ถก 2 ชม.ตั้งนายพลตำรวจบัญชีไม่เปลี่ยน

20/7/56
โดยเดลินิวส์ เมื่อ 19 ก.ค.2556

เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (19 ก.ค.) ที่ห้องประชุม 3 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (เลขาก.พ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)ถึงผู้บัญชาการ(ผบช.)วาระประจำปี 2556 โดยมี 

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต 

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ 

พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล 

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และ

พล.ต.อ.อมรินทร์ อัครวงษ์ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) 

ร่วมกันพิจารณากลั่นกรองบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตามที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เสนอให้พิจารณา ซึ่งการประชุมคัดเลือกครั้งนี้ เดิมทีกำหนดสถานที่ ที่ห้องประชุม 310 อาคารรัฐสภา2 รัฐสภา แต่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่มาประชุมที่ตร.อย่างกะทันหัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบ.ตร.และเทียบเท่า ที่ว่าง 5 ตำแหน่ง มีการเสนอให้ขยับที่ปรึกษา (สบ10) สู่ตำแหน่งหลัก 3 ตำแหน่ง คือ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ10) นรต.30 พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) นรต.30 เป็นรอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา (สบ 10) นรต.35 บุตรเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ขยับเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ตำแหน่งว่าง 5 ตำแหน่ง ให้ พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อมาตยกุล รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (สบ 9) (รองหน.นรป.) เป็น หน.นรป. (สบ 10) พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี พล.ต.ท.อุดม รักศิลธรรม พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10)

ในตำแหน่งระดับผู้ช่วยผบ.ตร.และเทียบเท่าที่ว่าง 11 ตำแหน่งนั้น บอร์ดกลั่นกรองมีมติให้ 

พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ. 
พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผบช.รร.นรต. 
พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบช.สยศ.ตร. 
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ จตร. (สบ 8) 
พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผบช.สง.ก.ตร. 
พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ จตร.(สบ 8) 
พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 
พล.ต.ท.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ จตร. (สบ 8) และ 
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. 

พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล จตร.(สบ 8) นรต.รุ่น 34 สายตรงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ขึ้นเป็นรอง จตช.(สบ 9) และ 

พล.ต.ต.เจษฎา อินทรสถิตย์ ผบช.สง.นรป.(สบ 8) ขึ้นเป็นรอง หน.นรป.(สบ 9) โดยการแต่งตั้งระดับนี้เป็นไปตามอาวุโส แต่เนื่องจาก 

พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงศ์ นายแพทย์ใหญ่รพ.ตร.และ

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก. 

ขออยู่ตำแหน่งเดิม 

แม้จะมีอาวุโสสูงก็ตาม จึงมีการขยับพล.ต.ท.วินัย และพล.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ เลื่อนขึ้นแทนตามความเหมาะสม ซึ่งประเด็นดังกล่าวประธานบอร์ดกลั่นกรองตั้งข้อสังเกตุถึงการไม่เลื่อนตำแหน่งขึ้นของพล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ ทั้งที่มีอาวุโสอันดับที่ 1และอยู่ในตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่มา 4ปีแล้ว ซึ่งใช้เวลาอภิปรายกันนานจึงจะให้ผ่านในที่สุด

สำหรับระดับ ผบช.มีเก้าอี้ว่างจากการเกษียณอายุราชการและเลื่อนตำแหน่งขึ้น 19 ตำแหน่ง มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนดังนี้ พล.ต.ท.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบช.ภ.7 เป็นจตร.(สบ 8) พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข รอง ผบช.ภ.9 เป็น จตร.(สบ 8) โยกพล.ต.ท.วัฒนา สักวัตร ผบช.กมค. เป็น หัวหน้าจตร.(สบ 8) พล.ต.ท.จุตติ ธรรมโนวานิช ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร.ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน เป็น ผบช.กมค. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าที่เชี่ยวชาญด้านสืบสวน พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.สพฐ.ตร. ขึ้นเป็น ผบช.สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ นรป (สบ 8) ขยับเข้าไลน์หลักเป็น ผบช.สง.นรป.โดยมี พล.ต.ต.ดุสิต สังขะเมฆะ นรป.(สบ 7)ขึ้นเป็นนรป.(สบ8) พล.ต.ต.พนมศักดิ์ ทั่งทอง รองผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.(ทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านการข่าว)ขึ้นเป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.วิชาญ ทองประชาญ รองผบช.สง.กตร.ขึ้นเป็น ผบช.สง.กตร. พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว จตร.(สบ8) เป็นผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.กฤษฎิ์ศักดิ์ วิชชารยะ รองผบช.ส.ขึ้นเป็น(จตร.สบ8) พล.ต.ต.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รองผบช.ศชต. ขึ้นเป็นจตร.(สบ8)แทน พล.ต.ต.ศักดา ชื่นภักดี รองผบช.สตม.ขึ้นเป็นจตร.(สบ8) พล.ต.ต.ทวีชัย วิริยะโกศล รองผบช.สกบ.เป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รองผบช.ศชต. คนสนิท พล.ต.อ.อดุลย์ ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ฯแทน

สำหรับกองบัญชาการตัวเลข พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 โยกเป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. ทำหน้าทีี่บริหารงานด้านป้องกัน เป็น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. นรต28 มือทำคดีเสื้อแดง ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร จตร.(สบ8) เป็นผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.สพฐ.ตร. เป็นผบช.ภ.8. พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 เป็นผบช.ศชต. พล.ต.ต.อรรถชัย เกิดมงคล รอง ผบช.ตชด.ขึ้นเป็นผบช.ตชด. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผบช.ปส.ขึ้นเป็น ผบช.ปส. ที่มีการพูดถึงมากที่สุดน่าจะเป็นตำแหน่งของ พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผบช.ภ.1อาวุโสอันดับ 6 ได้รับความไว้วางใจให้เป็น ผบช.สกบ.เข้ามาดูแลการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะกรณีการสร้างสถานีตำรวจที่ยังค้างคา ทั้งนี้บอร์ดกลั่นกรองใช้เวลาในการพิจารณาแต่งตั้ง 2ชั่วโมง โดยมีการอภิปรายในกรณีการเลื่อนขึ้นผู้ช่วยผบ.ตร.

ส่วนตำแหน่งที่ยังเหนียวแน่นไม่มีการเสนอเปลี่ยนแปลงในการแต่งตั้งครั้งนี้ คือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก. พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผบช.สทส. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผบช.ศ. พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญญา ผบช.สงป. พล.ต.ท.สุชีพ หนูนาง ผบช.สตส.

ทั้งนี้รายชื่อที่ผ่านการพิจารณาในบอร์ดกลั่นกรองครั้งนี้และรายชื่อ ผบช.รร.นรต.ที่ผ่านการสรรหาโดยคณะกรรมการสภาการศึกษารร.นรต.จะต้องเสนอให้ ก.ตร.พิจารณาในวันที่ 24 ก.ค. นี้เวลา 09.00น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
Read more ...

ก.ตร.ตีกลับ วุฒิ ลิปตพัลลภ ชวดเก้าอี้ รองผบ.ตร.

18/7/56
 
โดยเนชั่น เมื่อ 17 ก.ค.2556

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 เวลา 18.00 น. 

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.

กล่าวถึงการพิจารณาวาระการจัดลำดับอาวุโส ที่ 

พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา(สบ10)

ร้องค้าน 

และกรณีการพ้นตำแหน่งก.ตร.ของ 

พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 

ว่า ทั้ง 2 ประเด็นนี้ ก.ตร.ได้พิจารณาลับกว่า 2 ชั่วโมง โดยมีพล.ต.อ.อดุลย์ ทำหน้าที่ประธานก.ตร. ได้ข้อสรุปว่าทั้ง 2 เรื่องยังไม่ได้ข้อยุติ ให้ตร.กลับไปทบทวน ทั้ง 2 เรื่อง เนื่องจากเป็นต้นเรื่อง ทั้งนี้แม้กรณีอาวุโสยังไม่ได้ข้อยุติ แต่การแต่งตั้งที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ก็ดำเนินต่อไปโดยยึดตามข้อมูลเดิม

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.ประชา ยังฝากในก.ตร.ว่า จากการประชุมกอ.รมน.พบว่ากำลังตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังน้อย อยากขอเพิ่มเติมลงในพื้นที่อีก 1,900 นาย เพื่อเป็นกำลังแบบหมวดหมู่ รองรับการทำงานของกอ.รมน. นอกจากนี้ให้ตร.วางแผนการบรรจุบุคลากรทางการแพทย์อย่างเป็นระบบให้เพียงพอ และฝากให้อนุก.ตร.ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพิ่มประสิทธิภาพกำลังพลของตำรวจรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

มีรายงานว่า ผลจากการที่ก.ตร.ยังไม่ได้ข้อยุติกรณีการจัดอาวุโส เป็นผลให้ พล.ต.อ.วุฒิ ยังคงมีอาวุโสลำดับที่ 9 ซึ่งหากยึดตามกฎการแต่งตั้ง ทำให้ไม่สามารถขยับสู่ตำแหน่งหลักเป็นรองผบ.ตร.หรือ จเรตำรวจแห่งชาติได้ ยังคงต้องอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10)ตามเดิม
Read more ...

ผบ.ตร.รอ ก.ตร.ชี้ขาดจัดอาวุโส

16/7/56
โดยเนชั่น เมื่อ 16 ก.ค.2556

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)วันที่ 16 กรกฎาคม 2556 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาสบ 10 ร้อง ก.ตร.คัดค้านการจัดอาวุโสว่า การประชุมในวันพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งระเบียบการจัดอาวุโสที่ใช้พิจารณาและประกาศไปใช้มา 5 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องมีการคุยกันที่ ก.ตร.ส่วนจะจบในวันพรุ่งนี้หรือไม่ ต้องรอคณะกรรมการ ก.ตร.พิจารณา
Read more ...

เด้งผู้การสรรพาวุธเซ่นดาบตำรวจค้าอาวุธของกลาง

16/7/56
โดยเนชั่น

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งให้ 

พล.ต.ต.สมพงษ์ น้าเจริญ ผู้บังคับการกองสรรพาวุธ(ผบก.สพ.) 

มาปฏิบัติราชการ

ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร) 

โดยขาดจากต้นสังกัด ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หลังจากตำรวจกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 จ.แม่ฮ่องสอน จับกุม 

ด.ต.สุเมธ มิสสิตะ ผู้บังคับหมู่ฝ่ายพลาธิการ 3 กองพลาธิการ และ

นายจอห์นเดีย สวัสดี 

พร้อมยึดอาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนปืนชนิดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ได้ที่บ้าน หมู่ 2 บ้านกุงไม้สัก ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า แหล่งที่มาของอาวุธสงครามดังกล่าว เป็นของกลางที่เก็บรักษาอยู่ในความรับผิดชอบของกองสรรพาวุธ นอกจากนี้ยังให้ พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง สั่งการให้ 

พล.ต.ต.สมชาติ มาสำราญ ผบก.พธ. 

มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ด.ต.สุเมธ โดยมี 

พ.ต.อ.สุเทพ ภูยานนท์ ผู้กำกับการฝ่ายพลาธิการ 2 พธ.เป็นประธานกรรมการสอบ 

และมีคำสั่งให้ ด.ต.สุเมธ ออกจากราชการไว้ก่อนด้วย หากสอบสวนพบพาดพิงผู้ใดให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด
Read more ...

แต่งตั้งตร.117 นายพล เด็ก"แม้ว-ประชา"ผงาด "เฉลิม"เค้กก้อนใหญ่หลุดมือ

8/7/56
โดยผู้จัดการ เมื่อ 8 กรกฎาคม 2556

สน.พระอาทิตย์/สามยอด      
     
การประกาศลำดับอาวุโสตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการ(รอง ผบช.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แม่ทัพใหญ่สีกากี สะบัดปากาช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา        
เป็นสัญญาณการเข้าสู่ห้วงเวลาการแต่งตั้งตำรวจระดับนายพล วาระประจำปี 2556      
     
ตามปฏิทินเดิม สมัยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับผิดชอบคุมสำนักปทุมวัน ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)นั้น วางคิวการแต่งตั้งประจำปีไว้คร่าวๆ เริ่มจากวันที่ 5 ก.ค.2556 ประกาศลำดับอาวุโส และเปิดโอกาสให้ตำรวจที่มีรายชื่อในลำดับอาวุโส หากเห็นว่าลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง สามารถยื่นเรื่องต่อสำนักงานกำลังพลพิจารณาทบทวนได้ ภายใน 7 วัน จากนั้นจะเริ่มทำบัญชีการแต่งตั้งระดับนายพลล็อตแรก ยศ พล.ต.ท.ขึ้นไป ตำแหน่ง ผู้บัญชาการ(ผบช.) ถึง รองผบ.ตร. ระหว่างวันที่ 10-15 ก.ค.2556
             
แต่พอการเมืองมีการเปลี่ยนแปลง รัฐบาล ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ปู 5 สลับหน้าผู้ที่มาดูแลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติใหม่ จากร.ต.อ.เฉลิม มาเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต อ.ตร. คนสุดท้าย และอดีตผบ.ตร.คนแรกของสำนักปทุมวัน และพล.ต.อ.อดุลย์ ประกาศลำดับอาวุโสตำรวจระดับ รองผบช.-รองผบ.ตร. ออกมาตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา    
     
คงต้องจับตาว่าปฏิทินการแต่งตั้งนายพลที่วางกันไว้ จะมีอะไรปรับเปลี่ยนหรือไม่ ทั้งวัน เวลา กำหนดการต่างๆ    
     
โดยเฉพาะ “โผแต่งตั้ง” ที่เชื่อกันว่าเมื่อฟ้าเปลี่ยนสี แวดวงสีกากีเปลี่ยนคนคุม บัญชีรายชื่อก็ต้องมีการเปลี่ยนปลงเป็นสัจธรรม ตำรวจที่มีความใกล้ชิด “อินทรีอีสาน” พล.ต.อ.ประชา น่าจะได้ผงาดขึ้นในตำแหน่งหลักๆ      
     
และมีบทบาทในการทำงานขับเคลื่อนนโยบายของอินทรีอีสานมากขึ้น เพื่อพิสูจน์ศักดิ์ศรีการหวนกลับมาคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง แม้ไม่ใช่ในฐานะผู้ปฎิบัติเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ขยับใหญ่มาในฐานะคุมงานนโยบาย ก็คงต้องไว้ลายไอ้เสือเก่าไม่ให้น้อยหน้าอดีตสารวัตรกองปราบอย่างร.ต.อ.เฉลิม            
ยิ่งปีนี้ตำแหน่งระดับ “นายพล”ในสำนักปทุมวัน มีตำรวจระดับนายพลเกษียณอายุราชการมากถึง 117 ตำแหน่ง ตัดส่วนแค่ระดับ ผบช. ถึง รองผบ.ตร. ก็ว่างทั้งสิ้น 34 ตำแหน่ง      
     
แยกเป็น รองผบ.ตร. 5 ตำแหน่ง ผู้ช่ววยผบ.ตร. 11 ตำแหน่ง ผบช. 18 ตำแหน่ง ไม่นับรวมการโยกระนาบอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่า น่าจะมีเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะนโยบายพล.ต.อ.อดุลย์ ไม่ได้ให้ทำบัญชีแต่งตั้งนอกฤดู ก็เลยต้องยกยอดมาประจำปีทั้งหมด      
     
เด็กใคร สายไหน มีผลงาน ไร้ผลงาน โดนโทษ ถูกหมายหัว จะปรากฏในการโยกย้ายครั้งนี้อย่างชัดเจนที่สุด!!!
     
แม้ทุกสายตาจะมองกันว่าเด็กสายพล.ต.อ.ประชา น่าจะผงาดยกแผง โดยเฉพาะ นรต.35 รุ่นเดียวกับพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา(สบ.10) ลูกเขยใหญ่อินทรีอีสาน แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะหวือหวาถึงขนาดยกโขยง เพราะสไตล์การทำงานของ พล.ต.อ.ประชา ไม่หวือหวาเท่า ร.ต.อ.เฉลิม การจะทุบโต๊ะขอคนตัวเองเป็นเป็นบัญชีหางว่าวคงๆไม่น่าจะเกิดขึ้น
             
ตั๋วที่เคยว่ากันว่าถูกส่งแยกสายแยกกอ ตั๋วนายใหญ่ ตั๋วทำเนียบ ตั๋วบางบอน ตั๋วตร. น่าจะถูกลดทอนลง ไม่เช่นนั้นนายใหญ่ดูไบคงไม่ส่งพล.ต.อ.ประชา ซึ่งสนิทสนมกับพล.ต.อ.อดุลย์ ในฐานะนายกับลูกน้องเก่ามาประสานงานจับมือกันบริหารสำนักปทุมวัน
             
ซึ่งน่าจะเหลือเพียง ตั๋วนายใหญ่ ตั๋วทำเนียบ ส่วนตั๋วประชาคงถูกนำมามัดรวมกับอดุลย์ ซึ่งก็จะทำให้ส่วนแบ่งไปเพิ่มขึ้นทางฝ่ายการเมือง
             
ตำรวจสายการเมือง ที่ใช้บริการ “ตั๋วทักษิณหญิงอ้อ” น่าจะได้ผงาดยกแผง หรือไม่ก็ยังรักษาฐานที่มั่นในตำแหน่งสำคัญไว้เหนียวแน่น หรือโยกมาอยู่ตำแหน่งที่สำคัญมากกว่า นรต.35 เด็กสายตรงพล.ต.อ.ประชา
             
ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 หลานเขยคุณหญิงอ้อ พจมาน ณ ป้อมเพช็ร อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่คาดว่าจะขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อปูทางเป็นใหญ่ในอนาคต พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ลูกน้องคนสนิทพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. อาจโยกมาคุมงานปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 สายพ.ต.ท.ทักษิณ โยกมาคุมทะเลตะวันออกเป็น ผบช.ภ.2      
     
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ผลงานการทำคดีฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เข้าตาได้โบนัสผงาดตำแหน่งหลัก นั่ง ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.สพฐ. ดีกรีดอกเตอร์ที่ได้รับการชื่นชมอย่างมากจากพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไปสะดุดขาเด็กเจ๊เลยกระเด็นกระดอนมาอยู่ สพฐ. ตอนนี้เคลียร์ปัญหาได้แล้ว ขยับไปเป็น ผบช.ภ.6
     
ส่วน นรต.35 หรือสายพล.ต.อ.ประชา ก็น่าจะขึ้นมาสอดแทรกเพียงบางส่วน ยกเว้นพวกที่นอกจากอิงรุ่น 35 เด็กในบ้าน “ประชา” แต่ก็มีตั๋วการเมืองระดับนายใหญ่ นายหญิง หรือซูสีจันทร์ส่องหล้า หรือเจ๊แดงจากทางเหนือ สนับสนุนสมทบก็คงได้เชิดหน้าชูตาสมใจ อย่างพล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. อดีตนายเวรพล.ต.องประชา ขยับไปคุมอีสานนั่งเก้าอี้ ผงบบช.ภ.4 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รองผบช.ภ.1 ขึ้นแค่ ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.เท่านั้น      
     
ขณะที่ในระดับ รองผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร. ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะตามกฎก.ตร.ต้องขยับเรียงลำดับอาวุโส ซึ่งเมื่อพล.ต.อ.อดุลย์ ประกาศลำดับอาวุโสออกมาเช่นนี้ ตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ.10) เทียบเท่า รองผบ.ตร. ที่จะได้โยกมาอยู่ตำแหน่ง รองผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ 3 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งหลัก คงเป็น พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ มือกฎหมายที่พล.ต.อ.ประชาเคยใช้งานเป็นกระบอกเสียงตำรวจสมัยเป็น ผบ.ตร. พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ปล่อยให้พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ น้องชายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ยังเป็นที่ปรึกษา(สบ.10) ตามเดิม ไม่มีสิทธิ์เข้าเป็น ก.ตร.โดยตำแหน่ง
             
ผู้ช่วย ผบ.ตร. ก็ขยับไล่เรียงตามอาวุโส มีพล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ. พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ จเรตำรวจ พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผบช.รร.นรต. พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร จเรตำรวจ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ จเรตำรวจ พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล จเรตำรวจ พล.ต.ท.วันชัย ถนนัดกิจ ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.มล.พันธศักดิ์ เกษมสันต์ จเรตำรวจ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.เจษฎา อินทรสถิตย์ ผบช.สง.นรป. ยกเว้นเข้าโค้งสุดท้ายอาวุโสอาจโดนตัดทอนลง เพื่อเปิดทางให้ “ขาใหญ่”บางรายสอดแทรกก็มีโอกาสเป็นไปได้
             
ไม่อยากจะคิดว่าอาการ “ปรี๊ดแตก”!!! ของร.ต.อ.เฉลิม ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองพ้นจากการคุมงานตำรวจไปเป็น รมว.แรงงาน ก่อนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจประจำปี จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่      
     
แต่ใครๆก็รู้เค้กก้อนงามในการแต่งตั้งตำรวจแต่ละครั้ง ช่างมหาศาลและสบายกระเป๋าขนาดไหน.
Read more ...

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม