้งยังไปไม่ถึงไหน.
Read more ...

ก.ตร.อนุมัติเปิดตำแหน่งเพิ่ม ไม่ขยายเวลาแต่งตั้ง

23/3/55
โดยผู้จัดการ เมื่อ 23 มี.ค.2555

ก.ตร.ไม่ขยายเวลาการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.ตร.ยัน 31 มี.ค.นี้ จบทุกอย่าง พร้อมอนุมัติติดดาวให้นายดาบตชด.ที่มาดูแลร้านทอง และถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นความภาคภูมิใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันนี้ (23 มี.ค.)เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี

ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 4/2555 โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ก.ตร.วันนี้ได้อนุมัติเปิดตำแหน่งในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และบางหน่วย ที่ไม่กระทบกับโครงสร้าง เนื่องจากบางหน่วยที่เสนอกำหนดตำแหน่งใน ก.ตร.ครั้งนี้ ตร.ยังไม่อนุมัติโครงสร้างหน่วย 

ดังนั้น จึงยังเปิดตำแหน่งไม่ได้ จึงต้องไปทำโครงสร้างให้เสร็จเสียก่อน วันนี้จึงอนุมัติเปิดตำแหน่งในส่วนที่ไม่กระทบกับโครงสร้าง อาทิ ในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ไม่มีการปรับโครงสร้างแต่เพิ่มตำแหน่ง กว่าพันตำแหน่ง

“การแต่งตั้งรองผู้บังคับการ (รองผบก.) ถึงสารวัตร (สว.) ต้องให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 31 มีนาคม ตามที่ขออนุมัติขยายเวลาต่อ ก.ตร.ไปก่อนหน้านี้ ไม่มีการเลื่อนเวลาออกไปแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นวันที่ 31 มีนาคม ต้องจบ จะเซ็นต์คำสั่งในวันที่ 31 มีนาคมก็ได้ ไม่ขยายแล้ว ไม่เอา เดี๋ยวไม่จบ ส่วนใน สตม.และตำแหน่งอื่นๆ ที่เปิดในวันนี้ก็แต่งตั้งให้ทันภายในวาระนี้” ผบ.ตร.กล่าว

เมื่อถามว่า มีการขอใช้ มาตรา 56 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ต่อ ก.ตร.เพื่อใช้อำนาจ ผบ.ตร.ในการพิจารณาแต่งตั้งหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ไม่มีการขออำนาจตรงนี้ ดังนั้นจึงไม่มีการแต่งตั้งเลื่อนขึ้นข้ามหน่วย แม้แต่ในศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ก็ทราบว่า เป็นการแต่งตั้งคนในหน่วยทั้งนั้น แทบไม่มีการเอาคนนอกหน่วยไปขึ้น น่าจะมีแต่ในระนาบ ยังไม่มีการมาขออำนาจมาตรา 56 แต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณากรณีการแต่งตั้งไม่ครบ 2 ปี แล้ว โดยยังบอกจำนวนที่ขอยกเว้นหลักเกณฑ์ไม่ได้ ทั้งนี้ การออกคำสั่งต้องทันภายในวันที่ 31 มีนาคม ไม่เช่นนั้นผู้บัญชาการต้องรับผิดชอบ ในส่วนของหน่วยขึ้นตรงผบ.ตร.ก็ต้องออกให้ทันกำหนดเช่นกัน ทั้งนี้ก.ตร.วันนี้ยังไม่ได้พิจารณากรณีการนับอายุราชการทวีคูณของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.แต่อย่างใด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้ลงนามคำสั่งมอบหมายให้ 

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.เป็นประธาน 
พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ รองผบ.ตร.และ 
พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ 
พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม ผบช.สกพ. 
พล.ต.ต.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ ผบก.ทพ. 

ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณากรณี การแต่งตั้งไม่เป็นไปตามกฎ ก.ตร.กรณีโยกย้ายโดยครองตำแหน่งไม่ครบ 2 ปี และการแต่งตั้งเลื่อนขึ้นข้ามหน่วย

ด้าน 

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า ก.ตร.ได้อนุมัติตำแหน่ง 

รองผบก.ใน บช.กมค.4 อัตรา 

ประกอบด้วย 

รองผบก.ฝ่าย กม.1 อัตรา 
รองผบก.กองคดีอาญา 1 อัตรา 
รองผบก.สถาบันส่งเสริมการสอบสวน 1 อัตรา
รอง ผบก.กองคดีแพ่ง 1 อัตรา
       
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ บช.สตม.ก.ตร.ได้พิจารณานานพอสมควร เพราะมีความสำคัญ เพื่อแก้ใขปัญหาการท่องเที่ยว โดยจะมีการเพิ่มในส่วนของท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่ง คือ ภูเก็ต ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ สุวรรณภูมิ

และเพิ่มในด่านตรวจคนเข้าเมือง งานสืบสวน งานห้องกักและงานคนต้องห้ามเน้นเรืิ่องความมั่นคงและการบริการนักท่องเที่ยว โดยเพิ่ม รองผบก.ใน สตม.14 ตำแหน่ง ใน 7 บก.คือ บก.ตม.1-6 และบก.สส.สตม แต่ละบก.จะเพิ่ม รองผบก.2 อัตรา

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับ ผกก.เพิ่ม 5 ตำแหน่งโดยเป็นการยกกระดับด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มี สวญ.เป็นหัวหน้าสถานีให้ยกเป็นมี ผกก.เป็นหัวหน้าสถานี 5 ด่าน คือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองระยอง ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ระนอง สุราษฎร์ธานี นอกจากนั้น ได้เพิ่ม 

- รองผกก.32 ตำแหน่ง 
- สว.35 ตำแหน่ง 
- รอง สว.351 ตำแหน่ง 
- ผบ.หมู่ 815 ตำแหน่ง 

กระจายไปตามด่านตรวจคนเ้าเมืองต่างๆ รวมเปิดตำแหน่งเพิ่มใน สตม.1322 ตำแหน่ง 

สำหรับใน

สำนักงาน ก.ตร.

เพิ่มตำแหน่ง

รอง ผบก.1 ตำแหน่ง 

บช.ปส. เพิ่ม รอง ผบก.อีก 4 ตำแหน่ง

ส่วนบช.อื่นมีการกระทบกับโครงสร้างให้ยกไปก่อนค่อยมาพิจารณาในการประชุม ก.ตร.ครั้งต่อไป

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ตำแหน่งที่อนุมัติในวันนี้จะแต่งตั้งพร้อมกันกับวาระประจำปี 2554 ที่จะให้้สร็จภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ และยืนยันว่า จะไม่มีการเลื่อนแต่งตั้งอย่างที่มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้
       
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ก.ตร.ยังอนุมัติแต่งตั้ง 

ด.ต.เชี่ยวชาญ เจริญศิริ ผบ.หมู่ กก.ตชด.21

ขึ้นเป็น ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ในตำแหน่งบังคับหมวด กก.ตชด.21 เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย

สืบเนื่องจาก ด.ต.เชี่ยวชาญได้ต่อสู้กับคนร้ายที่ปล้นทองร้านทองออโรร่า ตลาดมีนบุรี เมืิ่อช่วงปีใหม่จนคนร้ายเสียชีวิต ขณะที่ตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส 

ถือเป็นการทำงานอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยว เสี่ยงอันตราย มีปฏิภาณไหวพริบ แก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จนไม่คิดถึงชีวิต เป็นภาคภูมิใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
Read more ...

"ผบ.ตร." เปิดหมดเปลือก! ปมร้อน "ชายชั้น 7" รับมีอำนาจแทรกแซงแต่งตั้ง วิ่งเต้นกันอุตลุด

22/3/55
โดยมติชน เมื่อ 21 มี.ค.2555

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ถึงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการ (รองผบก.) ถึง สารวัตร(สว.) วาระประจำปี 2554 ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ว่า การแต่งตั้งไม่มีการเลื่อน หรือขยายเวลาออกไป ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม ตามกรอบเวลา ซึ่งวันที่ 23 มีนาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชตำรวจ (ก.ตร.)

@ การแต่งตั้งครั้งนี้มีกระแสข่าวมีอำนาจจากภายนอกเข้ามาแทรกแซง

การแต่งตั้งทุกครั้ง มีอำนาจเข้ามาแทรกอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นความจริง ยอมรับว่ามีอำนาจมาแทรก ตำรวจมันไม่เหมือนหน่วยงานอื่น มันวิ่งกันอุตลุด นี่ตั้งกี่เดือนแล้วยังไม่จบเลย แต่ผมบอกว่าครั้งนี้ผมไม่ยอม ต้องจบ เดือนมีนาคม ต้องเสร็จ ที่ล่าช้าเรื่องวิ่งก็มีส่วน

@ กรณีที่ว่ามีชายชั้น 7 เข้ามาเกี่ยวข้อง

เป็นเรื่องที่พูดกัน แต่ยืนยันว่าผมไม่ยอม จะมาแบบทำให้ระบบมันเสีย เอาผลประโยชน์มาพัวพัน ถ้าอย่างนี้ถ้ารู้แล้วต้องดำเนินคดีอาญากับคนเหล่านี้ มาทุจริต มาเรียกร้องเงินตำรวจ ต้องดำเนินคดีอาญาเลย ไม่ต้องเอาไว้ เพราะฉะนั้นผมบอกว่างานตำรวจถ้าเรายอมให้มีระบบซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น เด็กก็ไม่ทำงาน มันไม่ต้องทำงานหรอก แค่ไปวิ่งเสียเงินก็ดำรงตำแหน่งได้ ผมไม่ยอมหรอก ได้ยินเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งเป็นเรื่องมานานเล้ว ไม่ใช่ในสมัยผม ก็มีแล้ว มีมาเนิ่นนานแล้ว อย่าไปพูดเลย ผมจะทำให้ดีที่สุด

“ตัวผม ผมไม่ทำแล้วกัน พยายามจะป้องกันด้วย ว่าคนไหนทำผมไม่ยอม ถ้าชั้น 7 ชั้นอะไรมาผมไม่ได้คุยด้วยกับเขาอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกน้องก็เข้าใจผมดี คนชั้น 7 ไม่อยู่แล้ว ผมไม่เจอ ผมไม่เคยขึ้นไปชั้น 7 ผมไม่เคยเจอเขา”

@ คนชั้น 7 ขึ้นไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร ?

เขาคงขึ้นมาหาใคร คงแวะมาหาใครที่ เขารู้จัก คนข้างในก็คุยด้วยบ้าง ไม่คุยด้วยบ้างเขาก็ไป ไม่มีหรอกเข้ามาเกี่ยวอะไร ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องเรืองจัดซื้อจัดจ้าง

“ผมต้องเรียนว่า คนคนนี้ทำความหนักใจให้กับผม คือมีคนพูดเยอะ อย่างโน้นอย่างนี้ ผมบอกเลย ไม่ต้องห่วง ผมยืนยันได้ ผมเองไม่เอาคนคนนี้ ก็ไม่มีอะไร ไม่มีสายการเมืองส่งมาแลกเปลี่ยนอะไร เป็นที่ปรึกษาก็ไม่มี ใครก็อ้างได้ เป็นที่ปรึกษาผม ที่เป็นที่ปรึกษาเป็นหลักเป็นฐาน มี พล.ต.อ.ชลอ ชูวงษ์ พล.ต.ต.มณสัณฑ์ สุขกนิษฐ์ พล.ต.ต.จำนงค์ แก้วศิริ มีแค่นี้ ยืนยันว่าคนๆนี้ไม่เกี่ยวอะไร ที่ว่ามาก้าวก่ายการแต่งตั้งไม่มี ไม่มีใครเอา เด็กๆก็รู้ ไม่มีใครเอาหรอก ถ้ามีหลักฐานก็ดำเนินคดีไป ว่าไป”

@ มีกระแสข่าววิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ผกก. 3 ล้าน คนวิ่งได้ 5 แสน

มีที่ไหนหรือ พวกตำรวจก็แบบนี้ น่าปวดหัว ส่วนกรณียกเว้นหลักเกณฑ์ 2 ปี ตอนนี้กำลังดูอยู่ว่าจะตั้งใคร เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณา ทุกอย่างต้องเป็นธรรมตรงไปตรงมา ไม่ต้องห่วง

อนึ่งมีรายงานวันเดียวกันว่า สำหรับบรรยากาศบนอาคาร 1 ชั้น 7 ฝั่งซ้าย ซึ่งเคยเป็นสำนักงานผบ.ตร.และเป็นห้องทำงานส่วนตัวของพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตผบ.ตร. ซึ่งมีข่าวลือกันว่าได้กลายเป็นห้องทำงานชายแปลกหน้า ที่ตกเป็นข่าว ว่าอาจเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งตำรวจในขณะนี้ ปรากฎว่าภายในห้องฝั่งซ้ายปิดไฟสนิท ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน แต่ยังคงมีอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานวางอยู่ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวสะพัดว่าชายคนดังกล่าวจะแวะเวียนเข้ามานั่งทำงานในห้องสำนักงานชั้น 7 เป็นประจำ

กระทั่งสื่อมวลชนนำเสนอข่าวถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ชายแปลกหน้าดังกล่าว เดินทางเข้ามายังสำนักงานชั้น 7 น้อยลง ขณะที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานของชายคนดังกล่าวซึ่งมีนายตำรวจยศ พล.ต.ต. รวมอยู่ด้วยที่เคยมานั่งเป็นประจำ ก็หายไปด้วยเช่นกัน แต่มีกระแสข่าวลือว่า แม้จะไม่ได้นั่งอยู่ที่ชั้น 7 แต่ชายคนดังกล่าวและพวก ยังคงมีความพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจ โดยใช้บ้านพักหลังหนึ่งย่านลาดพร้าวเป็นสำนักงานชั่วคราวในการทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจ
Read more ...

ผบ.ตร.ไม่ยอมชายชั้น 7 ล้วงโผโยกย้าย

22/3/55
โดยคมชัดลึก เมื่อ 21 มี.ค.2555

"เพรียวพันธ์" รับถูกแทรกแซงโผโยกย้ายรองผู้การ-สารวัตร ชี้ "ชายชั้น7" มีจริง แต่ไม่รับฟัง ไม่เอา ไม่ยอม ระบุพบยุ่งแต่งตั้งเอาผลประโยชน์ "อชิริวิทย์" เผยผลสอบ "ศรีวราห์" ศชต.ยืนยันสิทธิทวีคูณ เตรียมหารือ ก.ตร.
           
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) 

กล่าวถึงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการ(รอง ผบก.) ถึงสารวัตร(สว.) วาระประจำปี  ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ว่า การแต่งตั้งไม่มีการเลื่อนหรือขยายเวลาออกไป ต้องเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ตามกรอบเวลา ซึ่งวันที่ 23 มีนาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ตนขออนุมัติเปิดตำแหน่งใหม่ในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เพื่อรองรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ต
           
"เรื่องนี้เร่งรีบเพราะต้องเอาคนมาทำงาน เนื่องจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นวันหนึ่งเป็นแสนคน ทุกวันนี้ใช้กำลังจากหน่วยงานข้างเคียงมาช่วยไปพลางๆ ใช้การจัดแถวรูปงู (snake line)ก็แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง ได้รายงานให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทราบแล้วว่าขณะนี้การแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่พอกับปริมาณนักท่องเที่ยวดำเนินไปด้วยดี

แต่ก่อนสิ้นเดือนนี้ แถวเจ้าหน้าที่ต้องเต็ม ทั้งนี้ตำแหน่งในสตม. จะขออนุมัติก.ตร.บางส่วนเป็นตำแหน่งเดิม ของกลุ่มตำรวจชั้นประทวน ที่สอบเป็นชั้นสัญญาบัตรได้ 98 คน แต่ต้องขอ ก.ตร.ทันทีที่อนุมัติ ตนจะแต่งตั้งคนเหล่านี้ที่เคยอยู่ มีทักษะภาษาอังกฤษไปดำรงตำแหน่งที่ สตม.ได้เลย ส่วนตำแหน่งเปิดใหม่ ตามการขยายโครงสร้างสตม.ซึ่งมีระดับรองสารวัตรด้วย ตนก็จะแต่งตั้งเลย" ผบ.ตร. กล่าว
           
เมื่อถามว่าการแต่งตั้งครั้งนี้มีกระแสข่าวว่ามีอำนาจจากภายนอกเข้ามาแทรกแซง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การแต่งตั้งทุกครั้งมีอำนาจเข้ามาแทรกอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นความจริง และยอมรับว่ามีอำนาจมาแทรก
           
“ตำรวจมันไม่เหมือนหน่วยงานอื่น มันวิ่งกันอุตลุด นี่ตั้งกี่เดือนแล้วยังไม่จบเลย แต่ผมบอกว่าครั้งนี้ผมไม่ยอม ต้องจบ เดือนมีนาคมต้องเสร็จ ที่ล่าช้าเรื่องวิ่งก็มีส่วน” ผบ.ตร. กล่าว เมื่อถามถึงแล้วกรณีที่มีชายชั้น 7 เข้ามาเกี่ยวข้อง ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พูดกัน แต่ยืนยันว่าตนไม่ยอม
           
“จะมาทำให้ระบบมันเสีย เอาผลประโยชน์มาพัวพัน ถ้าอย่างนี้ถ้ารู้แล้วต้องดำเนินคดีอาญากับคนเหล่านี้ มาทุจริต มาเรียกร้องเงินตำรวจ ต้องดำเนินคดีอาญาเลย ไม่ต้องเอาไว้ เพราะฉะนั้นผมบอกว่างานตำรวจถ้าเรายอมให้มีระบบซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น เด็กก็ไม่ทำงาน มันไม่ต้องทำงานหรอก แค่ไปวิ่งเสียเงินก็ดำรงตำแหน่งได้ ผมไม่ยอมหรอก" ผบ.ตร. กล่าวและว่า ได้ยินเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ในการแต่งตั้งเป็นเรื่องมานานเล้ว ไม่ใช่ในสมัยตน ก็มีแล้ว มีมาเนิ่นนานแล้ว อย่าไปพูดเลย ตนเองจะทำให้ดีที่สุด
           
“ตัวผม ผมไม่ทำแล้วกัน พยายามจะป้องกันด้วยว่าคนไหนทำ ผมไม่ยอม ถ้าชั้น 7 ชั้นอะไรมาผมไม่ได้คุยด้วยกับเขาอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกน้องเข้าใจผมดี

คนชั้น 7 

ไม่อยู่แล้ว ผมไม่เจอ ผมไม่เคยขึ้นไปชั้น 7 ผมไม่เคยเจอเขา” ผบ.ตร.กล่าว
           
เมื่อถามว่า คนชั้น 7 ขึ้นไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า คงขึ้นมาหาใคร คงแวะมาหาใครที่รู้จัก คนข้างในก็คุยด้วยบ้าง ไม่คุยด้วยบ้าง เขาก็ไป ไม่มีหรอก เข้ามาเกี่ยวอะไร ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง
           
“ผมต้องเรียนว่า คนคนนี้ทำความหนักใจให้กับผม คือมีคนพูดเยอะ อย่างโน้นอย่างนี้ ผมบอกเลย ไม่ต้องห่วง ผมยืนยันได้ ผมเองไม่เอาคนคนนี้ ก็ไม่มีอะไร ไม่มีสายการเมืองส่งมาแลกเปลี่ยนอะไร เป็นที่ปรึกษาก็ไม่มี ใครก็อ้างได้ เป็นที่ปรึกษาผม ที่เป็นที่ปรึกษาเป็นหลักเป็นฐาน มี

พล.ต.อ.ชลอ ชูวงษ์ 


พล.ต.ต.มณสัณฑ์ สุขกนิษฐ์ 


พล.ต.ต.จำนงค์ แก้วศิริ 

มีแค่นี้ ยืนยันว่าคนๆนี้ไม่เกี่ยวอะไร ที่ว่ามาก้าวก่ายการแต่งตั้งไม่มี ไม่มีใครเอา เด็กๆก็รู้ ไม่มีใครเอาหรอก ถ้ามีหลักฐานก็ดำเนินคดีไป ว่าไป” ผบ.ตร. กล่าว
           
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าววิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ผกก. เป็นเงิน 3 ล้าน คนวิ่งได้ 5 แสน ผบ.ตร.กล่าวว่า มีที่ไหนหรือ พวกตำรวจก็แบบนี้ น่าปวดหัว ส่วนกรณียกเว้นหลักเกณฑ์ 2 ปี ตอนนี้กำลังดูอยู่ว่าจะตั้งใคร เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณา ทุกอย่างต้องเป็นธรรมตรงไปตรงมา ไม่ต้องห่วง
           
ผบ.ตร.ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการนับอายุราชการทวีคูณ

พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 

เพื่อใช้สิทธิ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ว่าเรื่องนี้เพิ่งคุยกับ


พล.ต.ท.ไพทูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ผบช.ศชต.)

เมื่อวานนี้ ซึ่ง ผบช.ศชต.ยืนยันว่า มีการประชุมเรื่องนี้กันแล้ว และยืนยันตามเดิมเรื่องการให้สิทธินับอายุราชการทวีคูณ
           
“ผมก็บอกไป คราวนี้ข้อมูลเพิ่มขึ้น มีข้อมูลใหม่ก็ควรเอามาพิจารณา แต่หากยืนยันอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร ผมจะเอาเรื่องนี้ไปคุยใน ก.ตร.ว่า ก.ตร.จะเอาหรือเปล่า ตัดสินเลยหรือเปล่า เพราะเรื่องนี้ควรต้องสรุปแล้ว ยืดเยื้อนานมากแล้วคนที่ควรได้รับการแต่งตั้งโดยไม่ได้ใช้เล่ห์ กลอุบายอะไรก็ไม่ได้รับการแต่งตั้งสักที ไอ้คนที่ใช้เล่ห์กลอุบายก็เป็นอย่างนี้ ซึ่งผมไม่ได้ว่าใครนะ ก.ตร.ครั้งนี้แม้ไม่ได้บรรจุวาระ แต่ผมจะเอาเข้าไปคุย เรื่องนี้ทาง ศชต.บอกว่าสรุปมานานแล้ว แต่นั่นเป็นข้อมูลเก่า แต่หากมีข้อมูลใหม่เพิ่มมากขึ้น ควรเอามาพิจารณาด้วย ถึงจะเป็นธรรม ขณะนี้ รรท.ผบช.ภ.1 ก็ยังเป็นคนเดิม ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่งตั้งไม่ได้สักที มันตลก” ผบ.ตร. กล่าว
           
ขณะที่มีรายงานในวันที่ 23 มีนาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ครั้งที่ 4/2555 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 ตร. โดยมีวาระสำคัญ คือ เรื่องที่เสนอเพื่อทราบผลการตอบข้อหาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับระเบียบ ตร.ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 ส่วนเรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณาการกำหนดตำแหน่ง รอง ผบก.เพิ่มให้กับ สง.ก.ต.ช.และ บช.ศ. การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับ สง.นรป. , จต. , กมค. , ทพ.สกพ. , อต. , พท.สกพ. , สง.ก.ตร. , บช.ปส.(ศูนยสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด) รวมถึงผลการหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อประกอบการายงานการดำเนินการทางวินัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.
           
ด้าน

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 

กล่าวถึงกระแสข่าวการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. - สว. ว่าเรื่องนี้อยากจะชี้แจงว่า เมื่อคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ จึงทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ และกล่าวหากันไปต่างๆ นานาน ทั้งเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง เรื่องตั๋วจากนักการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ แต่หากคำสั่งแต่งตั้งออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับมีการร้องทุกข์เข้ามา ตรงนี้จะถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องมีการพิสูจน์ต่อไป ส่วนกรณีการวิ่งเต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ได้ดำรงตำแหน่งที่ดีนั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติในทุกองค์กร ที่จะมีการวิ่งเต้นหรือแทรกแซง อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งต้องยึดคุณธรรม และระบบอาวุโสเป็นหลัก
           
“ผมคิดว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้การฯ ถึงสารวัตรในครั้งนี้ น่าจะเสร็จทันภายในวันที่ 31 มีนาคม นี้ แต่การจะชะลอการแต่งตั้งออกไปก่อนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล การปรับโครงสร้างต่างๆ รวมถึงเรื่องน้ำท่วมก็อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้” พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าว
           
เมื่อถามถึงกระแสข่าวชายแปลกหน้า ชั้น 7 พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ยิน แต่ทราบว่า ผบ.ตร.ไม่ยอม ไม่ได้รับฟัง แต่ก็เป็นธรรมดาในช่วงการแต่งตั้งที่หลายคนพยายามสร้างราคาให้ตัวเอง
           
ขณะที่มีรายงานว่า บรรยากาศบนอาคาร 1 ชั้น 7 ฝั่งซ้าย ซึ่งเคยเป็นสำนักงาน ผบ.ตร.และเป็นห้องทำงานส่วนตัวของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร. ได้กลายเป็นห้องทำงาน

ชายแปลกหน้า

ที่ตกเป็นข่าวว่า อาจเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งตำรวจในขณะนี้ โดยภายในห้องฝั่งซ้ายปิดไฟสนิท ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน แต่ยังคงมีอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานวางอยู่ โดยก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวจะแวะเวียนเข้ามานั่งทำงานในห้องสำนักงานชั้น 7 เป็นประจำ กระทั่งสื่อมวลชนนำเสนอข่าวถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ชายแปลกหน้าดังกล่าว เดินทางเข้ามายังสำนักงานชั้น 7 น้อยลง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานของชายคนดังกล่าว ซึ่งมี

นายตำรวจยศ พล.ต.ต.

รวมอยู่ด้วยที่เคยมานั่งเป็นประจำก็หายไปด้วยเช่นกัน แต่มีกระแสข่าวว่า แม้จะไม่ได้นั่งอยู่ที่ชั้น 7 แต่ชายคนดังกล่าวและพวก ยังคงมีความพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจ โดยใช้บ้านพักย่านลาดพร้าวเป็นสำนักงานชั่วคราวในการทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจ
Read more ...

โผตำรวจ

21/3/55
โดย วงค์ ตาวัน ข่าวสด เมื่อ 20 มี.ค.2555

ระยะนี้ผลงานตำรวจไทยยุคร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ กำลังเดินหน้าเรื่องยาเสพติดอย่างได้ผล มีผลงานจับกุมยาบ้า ยาไอซ์ ล็อตใหญ่ๆ ถี่ยิบ

ปราบกันตั้งแต่ภาคเหนือ มาจนถึงในโรงพยาบาล

เล่นฉกเอายาแก้หวัดแก้แพ้ ส่งไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาบ้ากันเป็นว่าเล่น เริ่มตรวจพบในโรงพยาบาลหลายแห่ง

เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข และหยุดยั้งให้ได้

ที่แน่ๆ ปฏิบัติการปราบยาเสพติดของตำรวจยุคนี้ เป็นผลงานที่เชิดหน้าชูตาให้กับรัฐบาลได้เป็นอย่างดี

เป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับรัฐบาลยุคก่อน!

พร้อมๆ กันระยะนี้ เป็นช่วงจัดทำโผโยกย้ายระดับรองผู้การ ผู้กำกับ สารวัตร ทั่วประเทศพอดี

ด้านหนึ่งผลงานปราบยาเสพติด จะเป็นคะแนนช่วยให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนชั้นได้เป็นอย่างดี

อีกด้านหนึ่งเครดิตของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จากผลงานด้านนี้

ช่วยให้สถานะของผบ.ตร.เข้มแข็งขึ้น ในการกุมดาบอาญาสิทธิ์พิจารณาบัญชีโยกย้าย

กระบวนการจัดทำโผในขณะนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า อยู่ในระบบปกติขององค์กรตำรวจ

ทำโผกันที่ตึกสำนักงานกำลังพล อาคาร 19 ส่วนชั้น 7 ของตึกไหน ไม่เกี่ยวทั้งสิ้น!!

แน่นอนว่า ฝ่ายการเมือง ฝ่ายรัฐบาล ย่อมต้องมีการสนับสนุนหรือช่วยป้อนข้อมูลในการแต่งตั้งโยกย้าย

ตั๋วการเมืองย่อมต้องมี

ส.ส.ในแต่ละพื้นที่ย่อมรู้เห็นการประพฤติปฏิบัติของตำรวจในแต่ละโรงพัก ย่อมมีตั๋วมาเชียร์มาหนุนหรือมาเสนอให้เชือดให้เด้งเป็นเรื่องปกติ

แต่การเมืองจะสนับสนุนใคร ก็ต้องส่งมาผสมผสานกับบัญชีขององค์กรตำรวจตามขั้นตอน สุดท้ายต้องขึ้นกับการพิจารณาของผู้บัญชาการแต่ละหน่วย ซึ่งจะต้องเป็นผู้ออกคำสั่งโยกย้ายของแต่ละกองบัญชาการ
ข่าวที่ว่าขัดกันหนัก ต่างขั้วต่างทำบัญชี ยังเป็นแค่เรื่องที่พูดๆ กันไป

ที่สำคัญต้องรู้ว่าผบ.ตร.คนนี้ ชื่อชั้นวงศ์ตระกูลไม่ธรรมดา

ความสัมพันธ์กับแกนนำของพรรครัฐบาลเป็นไปอย่างแนบแน่น

การจัดทำโผจึงน่าจะประสานกันได้อย่างราบรื่น

ถูกแล้วที่ต้องให้องค์กรตำรวจเป็นหลักในการจัดทัพจัดแถว ฝ่ายการเมืองก็ผสมผสานตามสมควรอย่างลงตัว

สุดท้ายเมื่อเซ็นคำสั่งแต่งตั้งออกมาจะได้ไร้ข้อครหา!
Read more ...

ก.ตร.นัดถกปรับโครงสร้าง ตม.

21/3/55
โดยข่าวสด เมื่อ 20 มี.ค.2555

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี 

นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 4/2555 ในวันที่ 23 มี.ค. เวลา 13.30 น. 

โดยมีวาระสำคัญ คือ 

การพิจารณาปรับโครงสร้างของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยเพิ่มตำแหน่งรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) และชั้นประทวน รวม 1,322 ตำแหน่ง

แยกเป็น

ระดับ 

- รอง ผบก. 14 ตำแหน่ง 
- ผกก. 5 ตำแหน่ง 
- รอง ผกก. 32 ตำแหน่ง 
- สว. 35 ตำแหน่ง 
- รอง สว. 351 ตำแหน่ง และ
- ผบ.หมู่ อีก 885 ตำแหน่ง 

นอกจากนี้ ยังกำหนดตำแหน่ง รอง ผบก. เพื่อปรับโครงสร้างให้กับ บช.ศ. (โอนศฟร.ก.1-8 และศฟร.ศชต.ไปยังสังกัดบช.ศ.) สง.ก.ตร. สง.นรป. ตำแหน่ง จต. กมค. ทพ. สกพ. อต. ทพ.สกพ. โดยเปิดให้ครบทั้งหมด 2,682 ตำแหน่ง

ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก. - สว. ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาบัญชีแต่งตั้งผู้เหมาะสมให้แต่ละกองบัญชาการ (บช.) ที่ไม่มีสังกัด เพื่อส่งข้อมูลให้ผบช. แต่ได้มีการเลื่อนส่งรายชื่อยกเว้นหลักเกณฑ์ 2 ปีพร้อมเหตุผลของกองบัญชาการต่างๆ เข้ามายังตร.ออกไปอีก 2 วัน เนื่องจากอาจมีการสลับตำแหน่งข้ามกันระหว่างกองบัญชาการต่างๆ จึงทำให้บัญชีในตำแหน่งต่างๆ ไม่ลงตัว 

ทั้งนี้ เมื่อได้รับรายชื่อครบทั้งหมดจะนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 มี.ค. โดยมี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. เป็นประธานการประชุม

ด้าน

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.

กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวเลื่อนการแต่งตั้งนายตำรวจระดับ รอง ผบก. – สว.ออกไปก่อนนั้น ยืนยันว่าการแต่งตั้งยังไม่มีการเลื่อนออกไปแต่อย่างใด และการแต่งตั้งนายตำรวจระดับ รอง ผบก. – สว. จะเสร็จสิ้นทันภายในวันที่ 31 มี.ค.แน่นอน โดยขอย้ำว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงกระแสข่าวลือเท่านั้น
Read more ...

เริ่มแต่งตั้ง "รองผบก.-สว." ลิสต์อาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ "นครบาล" เช็กกระแสจองเก้าอี้เด็ก"รบ."พรึบ!!

19/3/55
โดยมติชน เมื่อ 18 มี.ค.2555

หลัง "บิ๊กอ๊อบ" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป่า นกหวีดเดินหน้า จัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ผู้กำกับการ (ผกก.) รองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) และสารวัตร (สว.) ในวาระแต่งตั้ง โยกย้ายตุลาคม 2554 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา

โดยคำสั่งแต่งตั้ง "รอง ผบก.-สว." มีกำหนดคลอด วันที่ 29 มีนาคม 2555 และให้มีผลบังคับใช้วันที่ 2 เมษายน 2555

จะ เรียกว่าเป็นครั้งแรกของการแต่งตั้งระดับ "รอง ผบก.-สว." ในยุครัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ ยุคสลับขั้วอำนาจจาก "พรรคประชาธิปัตย์" มาเป็น "พรรคเพื่อไทย" ก็ไม่ผิด

ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทุก ครั้ง พื้นที่ที่ถูกจับตาหนีไม่พ้น กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ควบคุมดูแลเมืองหลวง "กรุงเทพมหานคร" ทำเลที่บรรดานักวิ่งต่างหมายปอง เมื่อลั่นกลอง (รบ) เมื่อใด ใคร "ขาลอย" อาจถูกแซะ ถูกเตะโด่งโดย ไม่รู้ตัว ซึ่งการแต่งตั้ง "รอง ผบก.-สว." ระลอกนี้ นับ เป็นครั้งแรกของในยุค ผบช.น. ชื่อ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ด้วยเช่นกัน

ปฏิทินจัดทำบัญชีแต่งตั้ง โยกย้าย "รอง ผบก.-สว." ในส่วนของ บช.น. ซึ่งไม่ได้สังกัด สง.ผบ.ตร. มีดังนี้ พล.ต.ท.วินัย มีคำสั่งให้กองบังคับการ (บก.) ในสังกัด บช.น. ประชุมพิจารณาจัดทำบัญชีผู้เหมาะสม และ ส่งข้อมูลมาให้ บช.น.ในวันที่ 14 มีนาคม

จากนั้น วันที่ 16 มีนาคม ให้ บช.น.โดยคณะกรรมการคัดเลือกหรือบอร์ดกลั่นกรอง มีรอง ผบช.น. อาวุโสอันดับ 1 นั่งหัวโต๊ะ ซึ่งในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ มี พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ เป็นประธาน คณะกรรมการกลั่นกรอง เรียกประชุมพิจารณาจัดทำบัญชีผู้เหมาะสมและส่งข้อมูลให้ พล.ต.ท.วินัย ผบช.น.

วันที่ 17-18 มีนาคม พล.ต.ท.วินัยจัดทำเอกสารบัญชีแต่งตั้ง และวันที่ 20 มีนาคม ส่งรายชื่อในส่วน ที่ขอยกเว้นหลักเกณฑ์ 2 ปี (ดำรงตำแหน่งปัจจุบัน ไม่ครบ 2 ปี) พร้อมหนังสือชี้แจงเหตุผล เสนอให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ผบ.ตร.พิจารณาเห็นชอบ โดยผลการพิจารณาจะส่งกลับมาให้ ผบช.น. เพื่อให้ประชุม คัดเลือกในวันที่ 26 มีนาคม ก่อนถึงกำหนดคลอด คำสั่งลงนามโดย ผบช.น. ในวันที่ 29 มีนาคม

ลิสต์ตำแหน่งว่างใน "นครบาล" แบ่งเป็น รอง ผบก.ว่าง 9 ตำแหน่ง ผกก.ว่าง 11 ตำแหน่ง รอง ผกก.ว่าง 9 ตำแหน่ง ไม่รวมรอง ผกก.สส.ที่ว่างอีก 4 ตำแหน่ง ซึ่งอาจโยกพนักงานสอบสวน (สบ 3) มา นั่งแทน และ สว.ว่าง 29 ตำแหน่ง

โดย หลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย กำหนดให้ผู้มีอาวุโสสูงสุด 33 เปอร์เซ็นต์ ได้เลื่อนตำแหน่งโดยอัตโนมัติ ดังนั้น จะทำให้มี ผกก.ที่ได้ขึ้น รอง ผบก. แบบออโต้ 3 ตำแหน่ง รอง ผกก.ขึ้น ผกก. แบบออโต้ 4 ตำแหน่ง สว.ขึ้น รอง ผกก.แบบออโต้ 3 ตำแหน่ง และรอง สว.ขึ้น สว. แบบออโต้ 10 ตำแหน่ง

สำหรับ รายชื่อ ผกก.อาวุโสติดโผขึ้น รอง ผบก. 3 ตำแหน่ง มี พ.ต.อ.ศิวโรจน์ สุขัควานนท์ ผกก.สน. ทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน. บางขุนเทียน และ พ.ต.อ.สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผกก.สน. บางซื่อ

อย่างไรก็ตาม มีบางรายอายุราชการเหลือไม่กี่ปี จึงอาจขอเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผกก. กรณีนี้จึงเข้าข่ายขอยกเว้นหลักเกณฑ์ หากแต่ต้องมีเหตุผล ที่เหมาะสม เพื่อให้ ผบ.ตร.พิจารณาด้วย

ด้านตำแหน่ง รอง ผกก.อาวุโสสูงสุด 4 ลำดับแรก ขึ้นแท่น ผกก. ลอยลำ ดังนี้ พ.ต.ท.ถวัลย์ พวงเกษม รอง ผกก.สส.สน.บางกอกน้อย พ.ต.ท.พิพัฒน์ บุญเพ็ชร์ รอง ผกก.สส.สน.บางมด พ.ต.ท.สมบัติ แก่นวิจิตร รอง ผกก.สส.สน.หลักสอง และ พ.ต.ท.กันตชัย เสมาภักดี รอง ผกก.สส.1 บก.สส.

ซึ่งในส่วน รอง ผกก.สส. ที่ว่างลง อาจหมุน พนักงานสอบสวน (สบ 3) มาทดแทนเช่นเดียวกับปีก่อน

ด้าน ตำแหน่ง สว.อาวุโสสูงสุด 3 ลำดับแรก เตรียมแต่งตัวขึ้นแท่น รอง ผกก. มี พ.ต.ท.ประโยชน์ เข็มแก้ว สวป.สน.สมเด็จเจ้าพระยา พ.ต.ท.เสถียร จอกทอง สว.จร.สน.หนองค้างพลู และ พ.ต.ท.ณรงค์ชัย น้อยศรี สว.จร.สน.บางนา

ขณะ ที่ตำแหน่ง สว. หากคิดคำนวณ 33 เปอร์ เซ็นต์จากที่ว่างลง 29 ตำแหน่ง จะเท่ากับมีรอง สว.อาวุโสสูงสุด 10 ตำแหน่ง ขึ้นแท่น สว.โดย อัตโนมัติ ประกอบด้วย ร.ต.อ.จิรายุ พ่วงหงส์ รอง สวป.สน.ชนะสงคราม ร.ต.อ.วิโรจน์ สาขากร รอง สว.จร.สน.พญาไท ร.ต.อ.ทศพล จันทรสูตร รอง สว.งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร.ต.อ. ไพโรจน์ วานิชพงษ์พันธุ์ รอง สว.จร.สน.บุคคโล ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ หนุนภักดี รอง สวป.สน.ทองหล่อ

ร.ต.อ.ขวัญชัย แป้นมณฑา รอง สว.สส.สน.วัดพระยาไกร ร.ต.อ.อัฏฐวัฒน์ มหาเทียนธำรง รอง สว.งานอารักขาที่ 4 กก.อารักขา 2 บก.อคฝ. ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ อำรุงแคว้น รอง สวป.สน.ชนะสงคราม ร.ต.อ.สมบัติ เกตุกัปตัน รอง สว.งานศูนย์ควบคุมจราจร วิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. และ ร.ต.อ.สุรชัย ปลื้มจิตต์ รอง สวป.สน.ปทุมวัน

ทั้งหมดเป็นบัญชีรายชื่อติดอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ หากแต่ที่ถูกจับตาคือในส่วนพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ การบริหารงาน ปกครองบังคับบัญชาและความประพฤติ 12 ประการ รวมทั้งผลการปฏิบัติงานและประวัติรับราชการ เหตุเพราะทุกตำแหน่งล้วนให้อำนาจผู้บังคับบัญชาตัดสินใจ

ทำให้การ แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจทุกครั้ง พวกมีเส้นสายมักได้เปรียบ มีการวิ่งเต้น โยกย้าย วิ่งขอตั๋วการเมือง บิ๊กตำรวจ นักธุรกิจ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ขณะที่คนทำงานมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แต่ไม่วิ่งเต้น ไร้เส้นสาย อาจถูกมองข้าม!!

พลันที่เริ่มออกสตาร์ตมีกระแสและความเคลื่อนไหวจับจองเก้าอี้ใน บช.น. ดังนี้

พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ นายเวร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. คาดว่าอาจโยกมาจับจองเก้าอี้ ผกก.ดส.บช.น. แทนตำแหน่งของ พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง สาย นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี

ส่วนเก้าอี้ เบอร์ 1 ของ บช.น. อย่าง ผกก.สายตรวจ (191) บก.สปพ. ที่เดิมมี พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ครองอยู่ แม้จะมีข่าวว่า พ.ต.อ.วิวัฒน์เคยสนิทกับขั้วอำนาจเก่า และดูเหมือนงวดนี้ พ.ต.อ.วิวัฒน์จะพยายามยึดเก้าอี้เอาไว้ หากแต่ตำแหน่งนี้ประมาทไม่ได้เพราะมีคนจ้องตาเป็นมัน และยังไม่มีอะไรแน่นอน

มา ถึงเก้าอี้ สว.งานสายตรวจ ที่ งวดนี้ พ.ต.ท. วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร สว.งานสายตรวจ 1 (คุม บก.1-2-3) เตรียมแต่งตัวขึ้น รอง ผกก.หลังครองเก้าอี้มานาน 4 ปี โดยมีข่าวว่า พ.ต.ท.พีรวัส ประสาทกลาง สว.สส.สน.บางนา สาย "เจ๊แดง" เป็นตัวเต็ง ขับเคี่ยว กับ พ.ต.ต.พรเทพ ชุมแสง ผบ.ร้อย ตชด.344 "นรต.55" สาย "ยุทธ ตู้เย็น" ก็มีชื่อขอมาเช่นกัน

ด้าน สว.งานสายตรวจ 2 (คุม บก.4-5-6) พ.ต.ท. ดวงโชติ สุวรรณจรัส นรต.55 "เขย" พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. อยู่มา 3 ปี ต้อง "วัดกำลัง" กับ พ.ต.ท.ขวัญชัย บุญเพ็ชร สวป.สน.ลาดพร้าว สาย "นายกฯหญิง" ส่วน พ.ต.ต.สมชาย แจ้งธรรมมา สว.งานสายตรวจ 3 ดูแลฝั่งธนฯ (คุม บก.น.7-8-9) คนสนิทอดีตนายกฯมาร์ค งวดนี้มีโอกาสปิ๋วสูง โดยมี พ.ต.ท.นฤดล พุ่มพวง สว.สส.สน.บางนา "สายนายกฯหญิง" เสียบแทน แต่ก็ยังมีชื่อ พ.ต.ต.พัดธงทิว ดามาพงศ์ สว.ฝอ.บก.ทล. สอดแทรก แต่อีกทางคนสกุล "ดามาพงศ์" อาจโยกไป สว.ทท.พัทยา

ส่วนตำแหน่ง "ผกก.กองสืบ" แว่วว่ามีการเปลี่ยนแทบยกแผงเนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญ ที่เหลือหลุดรอดน่าจะเป็น พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส. บก.น.1 และ พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส. บก.น.4 เพราะ ผบช.น.เรียกใช้งานตลอด

อีกราย ที่ต้องจับตา พ.ต.อ.ปิยะวัชร์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.7 สาย "เจ๊หน่อย" อาจได้ดีขยับมาดูแลจุดยุทธศาสตร์ใจกลางกรุงเป็น ผกก.สส.บก.น.5 ส่วน พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอาง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. สาย "สารวัตรเฉลิม" อาจโยกมาดูฝั่งธนฯเป็น ผกก.สส. บก.น.9

นอกจากนี้ยังมีชื่อ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.3 หรือชื่อเดิม "ชัดชัย" นายตำรวจคนคุ้นเคย "ผบช.น." ก็มีชื่อข้ามห้วยมารับตำแหน่ง "ผกก.กองสืบ" เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หลังเริ่มออกสตาร์ต คงต้องจับตาดูว่าม้าตีนต้นจะแผ่วปลายหรือไม่ ใครจะแรงดีไม่มีตกได้แรงหนุนจากฝ่ายการเมืองเข้าเส้นชัยม้วนเดียวจบ หรือจะมีม้าแรงดีพ่วงด้วย จ๊อกกี้ฝีมือดีควบตัดหน้าเข้าวิน!!
Read more ...

ย้ำบทเรียนจาก "พล.ต.อ.สมเพียร" โยกย้ายวงการสีกากีอย่าซ้ำรอยเดิม

16/3/55

โดยเดลินิวส์ เมื่อ 16 มี.ค.2555

ในจังหวะที่กำลังจะมีการโยกย้ายครั้งใหญ่ของวงการสีกากีอีกครั้ง ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2554 ทาง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้เซ็นคำสั่งลงวันที่ 8 มี.ค. ให้ทุกกองบัญชาการ ดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ “รองผบก.-สว.” ประจำปี พ.ศ. 2554 ให้เสร็จสิ้นพร้อมกันในวันที่ 29 มี.ค. 55 นี้  หลังจากขอขยายระยะเวลาการแต่งตั้งจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ไปแล้ว  2 ครั้งด้วยกัน (ตามปกติต้องดำเนินการแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผบก.-สว.ให้เสร็จสิ้นในเดือนพ.ย.54)

เรียกว่าเป็นการขยายเวลาการแต่งตั้งยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งของแวดวงสีกากี !

ทั้งนี้ที่ประชุม ก.ตร. ได้อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการแต่งตั้งตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้เหตุผล 3 ประการคือ 1. ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งผบก.-รองผบช . 2. การแต่งตั้งระดับ รองผบก.-สว. ทางกองบัญชาการต้องดำเนินการเอง และมีหลายขั้นตอน เช่น ต้องมีการประสานงานกันระหว่างกองบัญชาการที่ต้องแต่งตั้งข้ามหน่วย และการขอยกเว้นหลักเกณฑ์ไม่ครบ 2ปี 3.อยู่ระหว่างการขออนุมัติ ก.ตร.อนุมัติตำแหน่งเพิ่มเติม

ปกติตามกฎเกณฑ์ ก.ตร.การแต่งตั้งระดับ รอง ผบก.-สว. แต่ละกองบัญชาการเป็นผู้ดำเนินการแต่งตั้งโดย มีผู้บัญชาการ (ผบช.) เสนอบัญชีรายชื่อ และให้ รอง ผบช. เป็นประธานคณะกรรมการการแต่งตั้งพร้อมคณะกรรมการอื่น ๆ โดยข้าราชการตำรวจที่จะมีสิทธิเลื่อนยศขึ้น รวมถึงโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นจะมีหลักเกณฑ์กำหนดอยู่อย่างเข้มงวด และให้ยึดลำดับอาวุโสไม่น้อยกว่า 33 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่ง หากตำรวจรายใดดำรงตำแหน่งยังไม่ครบ 2 ปีก็ไม่สามารถโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมได้เพื่อไม่ให้เกิดการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง

อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์  ผบ.ตร. เน้นย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินการแต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ  ที่สำคัญยังได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งตั้งเพิ่มเติมค่อนข้างชัดเจน อาทิ  1. ให้ทุกหน่วยดำเนินการแต่งตั้ง ข้าราชการตำรวจตามที่ อนุฯก.ตร. ร้องทุกข์มีมติให้เยียวยาหรือแก้ไขให้กับผู้ร้องทุกข์ทุกราย 2. ให้นำผลการตรวจราชการประจำปีของจเรตำรวจมาใช้ประกอบในการพิจารณาแต่งตั้ง ทั้งกรณีการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและสับเปลี่ยนหมุนเวียนในตำแหน่งเท่าเดิม

3. หากมีกรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรเลื่อนดำรงตำแหน่ง สวญ. จะต้องเป็นการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสภ. ที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง พงส. (สบ 3)  และไม่มีการแต่งตั้ง พงส. (สบ 3) หมุนเวียนมาดำรงตำแหน่งในคราวเดียวกันด้วย ให้ทุกหน่วยจัดส่งบัญชีลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจระดับ รอง สว.-ผกก. และบัญชีตำแหน่งว่างให้แก่คณะกรรมการคัดเลือก เพื่อศึกษาเป็นข้อมูลก่อนการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง

สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี สับเปลี่ยนหมุนเวียนในตำแหน่งเท่าเดิม ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ผบ.ตร.ก่อน ให้ผู้มีอำนาจดำเนินการเฉพาะกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นเท่านั้น  โดยให้ระบุตำแหน่งใหม่และเหตุผลความจำเป็นให้ชัดเจน และให้จัดทำบัญชีสรุปรายชื่อข้าราชการตำรวจที่เสนอขอความเห็นชอบ ให้แต่ละหน่วยเป็นผู้รวบรวมบัญชีรายชื่อ ข้าราชการตำรวจในสังกัด เสนอไปคราวเดียวกัน โดยให้เสนอไปยัง ตร. (ภายใน 20 มี.ค.)

ส่วนของผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ “ผกก.” ตำแหน่งเดียวระยะเวลา 4 ปี หากหน่วยมีความจำเป็นที่จะให้ดำรงตำแหน่งต่อ ให้เสนอเหตุผลความเห็นความจำเป็นมายัง ตร.(ภายใน 20 มี.ค.) โดยให้แต่ละหน่วยเป็นผู้รวบรวมบัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจเสนอไปยังตร. ในคราวเดียวกัน นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเป็นพิเศษ คือ การคัดเลือกการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง “ผกก.” ในส่วนที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ให้คำนึงถึงการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเป็นสำคัญโดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ด้านยาเสพติด ให้สามารถปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องได้ทันที เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม

โดยการแต่งตั้งให้ยึดลำดับอาวุโสไม่น้อยกว่า 33 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่ง คำสั่งครั้งนี้ ยังได้ระบุให้ทุกหน่วยดำเนินการ จัดส่งบัญชีข้าราชการตำรวจระดับ รองผบก.-สว.ภายใน 16 มี.ค. เพื่อจะได้มีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยในวันที่ 29 มี.ค.  และให้คำสั่งมีผลการแต่งตั้งพร้อมกันในวันจันทร์ที่  2  เม.ย.นี้

ดังนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายสีกากีระลอกใหญ่แบบยืดเยื้อข้ามปีในยุคที่มี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ผบ.ตร.เป็นผู้กุมบังเหียนจะออกมามีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร จึงถูกทั้งประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชนเองจับตาดูเป็นพิเศษ นอกจากนี้ล่าสุดสื่อมวลชนสายตำรวจ ต่างกำลังจับจ้องคำพูดปริศนาของรัฐมนตรี ที่เอ่ยถึงทั้ง “เงาปิศาจ” หรือ “คนใส่สูท” ได้เข้าไปป้วนเปี้ยนในยุทธจักรปทุมวัน นั้นข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร?ที่สำคัญจะเข้ามามีเอี่ยวในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ด้วยหรือไม่

เคยมีบทเรียนในอดีตสำคัญ ๆ เกิดขึ้นมากมายเมื่อถึงเวลาแต่งตั้งโยกย้ายในแวดวงตำรวจ จะมีทั้งผู้สมหวังและผิดหวังคละเคล้ากันไป แต่หากย้อนกลับไปดูจะมีเรื่องราวที่ผู้คนในสังคมน่าจะยังจดจำไม่ลืม กรณีการสูญเสีย นายตำรวจน้ำดีแต่ไม่มีเส้นสาย พล.ต.อ.สมเพียร  เอกสมญา อดีต ผกก. สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อปี พ.ศ. 2553 ก่อนจบชีวิตวันที่ 23 ก.พ. 53 อุตสาห์หอบแฟ้มประวัติคุณงามความดีในชีวิตราชการตลอด 40 ปี บากหน้าเข้าเมืองกรุงเพื่อพบผู้ใหญ่ หลังการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับ “รอง ผบก.-สว.” ระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย

พล.ต.อ.สมเพียร ได้ขอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโยกย้ายไปลงโรงพัก ในพื้นที่ จ.ตรัง สังกัด บช.ภ.9  ซึ่งมีตำแหน่งว่างอยู่ และเห็นว่าเป็นปีสุดท้ายก่อนที่จะเกษียณราชการ แต่สุดท้ายไม่ได้รับการพิจารณาโดยไม่ทราบเหตุผลชัดเจน เลยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปร้องเรียนเรื่องนี้ให้รัฐบาลรับทราบ เหตุการณ์ครั้งนั้น พล.ต.อ.สมเพียร ให้สัมภาษณ์สื่อด้วยน้ำตานองหน้า ภายหลังกลับจากยื่นเรื่องร้องเรียนก็กลับไปปฏิบัติหน้าที่ปกติใน อ.บันนังสตา

กระทั่งวันที่ 12 มี.ค. 53 วงการสีกากีก็ต้องมาสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ พล.ต.อ.สมเพียร ได้ถูกกลุ่มโจรใต้ลอบวางระเบิดสังหารขณะนั่งรถออกตรวจพื้นที่ สร้างความสลดหดหู่ให้กับสังคมอย่างมาก เมื่อมีการนำทั้งภาพ-ข่าวของ พล.ต.อ.สมเพียร มานำเสนอครั้งใด ผู้คนทั่วไปแม้จะไม่ใช่ตำรวจเองต่างก็น้ำตาซึมเกือบทุกครั้ง ก็หวังว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายของวงการสีกากี น่าจะจดจำบทเรียนของ “วีรบุรุษนักสู้ แห่งเทือกเขาบูโด” ใช้เป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดีว่าควรคำนึงถึงตำรวจที่ตั้งใจทำงานแต่ไม่มีเส้นมีสายก็ก้าวหน้าได้.

มณฑาทิพย์ แซ่ปู้
Read more ...

ตร. มีหนังสือเวียนให้แต่งตั้ง รอง ผบก.-สว.แล้ว!

11/3/55



โดยผู้จัดการ เมื่อ 8 มี.ค.2555

“ผบ.ตร.” ออกหนังสือเวียนแต่งตั้งนายตำรวจระดับ “รอง ผบก.-สว.” ยึดหลักอาวุโส เลื่อนตำแหน่ง ผกก. เน้นผลงานปราบยาเสพติด

วันนี้ (8 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. 

มีคำสั่งเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.-สว. ประจำปี 2554 ไปยังไป ผบช. ทุกหน่วย และผบก.ในสังกัดสำนักงาน ผบ.ตร. โดยมีคำสั่งให้ทุกหน่วยดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.-สว. และเพื่อความเรียบร้อยในการแต่งตั้งจึงให้ทุกหน่วยดำเนินการแต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และกฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ

นอกจากนี้ ตร.ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งตั้งเพิ่มเติม ดังนี้ 

1. ให้ทุกหน่วยดำเนินการแต่งตั้ง ข้าราชการตำรวจตามที่ อ.ก.ตร. ร้องทุกข์มีมติให้เยียวยาหรือแก้ไขให้กับผู้ร้องทุกข์ทุกราย 

2. ให้นำผลการตรวจราชการประจำปีของ จต. มาใช้ประกอบในการพิจารณาแต่งตั้ง ทั้งกรณีการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและสับเปลี่ยนหมุนเวียนในตำแหน่งเท่าเดิม 

3. หากมีกรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรเลื่อนดำรงตำแหน่ง สวญ. จะต้องเป็นการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใน สภ. ที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง พงส.สบ 3 และไม่มีการแต่งตั้ง พงส.สบ 3 หมุนเวียนมาดำรงตำแหน่งในคราวเดียวกันด้วย

ให้ทุกหน่วยจัดส่งบัญชีลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจระดับ รอง สว.- ผกก. และบัญชีตำแหน่งว่างให้แก่คณะกรรมการคัดเลือก ภายใน 12 มี.ค. เพื่อศึกษาเป็นข้อมูลก่อนการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง

สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี สับเปลี่ยนหมุนเวียนในตำแหน่งเท่าเดิม ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ผบ.ตร.ก่อน ให้ผู้มีอำนาจดำเนินการเฉพาะกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นเท่านั้น 

โดยให้ระบุตำแหน่งใหม่และเหตุผลความจำเป็นให้ชัดเจน และให้จัดทำบัญชีสรุปรายชื่อข้าราชการตำรวจที่เสนอขอความเห็นชอบ ให้แต่ละหน่วยเป็นผู้รวบรวมบัญชีรายชื่อ ข้าราชการตำรวจในสังกัด เสนอไปคราวเดียวกัน โดยให้เสนอไปยัง ตร. (ผ่าน ทพ.) ภายใน 20 มี.ค.

ผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ ผกก.ตำแหน่งเดียวระยะเวลา 4 ปี หากหน่วยมีความจำเป็นที่จะให้ดำรงตำแหน่งต่อ ให้เสนอเหตุผลความเห็นความจำเป็นมายัง ตร.ภายใน 20 มี.ค. โดยให้แต่ละหน่วยเป็นผู้รวบรวมบัญชีรายชื่อข้าราขการตำรวจเสนอไปยัง ตร.ในคราวเดียวกัน

การคัดเลือกการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ผกก. ในส่วนที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ให้คำนึงถึงการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเป็นสำคัญโดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ด้านยาเสพติด ให้สามารถปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องได้ทันที เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยการแต่งตั้งให้ยึดลำดับอาวุโสไม่น้อยกว่า 33 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่ง

ทั้งนี้ เพื่อให้การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้ 

บช.หรือ บก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. 
ให้ดำเนินการจัดส่งบัญชีข้าราชการตำรวจระดับ รอง สว.- รอง ผบก. ไปยัง ตร. (ผ่าน ทพ.) ภายใน 16 มี.ค. ประกอบด้วยบัญชีผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (บัญชีสรรหา) และผู้ไม่เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (ถ้ามี) และบัญชีแต่งตั้งข้าราชการตำรวจภายในอำนาจของ ผบช. หรือ ผบก. 

สำหรับ บช.ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร.
ให้ดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.ให้เสร็จสิ้น และมีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยในวันที่ 29 มี.ค. โดยให้คำสั่งมีผลการแต่งตั้งพร้อมกัน 2 เม.ย. 2555
Read more ...

ห่วง–พลาดท่า

10/3/55
โดยสหบาท ไทยรัฐ เมื่อ 8 มี.ค.2555

ก.ตร.ประชุมลงมติเห็นชอบเปิดตำแหน่งใหม่หลายอัตรา

แต่เรื่องใหญ่ที่หลายคนถามไถ่กันมากคือ การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบก.-สารวัตร ที่ค้างเติ่งข้ามปี และมีกำหนดคลอดได้แน่ภายใน 31 มี.ค.นี้ จะมีโรคเลื่อนอีกหรือไม่

ขณะเดียวกัน เก้าอี้ ผบช.ภ.1 ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ตอกย้ำ ความล้มเหลวของ ก.ตร.

ถึงตอนนั้นสิทธิอันชอบธรรมในการทำบัญชีแต่งตั้งจะอยู่กับใคร

แล้วตำแหน่งมากมายที่ผุดขึ้นเป็นกองกระบุง ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรกับการเพิ่มเก้าอี้ปรับอัตราเพื่อหาตำรวจไปลงนั่งเท่านั้นหรือ

คำถามเหล่านี้น่าหนักใจแทน 

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.

ที่ถูกมองว่าแกร่งในงานบู๊ เก่งในเรื่องปราบปรามทำผลงานกำราบเครือข่ายยานรกเข้าตาชาวบ้าน แต่ “งานบ้าน” ในองค์กรสีกากียังเป็น “ข้อด้อย” ในเรื่องงานบุ๋น

แถมมีโอกาสพลาดท่าเสียที เพราะมีคนคอยจ้องเอาชื่อไปหาผลประโยชน์

เพราะขณะนี้เกิดเสียงกล่าวขานกระหึ่มกรมปทุมวัน มี “บุคคลภายนอก” พยายามเข้ามาจัดระบบระเบียบตั้งโต๊ะทำงาน “เรียกแขก” เหมือนเคยเกิดขึ้นในองค์กรสีกากี “ยุคหนึ่ง” ที่ลือกันหึ่งเรื่อง “วิ่งเต้นซื้อขายเก้าอี้” ตีราคามูลค่าหลายสิบล้านบาท

วงจรอุบาทว์ย้อนคืนสู่สำนักปทุมวันอีกครั้งเมื่อบุคคลเดียวกันนี้กลับสู่รังเก่า แล้วพยายามเล่นบทบาทเดิมเชื้อเชิญคนมากหน้า หลายตามาเป็นพวก ทำพฤติกรรมราวกับผู้มีอำนาจสูงสุดในองค์กร เปิด “ไฟเขียว” รับใบสั่ง “ทำตั๋ว” แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ

เสียงวิพากษ์นี้กระหึ่มในกรมปทุมวันมานานเป็นเดือนแล้ว

ถึงวันนี้ กระแสวิพากษ์ก็มิได้ลดน้อยลงไป ท่ามกลางความอึดอัดของตำรวจในกรม แต่ “บุคคลภายนอก” กลับไม่แสดงอาการสะทกสะท้าน ยังคงเดินเข้าออกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นปกติ

เสียงร่ำลือของการซื้อขายตำแหน่งครั้งใหญ่ในวงการสีกากีก็เลยกระหึ่มหนักขึ้น

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ขึ้นชื่อเป็นมือปราบ รู้ตำราเลี้ยงโจรไว้จับโจร

คงไม่คิดเลี้ยงโจรไว้ปล้นบ้านตัวเอง เป็นห่วงครับ
Read more ...

ใครทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ อำนาจที่แท้ตกอยู่ในมือใคร?

6/3/55
โดย เหยี่ยวถลาลม มติชนออนไลน์ เมื่อ 6 มีนาคม 2555

ผู้ทำลาย

หากการแต่งตั้งโยกย้ายทหารหมายถึง การวางขุมกำลังเพื่อค้ำยันเสถียรภาพของรัฐบาล การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจก็มีคุณค่ามีความหมายต่อผลแพ้ชนะในสนามเลือกตั้ง

ไม่เพียงเท่านั้น การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจยังมีความหมายต่อ "คดีความ" ต่างๆ ที่คั่งค้างยังไม่มีธง

เช่นนี้ ทำให้ตีความได้ว่า

ตำรวจถูกหมายตาเพื่อเป็นเครื่องไม้เครื่องมือให้การเมืองใช้สอย 2 ประการ

1. ใช้สำหรับเอื้ออำนวยช่วยส่งเสริมให้สามารถเคลื่อนไหวช่วงชิงความเหนือกว่าคู่แข่งขันทางการเมือง

2. ใช้งานด้านคดีความ

ไม่ว่าฝ่ายใดบริหารประเทศ ตำรวจก็ยากที่จะมีอิสระ !?

สถานะที่เป็น "ต้นธาร" กระบวนการยุติธรรมของตำรวจจึงยังคงถูกดูแคลนต่อไป !!

ทั้งในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็ย่อมถูกประเมินค่าแค่ "ผู้รับใช้"

จะปรับโครงสร้าง จะพัฒนาระบบบริหารจัดการกันกี่ครั้งกี่หน ความเป็นไปของสำนักงานตำรวจแห่งชาติล้วนถูกผูกเอาไว้กับ "ภาวะผู้นำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ"

การแต่งตั้งโยกย้ายตั้งแต่ระดับสารวัตร รองผู้กำกับการ ผู้กำกับการ และรองผู้บังคับการที่กำลังจะมาถึงนี้ก็เช่นกัน

หากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมี "ภาวะผู้นำ" ต่ำ

การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจย่อมบิดเบี้ยวไปตามการชี้นิ้วบงการของ "ผู้อื่น" !

ปัญหาอยู่ที่ "ผู้อื่น" นั้นเป็นใคร

ใช่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือไม่

ใช่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งควบคุมกำกับดูแลกิจการขององค์กรตำรวจ หรือไม่

ใช่ "คนจากแดนไกล" หรือไม่ !?

แท้จริงแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ ร.ต.อ.เฉลิม หาได้มีโอกาสแตะต้องสัมผัสจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจคราวนี้แต่อย่างใด

"คนจากแดนไกล" ก็อยู่ไกลเกินไป เพียงได้รับ "ข้อมูลข่าวสารซึ่งผ่านการคัดสรร และปั้นแต่ง !!"

"อำนาจ" ในการแต่งตั้งโยกย้ายที่แท้กลับตกอยู่ในมือ "ผู้อื่น"

"ผู้อื่น" เป็นคนนอก

รู้กันทั่วไปว่าเป็นตัวทุจริตคอร์รัปชั่น

น่าสะทกสะท้านใจที่ตอนนี้ราวกับไม่มี "ผบ.ตร."

การจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตกอยู่ในมือ "ผู้อื่น" !?!!
Read more ...

เฉลิม ประชุม ก.ตร.เปิดตำแหน่ง รอง ผบก.ลงมา จำนวน 525 ตำแหน่ง

6/3/55
โดยมติชน เมื่อ 2 มี.ค.2555

วันที่ 2 มี.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ในฐานะประธานก.ตร. 

เป็นประธานประชุมก.ตร. ใช้เวลาประมาณ 2 ช.ม. 

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. 

แถลงว่า ก.ตร.อนุมัติเลื่อนเงินเดือนตำแหน่งยศพล.ต.ต.ขึ้นไป และอนุมัติรับแพทย์จากภายนอกเข้าสังกัดร.พ.ตำรวจ ขณะเดียวกันมีมติ

ไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง ที่สั่งให้ ตร.และก.ตร.กำหนดตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 

จากนี้ ตร.และก.ตร.ต้องกำหนดตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้เป็นไปตามกฎหมายภายใน 120 วัน ตามที่ศาลมีคำสั่ง

โฆษก ตร.แถลงอีกว่า ก.ตร.มีมติให้ด.ต.ที่มีอายุ 53 ปีขึ้นไป ซึ่งอยู่ระหว่างอบรมเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร แต่บางรายอาจมีคดีอาญาติดตัว ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็นคดีความอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ให้ได้รับการยกเว้นข้อห้าม ให้บรรจุเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรได้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และหลังสงกรานต์จะจัดพิธีประดับยศ ร.ต.ต.แก่ด.ต.กลุ่มนี้กว่า 20,000 นาย ที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นประธาน

โฆษก ตร.แถลงต่อว่า ประธานก.ตร.เสนอให้กลับไปพิจารณาหาแนวทาง กรณีตำรวจประทวนที่มีวุฒิปริญญาโท ให้ได้รับบรรจุเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร และยังสั่ง ตร.ดำเนินการแก้ปัญหา

กรณีนักเรียนพยาบาลตำรวจ รุ่น 6 จำนวน 72 นาย 

ที่ตอนแรกไม่มีอัตราสัญญาบัตรให้ ให้ได้บรรจุเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร

โฆษก ตร.แถลงว่า เดิมที ตร.เตรียมเสนอก.ตร.ขอกำหนดตำแหน่งใหม่ ขยายสายงานใน 14 หน่วย แต่เลขานุการก.ตร.ขอนำเรื่องกลับไปทบทวนใหม่ 6 หน่วย ทำให้ก.ตร.วันนี้พิจารณาเปิดตำแหน่งใหม่เพียง 

8 หน่วยงาน รวม 525 ตำแหน่ง 

ซึ่งเหตุผลการขอเปิดตำแหน่งใหม่ เพื่อเสริมงานด้านปราบยาเสพติดและความมั่นคง จำแนกเป็นระดับ

รองผบก. 27 ตำแหน่ง 

แยกเป็นใน 

บก.อก. และ บก.ตชด.ภาค 1-4 บช.ตชด. รวม 5 ตำแหน่ง ใน
บก.สส.บช.ภาค 1-9 และศชต. รวม 10 ตำแหน่ง

โฆษก ตร.แถลงอีกว่า นอกจากนี้เปิดตำแหน่ง รอง ผบก.ใหม่ใน

บก.อก.และ บก.สันติบาล 1-3 และ 4 หน่วยละ 1 ตำแหน่ง 
บก.สันติบาล 2 อีก 2 ตำแหน่ง สังกัด บช.สันติบาล 

รวม 6 ตำแหน่ง เพื่อรองรับงานก่อการร้าย ใน 

บก.วิจัยและพัฒนา 
บก.สวัสดิการ 
บก.ร.พ.ตำรวจ
 สำนักงบประมาณ กองการเงิน และกองบัญชี 

หน่วยละ 1 ตำแหน่ง

โฆษก ตร.แถลงต่อว่า นอกจากนี้ยังเปิดตำแหน่งใหม่ใน

บช.ตชด. 

แยกเป็น

รองผกก. 24 ตำแหน่ง 
ครูตชด.ระดับสว. 261 ตำแหน่ง 
รองสว. 1 ตำแหน่ง 
ผบ.หมู่ 218 ตำแหน่ง 

ซึ่งครูตชด.นี้จะบรรจุในร.ร.ตชด.ทั่วประเทศ 178 แห่ง ส่วน 6 หน่วยที่นำกลับไปทบทวน อาทิ บช.สตม. บช.ปส.

สำหรับการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.ถึง สว.นั้นไม่มีการขอขยายเวลาแต่งตั้งออกไป ต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จทันวันที่ 31 มี.ค.นี้ โฆษก ตร.กล่าว
Read more ...

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม