"เพรียวพันธ์" แบ่งงานรอง-ผู้ช่วย ผบ.ตร.

31/1/55
โดยเดลินิวส์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2555

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ ในฐานะ โฆษกตร.

 แถลงว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา 

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. 

ได้ลงนามคำสั่งตร.ที่ 33 /2555 แก้ไขลักษณะงานและมอบอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบให้จเรตำรวจแห่งชาติ รองผบ.ตร. ,หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ(สบ10) ,ที่ปรึกษา(สบ10) ,ผู้ช่วยผบ.ตร. ,รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (สบ9) และรองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ9) 

โดยคำสั่งดังกล่าวยังคงรูปแบบกลุ่มงานด้านต่าง ๆไว้ดังเดิมเพียงแต่เปลี่ยนแปลงการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ โดย

งานบริหาร พล.ต.อเพรียวพันธ์ มอบหมายให้ 

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. 
พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ ที่ปรึกษา (สบ10) 
พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย 
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง และ 
พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วยผบ.ตร. 
พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วยผบ.ตร. 

โดยเรียก บร.1-6 ตามลำดับ 

ทั้งนี้รับผิดชอบบริหารราชการ 

สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง 
สกพ. 
สกบ. 
สงป. 
บช.ศ. 
รร.นรต. 
รพ.ตร. 
สท.
ตท.
กองบินตำรวจ 
สลก. 
กองวินัย 
โรงพิมพ์ตำรวจ

โฆษกตร. กล่าวว่า ขณะที่งานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมนั้น ผบ.ตร.แบ่งงาน ปป.ออกเป็น 5 กลุ่ม โดย

กลุ่มแรกให้ 

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.เป็น รองผบ.ตร.ปป.1 
มี 
พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน 
พล.ต.ท เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็นผุ้ช่วย 

โดยให้รับผิดชอบ บช.น.แทน

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. 

นอกจากนี้ยังรับผิดชอบ บช.ภ.5-6-7 ขณะที่ 

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. เป็น รองผบ.ตร.ปป.2
มี 
พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้ช่วยผบ.ตร.(ปป21) 
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร.(ปป 22) 
ดูแลเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องรับผิดชอบดูแลหน่วยพื้นที่ 

ส่วน

พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ดูแลงาน ปป.3 
มี 
พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ และ 
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร 
เป็นผู้ช่วย 
โดยให้รับผิดชอบ บช.ภ.1-2-3-4 

ขณะที่ 

พล.ต.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รองผบ.ตร. เป็น รองผบ.ตร.ปป.4
โดยมี 
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็น (ปป41) 

รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) และให้ 

พล.ต.อ.ฉัตรชัย โปรตระนันทน์ ที่ปรึกษา(สบ10) เป็น รองผบ.ตร.ปป.5
โดยมี 
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้ช่วยผบ.ตร.(ปป51) ดูแล บช.ภ.8-9

มอบหมายให้ 

พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา(สบ10) ดูแลด้านความมั่นคง (มค) 
โดยมี 
พล.ต.อ,สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงที่ปรึกษาสบ 10 เป็น (มค1) และ 
พล.ต.ท.อุดม รักศีลธรรม ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็น (มค2) 
พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต ผู้ช่วยผบ.ตร.(มค3) และ 
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร. (มค 4) 
ดูแล บก.จร. และ
บก.อคฝ ,
บก.ทล. ,
บช.ส. ,
บช.ตชด.และ
สำนักยุทธศาสตร์ เฉพาะกองแผนงานและกิจการพิเศษ 

ขณะที่

งานด้านกฎหมายและคดีมอบหมายให้

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.(กม) 
มี 
พล.ต.อ.จิโรจน์ ไชยชิต ที่ปรึกษา (สบ.10) เป็น (กม1) และ 
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(กม2) 
รับผิดชอบ บช.ก. (ยกเว้นกองบังคับการตำรวจทางหลวง) 
สพฐ. และ
สำนักงานแพทย์ใหญ่ (เฉพาะสถาบันนิติเวชวิทยา) ส่วน 

พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จตช. 
มอบหน้าที่ให้ดูแลงานจเรตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ
พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ รองจตช. (สบ.9) และ 
พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู รองจตช. (สบ.9)

ขณะที่ 

พล.ต.อ.ชลธาร จิราณรงค์ หน.นรป. (สบ.10) 
ดูแลงาน
สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ (หน.นรป.) ร่วมกับ 
พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อมาตยกุล รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (สบ.9) 

โดยมีงานหลักพิทักษ์รักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์และพระราชอาคันตุกะ ส่วน 

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. 
เป็น ที่ปรึกษา ศชต.) และ
ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า 

ทั้งนี้หนังสือดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังทุกหน่วยเป็นที่เรียบแล้ว และมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขณะที่มีรายงานว่าการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายหน้าที่การงานรองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายงานระดับบริหารของ ตร. ครั้งที่ 3 

นับแต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ขึ้นมาทำหน้าที่ ผบ.ตร. นับแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้คำสั่งมอบหมายหน้าที่การงานฉบับล่าสุด จะยังคงกำหนดกลุ่มงานไว้อย่างเดิม 

แต่มีการปรับหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละกลุ่มงานในบางส่วน โดยเฉพาะมีการตั้งข้อสังเกตว่า ปรับให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อยู่ในความรับผิดชอบของงานกฎหมายและคดี 

แทนที่จะเป็นงานป้องกันปราบปรามอย่างที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการตั้งข้อสังเกตและวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆนานาถึงการปรับเปลี่ยนผู้รับผิดชอบงานต่าง ๆ หลายตำแหน่ง ให้

พล.ต.อ.ปานศิริ มาดูงานนครบาล และ บช.5 แทน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ และปรับให้ 
พล.ต.อ.สุวัฒน์มาเปลี่ยนจากการคุมงานบริหารคุมงานปป. และดูแลศชต. 

ซึ่งเหล่าข้าราชการตำรวจวิจารณ์ว่าเกิดความไม่ลงรอยในกลุ่มผู้บังคับบัญชาระดับสูงในตร.
Read more ...

ก.ตร.ขยายเวลาแต่งตั้ง สว.-รองผบก.ไป 31 มี.ค.2555

26/1/55
โดยผู้จัดการ เมื่อ 24 ม.ค.2555

ก.ตร.ขยายเวลาแต่งตั้งระดับ รองผบก.-สว.ไปถึง 31 มี.ค.ยันการขยายเวลาไม่มีผลถึงขวัญกำลังใจ เชื่อ ไม่ทำให้เกิดสุญญากาศในการทำงาน พร้อมอนุมติให้ชั้นประทวนอายุ 53 ปีบริบูรณ์ ภายใน 1 ต.ค.55 เลื่อนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยในปีนี้อนุมัติทั้งสิ้น 25,848 ตำแหน่ง และให้ “ดาบตำรวจ” ที่ได้เลื่อนเป็นสัญญาบัตรในปีนี้ อบรมให้ทันใน 1 เม.ย.นี้

วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี 

เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี ผบ.ตร.และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ก.ตร.ได้พิจารณาการอนุมัติขยายเวลาการแต่งตั้งระดับ รองผบก.-สว.จากเดิมที่ ก.ตร.ครั้งที่ 12/2554 อนุมัติให้แต่งตั้งให้เสร็จสิ้นภายใน 31 ม.ค.2555 โดยให้ขยายไปถึง 31 มีนาคม 2555 ซึ่งมีเหตุผล 3 ข้อในการขอขยายเวลา คือ 

1.ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่ง ผบก.-รองผบช. 

2. การแต่งตั้งระดับ สว.-ผบก.ทางกองบัญชาการต้องดำเนินการเอง และมีหลายขั้นตอนต้องมีการประสานงานกันระหว่างกองบัญชาการที่ต้องแต่งตั้งข้ามหน่วย และการขอยกเว้นหลักเกณฑ์ไม่ครบ 2 ปี 

3.อยู่ระหว่างการขอ ก.ตร.อนุมัติตำแหน่งเพิ่มเติม โดยการขยายเวลาไม่มีผลถึงขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดสุญญากาศในการทำงาน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังอนุมัติตำแหน่งให้ตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุ 53 ปี ขึ้นไปโดยต้องมีอายุครบ 53 ปีบริบูรณ์ภายในวันที่ 1 ต.ค.2555 ให้เลื่อนเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยใน

ปี 2555 อนุมัติทั้งหมด 25,848 ตำแหน่ง และต่อเนื่องไป
ปี 2556 จำนวน 5,553 ตำแหน่ง และ
ปี 2557 อีก 5,857 ตำแหน่ง 

และให้ดาบตำรวจที่ได้เลื่อนเป็นสัญญาบัตรในปีนี้อบรมให้ทันในวันที่ 1 เมษายนนี้

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ก.ตร.ได้มอบสิทธิเด็ดขาดให้อนุ ก.ตร.ด้านต่างๆ มีสิทธิ์เด็ดขาดในการพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการร้องทุกข์ อุทธรณ์ การเกษียณอายุราชการ และการบริการงานบุคคลระดับ รองผบก.ลงไป 

เนื่องจากที่ผ่านมา ก.ตร.ต้องใช้เวลานานในการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นเหล่านี้ จึงมอบสิทธิ์ขาดให้อนุ ก.ตร.พิจารณา ส่วน ก.ตร.ใหญ่จะพิจารณา เรื่องวินิจฉัยข้อกฎหมาย ส่งเสริมจริยธรรม และบริหารงานบุคคลระดับ ผบก.ขึ้นไป

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยังเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่สนองนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติดที่มีผลงานชัดเจน โดดเด่นผลโพลล์สำรวจ 76.3 เปอร์เซ็นต์พอใจ 

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้แจ้งว่าทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม ดูแลการปราบปรามทรัพย์ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้สั่งการให้ ตร.ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานดูแลเรื่องนี้โดยตรง 

โดยให้ทาง บช.ก.เป็นเจ้าภาพในการดูแล ให้ใช้กำลังของกองปราบปราม ตำรวจน้ำ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกำลังหลักในการทำงาน โดยให้เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และให้ดึงเจ้าหน้าที่ตำวจมามีผลงานการปราบปรามที่ถูกไปอยู่ตำแหน่งประจำหรือจเรตำรวจออกมาช่วยงาน
Read more ...

ผบ.ตร.จะขยายเวลาแต่งตั้ง รองผบก.-สว.ไปอีก 1 เดือน

12/1/55
โดยเดลินิวส์ เมื่อ 11 ม.ค.2555

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. 

เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ครั้งหน้าจะ

- ขออนุมัติ ก.ตร.ขยายเวลาการดำเนินการแต่งตั้ง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. เป็นผบช.ภ.1 ด้วยสิทธินับอายุราชการทวีคูณ 

โดยคณะกรรมการสืบสวนฯ รายงานผลการสืบสวนเพิ่มเติมที่สั่งไปล่าสุดมายังตนแล้ว จากนี้ตนจะสอบถามเพิ่มเติมไปยังศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาค ใต้(ศชต.) เพื่อยืนยันการไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดน ว่าไปครบตามกำหนดเวลาที่จะได้สิทธินับอายุราชการทวีคูณหรือไม่ เมื่อทราบผลก็สรุปจบได้ เรื่องนี้ต้องจบได้แล้ว หากทำถูกต้องควรได้สิทธิทวีคูณก็ต้องให้ แต่หากไม่ครบตามเกณฑ์ก็ให้สิทธิไม่ได้ ตรงนี้ต้องทำตามกฎเกณฑ์ หากไม่ยึดตามกฎแล้วให้สิทธิไปตำรวจทั้งหมดก็ว่าตนได้ ตนต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย คาดว่าจะนำผลสรุปเข้าก.ตร.ได้ในการประชุมครั้งหน้า

ขณะเดียวกันจะได้

- ดำเนินการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งรองผบช.ก.ของพล.ต.ต.ณรงค์ ศิวาพาณิชย์ รองผบช.ภ.7 ที่ก.ตร.เพิ่งแต่งตั้งให้เป็นรองผบช.ก. ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ 

รวมทั้ง

- การแต่งตั้งระดับรองผบก. ถึงสารวัตร ออกไปอีก จากเดิมที่ก.ตร.อนุมัติให้ขยายเวลาไปถึงวันที่ 31 ม.ค.2555 แต่ครั้งนี้จะขอขยายออกไปอีก 1 เดือน ถึงสิ้นเดือนก.พ.2555
Read more ...

ผบช.น. ตั้งทีมโฆษก บช.น. ชุดใหม่

10/1/55
โดยผู้จัดการ เมื่อ 9 ม.ค.2555

ผบช.น.แต่งตั้งทีมโฆษกฯนครบาล โดยให้ “พ.ต.อ.ปรีดา สถาวร” เป็นโฆษก บช.น.พร้อมผู้ช่วยอีก 2 นาย เพื่อให้ทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารต่อสื่อมวลชน

วันที่ (9 ม.ค.)

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.

ลงนามคำสั่งที่ 232/ 2555 แต่งตั้ง

พ.ต.อ.ปรีดา สถาวร ผกก.3 บก.อก.บช.น.เป็นโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล 
พ.ต.ท.ศุภวัช ปานแดง สว.จร.สน.คันนายาว เป็นผู้ช่วยโฆษกนครบาล 
พ.ต.ต.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ สารวัตรฝ่าย อก.3 กองบังคับการอำนวยการ เป็นผู้ช่วยโฆษกนครบาล 

โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ มีอำนาจหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่แถลงข่าว และชี้แจงทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ราชการในภาพรวมของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตลอดจนการปฏิบัติภารกิจเฉพาะเรื่องตามที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมอบหมาย โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบและคำสั่งเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่นั้นให้สามารถขอข้อมูลจากหน่วยงาน หรือข้าราชการตำรวจจากทุกหน่วยงาน เพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม และให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมดที่ขัดแย้งต่อคำสั่งนี้ และให้ใช้คำสั่งนี้แทน
Read more ...

จัดทัพแบ่งหน้าที่ตำรวจนครบาล

4/1/55
โดยไทยรัฐ เมื่อ 3 ม.ค.2554

หลังปรับทัพยกเครื่องใหม่นายพลนครบาล

ระดับ รอง ผบช.–ผบก. พาเหรดโยกย้ายกันมากเป็น ประวัติศาสตร์ นับแต่ก่อตั้งหน่วยมากว่า 89 ปี ทำให้คนเมืองกรุงต้องจับตาดูการทำงานของตำรวจนครบาลยุคนี้

เมื่อทุกตำแหน่งลงตัวเรียบร้อย

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.

จึงจัดแจงแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้รอง ผบช.น.ทั้ง 12 นายรับไปดูแลงานด้านต่างๆ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

มอบหมายให้
พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ เป็นผู้ช่วยงานด้านสืบสวนสอบสวนและการปราบปรามยาเสพติด 
พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร เป็นหัวหน้างานด้านจราจร คุมงานพิเศษด้านปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 
พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ เป็นหัวหน้างานด้านกิจการพิเศษ และดูความผิดเกี่ยวกับน้ำมัน 
พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัส เป็นหัวหน้าดูแลงานด้านจเรตำรวจ คุมงานปราบปรามการตัดต้นไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ หัวหน้างานบริหาร 2 ดูแลงานพิเศษ เกี่ยวกับงานปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 
พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ เป็นหัวหน้างานด้านสืบสวนสอบสวน และรับผิดชอบงานปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง หัวหน้างานด้านกฎหมาย 
พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ หัวหน้าป้องกันและปราบปราม อีกทั้งคุมด้านแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบันการศึกษา และงานด้านความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 
พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ เป็นผู้ช่วยงานด้านป้องกันและปราบปราม จราจร กฎหมาย และจเรตำรวจ แต่ดูแลงานพิเศษเกี่ยวกับ กต.ตร.กทม. ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ เยาวชนสัมพันธ์ งานด้านพิทักษ์เด็ก เยาวชนและสตรี
พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ดูแลงานด้านความมั่นคง คุมงานปราบปรามการปล่อยเงินกู้ และงานปราบปรามการโจรกรรมรถ 
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หัวหน้าด้านการปราบปรามยาเสพติด ดูงานพิเศษเกี่ยวกับการกระทำความผิดเดี่ยวกับการฮั้วประมูล และ 
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ เป็นหัวหน้าด้านบริหาร 1 รับผิดชอบงานพิเศษด้านการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับสินค้าทางน้ำ

มองภาพรวมของแต่ละคนถือว่า การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบครั้งนี้เลือกเอาความเหมาะสม ตามความถนัด และน่าจะมีส่วนช่วยผ่อนแรง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง แม่ทัพนครบาลให้เบาใจได้บ้าง เนื่องจาก รอง ผบช.น.หลายคนก็เคยเป็น “ลูกหม้อ” เก่าของนครบาลแทบทั้งนั้น

หาใช่นายพลหน้าใหม่ที่ “เส้นใหญ่” แต่ไร้ฝีมือซะที่ไหน?!?
Read more ...

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม