ชงเก้าอี้ สบ 10 รองรับ “จรัมพร” ติดยศ พล.ต.อ.อีกรอบ

18/9/55
โดยผู้จัดการ เมื่อ 17 ก.ย.2555

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 


พล.ต.ท.ศุภวุฒิ สังข์อ่อง กรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะประธานอนุ ก.ตร.บริหารทรัพยากรบุคคล 

เพื่อพิจารณาเรื่องเร่งด่วนที่ค้างการพิจารณามาตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 

พล.ต.ท.ศุภวุฒิ สังข์อ่อง กรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะประธานอนุ ก.ตร.บริหารทรัพยากรบุคคล 

เพื่อพิจารณาเรื่องเร่งด่วนที่ค้างการพิจารณามาตั้งแต่การประชุมครั้งก่อน เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีการพิจารณาเรื่องที่ ตร.ขออนุมัติ

กำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านสืบสวน ยศ พล.ต.อ. ขึ้นมาใหม่ 

หลังจากนำเข้า ก.ตร.ไปแล้วเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ ก.ตร.ให้นำกลับมาพิจารณาในอนุ ก.ตร.ชุดนี้ก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะอนุกรรมการมีการถกเถียงกันหลายประเด็น ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยตามที่ ตร.เสนอ ควรให้เปิดตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านสืบสวน โดยมีคุณสมบัติเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์โดยตรงเพื่อมาช่วยงานสืบสวนสอบสวนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเสนอว่า ในเมื่อกำหนดคุณสมบัติเช่นนี้แล้ว ควรเรียกชื่อเป็นตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านนิติวิทยาศาสตร์ไปเลย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการเรียกชื่อตำแหน่ง เนื่องจากปัจจุบันมีที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านสืบสวนอยู่แล้ว 1 ตำแหน่ง ซึ่งหลังจากนี้จะเสนอ ก.ตร.พิจารณาอนุมัติเปิดตำแหน่งครั้ง จากนั้น จึงจะแต่งตั้งบุคคลลงในตำแหน่งได้ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการนัดประชุม ก.ตร.แต่อย่างใด

สำหรับตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ที่จะเกิดใหม่นี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้รับคำแนะนำให้พยายามผลักดันให้มีการเปิดตำแหน่งให้ได้ โดยวางตัว พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และควบคุมงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจในปัจจุบัน ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่ ติดยศ พล.ต.อ.
Read more ...

ก.ตร.และห้องน้ำ

1/9/55
โดยข่าวสด เมื่อ 1 ก.ย.2555

วงค์ ตาวัน

เห็นพาดหัวข่าวหน้า 1 ของข่าวสด ที่บรรยายภาพการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือก.ตร.ได้อย่างน่าเสียวไส้ บอกว่าเคร่งเครียดถึงขั้นห้ามลุกไปฉี่ จึงต้องรีบพลิกไปอ่านรายละเอียดทันที

เนื้อข่าวบอกว่าเพราะมีก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ พากันวอล์กเอาต์ เนื่องจากไม่พอใจหลักเกณฑ์การพิจารณาบัญชีแต่งตั้งนายพลประจำปี ประกอบกับมีขาดการประชุมอีกจำนวนหนึ่ง

จึงเหลือเฉพาะก.ตร.ที่อยู่ในราชการ นั่งอยู่ในที่ประชุมเพียงแค่ 11 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 22 คน

เท่ากับครบองค์ประชุมพอดีเป๊ะ

ทีนี้ใครคนใดคนหนึ่งจึงไม่สามารถลุกออกไปจากห้องประชุมได้

ไม่เช่นนั้นเสียงจะขาดไปทันที!

ส่วนคำว่าห้ามลุกไปฉี่ ไม่ใช่แค่เปรียบเทียบเสียดสี

แต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นจริง โดยในระหว่างที่กำลังพิจารณาบัญชีรายชื่อของตำรวจภูธรภาค 5 นั้น ประธานที่ประชุมเหลือบไปเห็นเก้าอี้ของก.ตร.รายหนึ่งว่างโล่ง

สอบถามรู้ว่า ลุกไปทำธุระ

เลยสั่งเจ้าหน้าที่วิ่งไปตามถึงในห้องน้ำให้กลับมานั่งประชุมต่อโดยด่วน

ส่วนก.ตร.คนอื่นๆ ก็พลอยลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ได้เช่นกัน บางคนถึงกับอั้นจนหน้าเขียว

สงสัยตอนประชุมเสร็จ คงกรูกันไปจนเต็มห้องน้ำ เป็นแน่!

ขณะเดียวกัน เมื่อบรรยากาศในห้องประชุมไม่มีก.ตร.ซีกผู้ทรงคุณวุฒิหรือฝ่ายใส่สูท ชนิดเก้าอี้ฝั่งซ้ายโล่งทั้งแถบ

การประชุมจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้การทะเบียนพลอ่านรายชื่อแต่ละชื่อ ก็เป็นอันผ่าน

ถึงขั้นที่ผู้บัญชาการหน่วยหนึ่งแวะเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุมเพื่อทำหน้าที่ชี้แจงบัญชีของหน่วยตนเอง

พอเข้ามาถึงปรากฏว่ารายชื่อหน่วยตนเองผ่านไปหมดแล้ว ยังไม่ทันได้นั่งชี้แจงเลย

เพราะห้องน้ำอีกนั่นเอง!?!

สุดท้ายการประชุมก.ตร.เพื่อพิจารณาแต่งตั้งรองผบช.-ผบก.ก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว แต่เต็มไปด้วยรอยแตกร้าวมากมาย

จำเป็นอย่างยิ่งที่ประธานก.ตร.หรือผบ.ตร.จะต้องรีบหาช่องทางทำความเข้าใจกับก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ

ประเด็นคืออำนาจหน้าที่ในการร่วมพิจารณา บรรยากาศการประชุมที่ต้องถกเถียงแบบประชา ธิปไตย

ถ้าพูดคุยกันไม่ได้ จะมีผลต่ออนาคตวงประชุมก.ตร.แน่นอน

เช่น อาจต้องพกคอมฟอร์ท100เข้า ไปด้วย!
Read more ...

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม