มติ ก.ตร. ให้ยืดเวลาแต่งตั้ง รอง ผบก. - สว. ไป 31 ม.ค. ปีหน้า พร้อมให้นับเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณให้พนักงานสอบสวน (สบ 1 - 3)

โดยผู้จัดการ เมื่อ 24 ธ.ค.2553

วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง 

เป็นประธานประชุมก.ตร. ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ตร. พร้อมด้วย

คณะกรรมการ ก.ตร. 

โดยวาระที่ต้องพิจารณา 

1. ขอขยายเวลาการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการ วาระประจำปี 2553 

2. การนำหลักเกณฑ์การนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ เพื่อสิทธิประโยชน์สำหรับการประเมิน เพื่อเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้กับพนักงานสอบสวนผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

3. รายงานผลการตรวจสอบกรณี พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. ในกรณีถูกร้องเรียนว่าไม่มีสิทธินับอายุราชการทวีคูณ โดยการประชุมใช้เวลายาวนานกว่า 4 ชั่วโมง

พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. กล่าวว่า คณะกรรมการ ก.ตร. 

เรื่องที่ 1 มีมติให้ขยายเวลาการแต่งตั้ง รองผบก. - สว. วาระประจำปี 2553 ทั่วประเทศจากวันที่ 30 ธ.ค. เป็นวันที่ 31 ม.ค. 2554 

เรื่องที่ 2 มติ ก.ตร.ให้นับระยะเวลาการปฎิบัติงานเป็นทวีคูณสำหรับพนักงานสอบสวนที่ปฎิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ ระดับ (สบ 1-3) สำหรับ

เรื่องที่ 3 รายงานผลการสอบสวนของพล.ต.ต.ศรีวราห์ ให้เลื่อนไปก่อน เนื่องจาก พล.ต.ต.ศรีวราห์ได้ส่งหลักฐานมายังคณะกรรมการที่มี พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการสอบสวน โดยเอกสารมีหลายชุด ประเด็นสำคัญหลายประการที่ต้องสอบสวนให้รอบคอบ คาดว่า จะใช้ระยะเวลา 1 เดือน เพื่อเข้าสู่การรายงานผลในการประชุม ก.ตร. ครั้งต่อไป

พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ยังมี

การอนุมัติในหลักการให้เพิ่มตำแหน่งรอง ผบก. เพิ่มอีกในบช.ภ. 1-9 ประมาณ 74 ตำแหน่ง 

เพื่อเพิ่มเติมงานปราบปรามยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอยู่ในบช.ภ. 5 และ 6 

ดังนั้นการเปิดตำแหน่งเพิ่มจะเป็นการตัดโอนตำแหน่งจากชั้นประทวนไปเป็น รอง ผบก. 

นอกจากนี้

จากการเปิดตำแหน่งเพิ่มและขยายโรงพัก ทำให้ผู้ที่รับแต่งตั้งกับตำแหน่งไม่สอดคล้องกัน จึงให้สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้ามหน่วยได้ ซึ่งจะแต่งตั้งตำแหน่งทั้งหมดให้เสร็จสิ้นพร้อมกันในวาระการแต่งตั้งครั้งนี้

Read more ...

ตร. จะปรับปรุงปัญหา พงส. โรงพัก,ก.ตร.นัดประชุมเลื่อนการแต่งตั้ง

โดยผู้จัดการ เมื่อ 22 ธ.ค.2553

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ พิจารณาการยกระดับโรงพัก และการพัฒนาระบบงานสอบสวน โดยจะให้มีการเลื่อนไหลตำแหน่งพนักงานสอบสวนตามโรงพักขึ้นไปถึง สบ6 (สัญญาบัตรระดับ 6) เทียบเท่าถึงผบก.ขณะที่ ผบ.ตร.ระบุ จะเร่งให้เสร็จภายใน 3 เดือน

วันนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่โรงพยาบาลตำรวจ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 

เดินทางมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ 

อาคารบริการทางการแพทย์ รพ.ตร.ซึ่งเป็นอาคาร 20 ชั้น 

จากนั้นเดินทางมารับประทานอาหารกลางวันที่อาคาร 1 ตร.และในเวลา 13.00 น.นายอภิสิทธิ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนนายกรัฐมนตรีเดินทางไปบ้านพิษณุโลก เพื่อประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจต่อไป

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา(สบ10) ด้านกฎหมายและสอบสวน เลขานุการ ก.ต.ช. 

เปิดเผยผลการประชุม ว่า การประชุมวันนี้ เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาประชุม ก.ต.ช.ที่ ตร.โดยเป็นการประชุมปกติประจำเดือน โดยได้พิจารณา 2 เรื่องสำคัญ ซึ่งถือว่ากระทบต่องานตำรวจอย่างมาก 

ประเด็นแรก คือ การพัฒนาระบบงานสอบสวนให้เป็นไปตามแนวทางของคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจและคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุดของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจเป็นประธาน โดยจะมีการพัฒนางานสอบสวน ใน 4 เรื่องหลัก อาทิ 

     - การพัฒนาระบบตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้สามารถเลื่อนไหลตามสายงานตั้งแต่ระดับ สบ1 ไปจนถึง สบ5 และ สบ6 เทียบเท่าผู้บังคับการ เพื่อสอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และ

    - การพัฒนาระบบการบริหารจัดการระหว่างหัวหน้าสถานีตำรวจกับตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่จะเปิดให้เลื่อนไหล โดยมีการหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้งานสอบสวนสามารถปฏิบัติงานควบคู่ในโรงพักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ก.ต.ช.ยังพิจารณา

การบริหารงานสถานีตำรวจเพื่อให้โรงพักเป็นที่พึ่งของประชาชนได้จริง ซึ่งผลการประชุมวันนี้ จะส่งให้ ตร.รับไปดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องระบบตำแหน่งพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.รับกับที่ประชุม ว่า จะดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 เดือน 

ขณะที่การพัฒนาโรงพักนั้น ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม พร้อมให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และยุติธรรมชุมชน เข้าร่วมมือกับตำรวจเพื่อยกระดับงานตำรวจให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน โดยจากนี้จะต้องมีการทำความตกลงร่วมกัน หรือเอ็มโอยู และจะมีการจัดขนาดสถานีตำรวจให้เหมาะสม นำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาสถานีตำรวจ ขณะที่ประเด็นการโอนงานของตำรวจบางหน่วยไปให้หน่วยงานอื่นนั้นยังไม่ได้ข้อสรุปต้องพิจาณาในคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) นัดประชุม 

ก.ตร.ครั้งที่ 12/2553 ในเวลา 12.00 น.ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.

โดยมีวาระน่าสนใจในวาระเรื่องเสนอเพื่อพิจารณา 

เรื่องที่ 1. ขอขยายเวลาการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการวาระประจำปี 2553 

เรื่องที่ 2. การนำหลักเกณฑ์การนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาใช้เพื่อสิทธิประโยชน์สำหรับการประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้กับ พนักงานสอบสวนผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

เรื่องที่ 3. รายงานผลการตรวจสอบกรณี พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.ในกรณีถูกร้องเรียนว่าไม่มีสิทธินับอายุราชการทวีคูณ 

เรื่องที่ 4. รายงานผลการตรวจสอบมติอนุ ก.ตร.กฎหมายครั้งที่ 9/2553 และ

เรื่องที่ 5. กาจรจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการรักษาราชการแทน

Read more ...

อาณาจักรโล่เงิน ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2553

สวัสดีครับพบกันอีกแล้วในคอลัมน์ อาณาจักรโล่เงิน ...

เป็นไปตามคาด 

การทุบเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ 

ซึ่งเป็นที่ควบคุมพิเศษ สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทางรัฐมนตรียุติธรรมมีคำสั่งเรียบร้อย อนุมัติให้ทุบทิ้งได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐมนตรียุติธรรมเคยสอบถามว่า หากยกเลิกแล้วจะดำเนินการประการใดต่อไป ด้วยเหตุและผลต่าง ๆ นานา ต้องอนุมัติไปตามระเบียบ.....

สำหรับเรือนจำแห่งนี้ ในอดีตกระทรวงยุติธรร มมีความเห็นว่า " เพื่อประโยชน์ในด้านการรักษาความปลอดภัยและความเหมาะสมในการควบคุมผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ของรัฐและคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องไว้โดยเฉพาะ แยกจากผู้ต้องขังอื่น ๆ อันจะเป็นการลดความกดดันของผู้ต้องขังคดีดังกล่าว จึงได้อนุมัติให้ตั้งเรือ นจำชั่วคราวหลักสี่ขึ้นมา มีห้องขัง 4 ชั้นควบคุมผู้ต้องขังได้ชั้นละประมาณ 235 คน.."

...ตั้งแต่ พ.ศ. 2516 เป็นต้นมาจนถึงปี 2548 มีบุคคลสำคัญมาใช้บริการเรือนจำแห่งนี้มากมายเช่น 

พ.อ.มนูญ รูปขจร 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง 

พล.ต. สนั่น ขจรประศาสตร์ 

พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ 

ผู้ต้อง หาคดี เจไอ และ

ผู้ต้องหาคดีปล้นปืนทางภาคใต้ เป็นต้น 

ถ้ายังไม่ทุบทิ้งบรรดาแกนนำเสื้อแดง ก็จะต้องถูกนำมาขังไว้ที่นี่ โดยไม่ต้องควบคุมรวมกับนักโทษคดีอาญาอื่นๆ การขอยกเลิกเพื่อจะทำเป็นที่ทำการของ

กองบังคับการสันติบาล 3 

บริษัท ไอ ซี แลนด์ เป็นผู้ปรับปรุงอาคารและสถานที่

 สมใจนึกของผู้ที่ต้องการจะขยายอาณาจักร ครับพ๊ม

มีคนเขาสอบถามมาที่ 

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำ รวจสอบสวนกลาง

ว่า เมื่อครั้งที่ท่านเป็นผู้บังคับการกองปราบปราม ได้สืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการทุจริตการจัดซื้อรถหลวงเป็นข่าวฮือฮามาก ขณะนี้ท่านเป็นผู้บัญชาการสอบสวนกลางมีอำนาจครอบคลุมประเทศไทย ไม่ทราบคดีนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว กรุณาชี้แจงให้ ตำรวจและประชาชนที่สนใจติดตามข่าวทราบด้วย ครับ..

ท่านผู้บังคับการตำรวจรถไฟโปรดทราบ ขณะนี้มี

นายตำรวจระดับรองผู้การ 

ไม่ยอมไปทำงานและไม่ไปลงเวลาทำงานด้ว ย ตำรวจระดับล่างเขากลัวว่าท่านจะขาดราชการ พยายามตามท่านมาเซ็นชื่อทุกครั้ง นายตำรวจคนนี้คงนึกว่า ตัวเองยังมีตำแหน่ง ใน

กองบัญชาการตำรวจสันติบาล 

จึงไปนั่งที่สันติบาลทุกวัน ที่สำคัญยังใช้ความสนิทสนมกับผู้ใหญ่ ขอขั้น ขอยศ มาขายให้ตำ รวจในสันติบาลอีกด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน หมูฉึกๆหรือไก่ ฉึกๆนึกกันเอง.

พูดถึงการซื้อขายตำแหน่งไม่ได้มีในวงการตำรวจเท่านั้น นักข่าวก็ไม่ธรรมดาเหมียนกัน โดยเฉพาะที่

กองบัญชาการตำรวจนค รบาลหรือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

หลายคนที่มาทำข่าวด้วยฐานะค่อนข้างแร้นแค้น มาอยู่สายอาชญากรรม มีบ้านช่องหรูหรา มีรถรา คาแพงป้ายแดงออกมาขับโชว์ เล่นเอานักข่าวด้วยกันที่ทำอย่างเขาไม่ได้ น้ำลายหกไปตามๆกัน นักข่าวพวกนี้ส่วนใหญ่

ใส่หม วกสีเขียว +  สีชมพู 

ไปคิดกันเอาเองก็แล้วกัน ในวงการตำรวจขณะนี้กำลังฮิตวิ่งเข้าหานักข่าว นำเงินไปประเคนเพื่อใ ห้ได้ตำแหน่งตามที่ต้องการ ใครเป็นใครรู้อยู่แก่ใจ

สวัสดีครับ........ 

Read more ...

อาณาจักรโล่เงิน ประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2553

อาณาจักรโล่เงิน ประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2553

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ขณะนี้เกิดพายุถล่มหนัก บรรยากาศอึมครึมไม่มีทีท่ายุติ เหตุเกิดที่สำนักงานจเรตำรวจ ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งด้วยวาจาให้นายตำรวจลงไปตรวจ 3 ชายแดนจังหวัดภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย อันตรายสูงสุด..

จเรฯไม่ต้องลงไปตรวจหรอก ในพื้นที่เขาเพิ่มกำลังและหน่วยงาน ศชต.- ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ มี

นายตำรวจยศ พล.ต.ท.เป็นผู้บังคับบัญชา 

ที่สำคัญ

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุม ดูแลและสั่งการอีกชั้นหนึ่งด้วย 

ไม่ต้องให้จเรตำรวจไปยุ่ง แต่ถ้าจะลงไป ต้องมีคำสั่งให้เขาไปปฏิบัติการกรณีพิเศษ และต้องบวกเวลาทวีคูณ เลื่อนยศให้ด้วย การสั่งต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่สั่งด้วยวาจา....

ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดให้ตำรวจที่ชอบความเสี่ยง สมัครใจลงไปปฏิบัติหน้าที่ แล้วปูนบำเหน็จทวีคูณให้ ก็มีนายตำรวจเจ้าเล่ห์รีบสมัครไปทันที เมื่อรายงานตัวเสร็จ ก็ขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ แต่ก่อนกลับได้สั่งลูกน้องไว้อย่างดี ถ้ามีเหตุระเบิด ให้รีบรายงานด่วน อย่าเพิ่งแถลงข่าว "ผมจะรีบลงมาทันที" เมื่อเกิดเหตุระเบิดครั้งไร ตำรวจเจ้าเล่ห์ก็รีบนั่งเครื่องบินลงไปแถลงข่าว......

ทุกครั้งจะให้ลูกน้องไปหาข่าวว่า พื้นที่ใดไม่มีความรุนแรง ไม่มีระเบิดเด็ดขาด ก็จะเรียกสื่อโดยเฉพาะทีวี. ให้ลงไปช่วยสร้างภาพว่า กระผมทำงานหนักอย่างไม่กลัวตาย ขณะนี้ตำรวจเจ้าเล่ห์ได้ดีรับ

ยศ พล.ต.ต. 

สมใจนึก ได้กลับมาใหญ่ ในนครบาลอีกครั้ง ภารกิจสำคัญก็

หาทุนเปิดบ่อน แถวฝั่งธนฯ 

โดยมีสื่อไร้สังกัดเป็นที่ปรึกษา 

ทั้งสร้างภาพให้ภรรยาอย่างหรู แต่เบื้องหลังภรรยาออกเงินกู้เก็บดอกเบี้ยหฤโหด 

มีลูกน้องตำรวจคอยเก็บเงินลูกหนี้อีกด้วย
พฤติกรรมตำรวจเจ้าเล่ห์อยู่ใกล้แค่มือเอื้อม ทำไมผู้ใหญ่ในสำนักงานจเรฯ ไม่ส่งคนไปสืบดู ในนครบาลไม่ได้มีเพียงรายเดียว มีมากมายแม้กระทั่งชั้นประทวน ก็ค้ายา ค้าอาวุธอยู่ตาม สน.นี่แหละ ก่อนจะส่งตำรวจลง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็ตรวจตราในนครบาลและปริมณฑลให้เรียบร้อยก่อนเถอะ

------

เดินไปทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เห็นความแปลกใหม่ คือ ไม่มีรถยนต์จอดอยู่บริเวณด้านหน้าแม้แต่คันเดียว ดูสะอาดตา ที่สำคัญเมื่อขับรถออกทางประตูหน้า บชก.ไม่ต้องระวังรถมาทางขวา เพราะไม่มีรถขวาง ทำให้เห็นรถผ่านได้ง่าย ที่ผ่านมามีพวกตำรวจที่ไม่รับรู้กฎจราจร จอดรถซ้อนคัน ตำรวจจราจรในพื้นที่พูดไม่ออก แต่ละคนใหญ่ๆ ทั้งนั้น เกิดอุบัติเหตุครั้งใด ตำรวจจราจรปวดหัวทุกที จัดการจราจรแบบใหม่ แล้ว ขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป แต่คำสั่ง "นาย"มักเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ตามยุคสมัยของแต่ละคน

รถวีโก้สีดำมีไฟแดงติดบนหลังคา ทะเบียน ชผ 2841 คนขับแต่งเครื่องแบบตำรวจ ขับรถไปพูดโทรศัพท์ไป รถคันอื่นจะแซงก็ไม่ได้ ขึ้นทางด่วนไม่ต้องเสียเงิน มีอภิสิทธิ์ทุกอย่าง ยังไม่เอื้อเฟื้อประชาชนรอบข้าง ที่สำคัญกระจกหลังติดสติ๊กเกอร์ไว้ด้วยว่า"พิทักษ์ราษฎร์ ดุจญาติมิตรของเรา" เอ้า !จเรตำรวจจิกตัวมาอบรมให้รู้วินัยตำรวจบ้าง

Read more ...