เมื่อ 17 ก.ค.2553 เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สโมสรตำรวจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
เดินทางมาเป็นประธานเพื่อมอบนโยบายในการปฏิบัติงานให้กับคณะกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบริหารงานตำรวจ ใน
การประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ภาคประชาชน
ในวาระที่ กต.ตร.ชุดใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่งทั่วประเทศ จำนวน 15,000 คน พร้อมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง จ.นครราชสีมา จ.ลพบุรี จ.เชียงใหม่ และ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงร่วมประชุม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในภาวะที่บ้านเมืองมีความขัดแย้งทำให้การทำงานของตำรวจต้องเผชิญความกดดันหลายด้าน เนื่องจากสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมเมือง ทำให้เกิดปัญหาทั้งอาชญากรรม ยาเสพติด อบายมุข รวมทั้งความขัดแย้ง เนื่องจากการแตกแยกความคิดทางการเมือง และนำไปสู่การใช้ความรุนแรง การละเมิดกฎหมาย ทำให้ภาระของตำรวจเพิ่มขึ้น เนื่องจากสังคมกดดันอยากเห็นการทำงานของตำรวจมีประสิทธิภาพ การทำงานของ กต.ตร. จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน ซึ่งหากหน่วยงานรัฐเชื่อมกับประชาชนได้ก็จะให้การทำงานต่างๆ สำเร็จโดยง่าย
“หน้าที่ของ กต.ตร.ในการตรวจสอบการทำงานของตำรวจเป็นพลังสำคัญที่ควรนำมาใช้ในช่วงที่บ้านเมืองต้องการกลับสู่ภาวะปกติ การสมานฉันท์ต้องการกลไกที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เป็นเสมือนพลังของประชาชนที่เป็นกระจกเงาสะท้อนการทำงานของตำรวจให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไปหากมีการใช้อำนาจในส่วนนี้อย่างจริงจัง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า กต.ตร.เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นหน่วยงานที่เชื่อโยงการทำงานระหว่างตำรวจกับประชาชนให้มีความใกล้ชิด และมีส่วนร่วมมากขึ้น ภาระสำคัญ คือตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผล รวมทั้งส่งเสริมชุมชนให้มีส่วนร่วม สนับสนุนการทำงานของตำรวจ ซึ่ง กต.ตร.ทุกระดับ มีความสำคัญโดยเฉพาะการดูแลป้องกันปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และข้อพิพาทในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือชี้วัดความสำเร็จในการปรับปรุงองค์กรตำรวจเพื่อประชาชนในอนาคต และก่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของสังคม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในภาวะที่บ้านเมืองมีความขัดแย้งทำให้การทำงานของตำรวจต้องเผชิญความกดดันหลายด้าน เนื่องจากสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมเมือง ทำให้เกิดปัญหาทั้งอาชญากรรม ยาเสพติด อบายมุข รวมทั้งความขัดแย้ง เนื่องจากการแตกแยกความคิดทางการเมือง และนำไปสู่การใช้ความรุนแรง การละเมิดกฎหมาย ทำให้ภาระของตำรวจเพิ่มขึ้น เนื่องจากสังคมกดดันอยากเห็นการทำงานของตำรวจมีประสิทธิภาพ การทำงานของ กต.ตร. จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน ซึ่งหากหน่วยงานรัฐเชื่อมกับประชาชนได้ก็จะให้การทำงานต่างๆ สำเร็จโดยง่าย
“หน้าที่ของ กต.ตร.ในการตรวจสอบการทำงานของตำรวจเป็นพลังสำคัญที่ควรนำมาใช้ในช่วงที่บ้านเมืองต้องการกลับสู่ภาวะปกติ การสมานฉันท์ต้องการกลไกที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เป็นเสมือนพลังของประชาชนที่เป็นกระจกเงาสะท้อนการทำงานของตำรวจให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไปหากมีการใช้อำนาจในส่วนนี้อย่างจริงจัง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า กต.ตร.เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นหน่วยงานที่เชื่อโยงการทำงานระหว่างตำรวจกับประชาชนให้มีความใกล้ชิด และมีส่วนร่วมมากขึ้น ภาระสำคัญ คือตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผล รวมทั้งส่งเสริมชุมชนให้มีส่วนร่วม สนับสนุนการทำงานของตำรวจ ซึ่ง กต.ตร.ทุกระดับ มีความสำคัญโดยเฉพาะการดูแลป้องกันปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และข้อพิพาทในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือชี้วัดความสำเร็จในการปรับปรุงองค์กรตำรวจเพื่อประชาชนในอนาคต และก่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของสังคม