โดยเดลินิวส์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2555
Read more ...
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ ในฐานะ โฆษกตร.
แถลงว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.
ได้ลงนามคำสั่งตร.ที่ 33 /2555 แก้ไขลักษณะงานและมอบอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบให้จเรตำรวจแห่งชาติ รองผบ.ตร. ,หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ(สบ10) ,ที่ปรึกษา(สบ10) ,ผู้ช่วยผบ.ตร. ,รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (สบ9) และรองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ9)
โดยคำสั่งดังกล่าวยังคงรูปแบบกลุ่มงานด้านต่าง ๆไว้ดังเดิมเพียงแต่เปลี่ยนแปลงการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ โดย
งานบริหาร พล.ต.อเพรียวพันธ์ มอบหมายให้
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.
พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ ที่ปรึกษา (สบ10)
พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง และ
พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วยผบ.ตร.
พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วยผบ.ตร.
โดยเรียก บร.1-6 ตามลำดับ
ทั้งนี้รับผิดชอบบริหารราชการ
สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง
สกพ.
สกบ.
สงป.
บช.ศ.
รร.นรต.
รพ.ตร.
สท.
ตท.
กองบินตำรวจ
สลก.
กองวินัย
โรงพิมพ์ตำรวจ
โฆษกตร. กล่าวว่า ขณะที่งานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมนั้น ผบ.ตร.แบ่งงาน ปป.ออกเป็น 5 กลุ่ม โดย
โฆษกตร. กล่าวว่า ขณะที่งานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมนั้น ผบ.ตร.แบ่งงาน ปป.ออกเป็น 5 กลุ่ม โดย
กลุ่มแรกให้
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.เป็น รองผบ.ตร.ปป.1
มี
พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน
พล.ต.ท เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็นผุ้ช่วย
โดยให้รับผิดชอบ บช.น.แทน
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.
นอกจากนี้ยังรับผิดชอบ บช.ภ.5-6-7 ขณะที่
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. เป็น รองผบ.ตร.ปป.2
มี
พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้ช่วยผบ.ตร.(ปป21)
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร.(ปป 22)
ดูแลเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องรับผิดชอบดูแลหน่วยพื้นที่
ส่วน
พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ดูแลงาน ปป.3
มี
พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ และ
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร
เป็นผู้ช่วย
โดยให้รับผิดชอบ บช.ภ.1-2-3-4
ขณะที่
พล.ต.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รองผบ.ตร. เป็น รองผบ.ตร.ปป.4
โดยมี
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็น (ปป41)
รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) และให้
พล.ต.อ.ฉัตรชัย โปรตระนันทน์ ที่ปรึกษา(สบ10) เป็น รองผบ.ตร.ปป.5
โดยมี
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้ช่วยผบ.ตร.(ปป51) ดูแล บช.ภ.8-9
มอบหมายให้
มอบหมายให้
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา(สบ10) ดูแลด้านความมั่นคง (มค)
โดยมี
พล.ต.อ,สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงที่ปรึกษาสบ 10 เป็น (มค1) และ
พล.ต.ท.อุดม รักศีลธรรม ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็น (มค2)
พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต ผู้ช่วยผบ.ตร.(มค3) และ
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร. (มค 4)
ดูแล บก.จร. และ
บก.อคฝ ,
บก.ทล. ,
บช.ส. ,
บช.ตชด.และ
สำนักยุทธศาสตร์ เฉพาะกองแผนงานและกิจการพิเศษ
ขณะที่
งานด้านกฎหมายและคดีมอบหมายให้
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.(กม)
มี
พล.ต.อ.จิโรจน์ ไชยชิต ที่ปรึกษา (สบ.10) เป็น (กม1) และ
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(กม2)
รับผิดชอบ บช.ก. (ยกเว้นกองบังคับการตำรวจทางหลวง)
สพฐ. และ
สำนักงานแพทย์ใหญ่ (เฉพาะสถาบันนิติเวชวิทยา) ส่วน
พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จตช.
มอบหน้าที่ให้ดูแลงานจเรตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ
พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ รองจตช. (สบ.9) และ
พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู รองจตช. (สบ.9)
ขณะที่
ขณะที่
พล.ต.อ.ชลธาร จิราณรงค์ หน.นรป. (สบ.10)
ดูแลงาน
สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ (หน.นรป.) ร่วมกับ
พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อมาตยกุล รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (สบ.9)
โดยมีงานหลักพิทักษ์รักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์และพระราชอาคันตุกะ ส่วน
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.
เป็น ที่ปรึกษา ศชต.) และ
เป็น ที่ปรึกษา ศชต.) และ
ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า
ทั้งนี้หนังสือดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังทุกหน่วยเป็นที่เรียบแล้ว และมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ขณะที่มีรายงานว่าการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายหน้าที่การงานรองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายงานระดับบริหารของ ตร. ครั้งที่ 3
ขณะที่มีรายงานว่าการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายหน้าที่การงานรองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายงานระดับบริหารของ ตร. ครั้งที่ 3
นับแต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ขึ้นมาทำหน้าที่ ผบ.ตร. นับแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้คำสั่งมอบหมายหน้าที่การงานฉบับล่าสุด จะยังคงกำหนดกลุ่มงานไว้อย่างเดิม
แต่มีการปรับหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละกลุ่มงานในบางส่วน โดยเฉพาะมีการตั้งข้อสังเกตว่า ปรับให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อยู่ในความรับผิดชอบของงานกฎหมายและคดี
แทนที่จะเป็นงานป้องกันปราบปรามอย่างที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการตั้งข้อสังเกตและวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆนานาถึงการปรับเปลี่ยนผู้รับผิดชอบงานต่าง ๆ หลายตำแหน่ง ให้
พล.ต.อ.ปานศิริ มาดูงานนครบาล และ บช.5 แทน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ และปรับให้
พล.ต.อ.สุวัฒน์มาเปลี่ยนจากการคุมงานบริหารคุมงานปป. และดูแลศชต.
ซึ่งเหล่าข้าราชการตำรวจวิจารณ์ว่าเกิดความไม่ลงรอยในกลุ่มผู้บังคับบัญชาระดับสูงในตร.