โดย ผู้จัดการ เมื่อ 9 ก.ค.2553
พล.ต.ท.เหมราชฯ
เมื่อ 9 ก.ค.2553 เวลา 16.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวสรุปผลการประชุม ก.ตร.ในวันนี้ ว่า
ที่ประชุม ก.ตร.ยังไม่พิจารณาตั้งที่ปรึกษา (สบ 10) เนื่องจากคณะกรรมการกลั่นกรองยังไม่ได้ข้อยุติรายชื่อผู้ที่เหมาะสม เผย พร้อมดำเนินการตามกฎ ก.ตร.เรียงตามอาวุโส ขณะที่ “เหมราช” ยอมรับ “อัศวิน” เข้าหาทางอ้อมเช่นกัน ชี้ ควรพิจารณาในวาระประจำปี ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า แย้มหลายฝ่ายรู้กันเป็นนัยอยู่แล้วตำแหน่งนี้เป็นของ “อัศวิน”
พล.ต.ท.อำนวย ดิษฐกวี คณะกรรมการ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ลาออก
โดย ก.ตร. เห็นชอบให้มีการแต่งตั้ง
พล.ต.ท.ไพศาล ตั้งใจตรง อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.ทดแทน
เนื่องจากอยู่ในบัญชีผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งอยู่ในลำดับถัดไป ซึ่งเจ้าตัวยอมรับแล้ว และเลขา ก.ตร.กำลังตรวจสอบคุณสมบัติ และเสนอโปรดเกล้าฯ อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ทาง ก.ตร.ยังทราบเรื่องการแบ่งงาน ตร.เป็น 5 หน้างาน โดยเพิ่มงานสืบสวน และเรื่องสุดท้ายที่ใช้เวลาในการพิจารณานานก็คือเรื่อง การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ขอเรียนว่า
“เมื่อเช้ามีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกแต่ว่าคณะกรรมการคัดเลือกไม่สามารถมีมติได้ก็กลับมารายงาน ก.ตร.ว่า ในช่วงการพิจารณาคัดเลือกมีข้อสงสัยว่า ในมติ ก.ตร.ครั้งที่ผ่านมา ที่มีการให้เปิดตำแหน่ง (สบ 10) นั้น คณะกรรมการมีมติให้มีการแต่งตั้งพร้อมกับการแต่งตั้งนายพลวาระประจำปี ตามความเห็นของ พล.ต.ท.เหมราช ธารีไทย หรือไม่ ซึ่ง ก.ตร. ยืนยันว่า การเปิดตำแหน่งในครั้งนั้นไม่ได้มีมติ ให้แต่งตั้งพร้อมกับวาระประจำปี ความเห็นของพล.ต.ท.เหมราช จึงเป็นความเห็นเฉพาะตัวและมีการบันทึกลงไปในรายงานการประชุมด้วย “
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ก.ตร.จึงมีมติให้คณะกรรมการคัดเลือกไปคัดเลือกผู้เหมาะสมใหม่ และพักการประชุมประมาณ 40 นาที เนื่องจากไม่มีมติให้ไปแต่งตั้งพร้อมกับวาระประจำปี และ รรท.ผบ.ตร.ได้เข้าประชุมด้วย เพราะต้องเป็นผู้เสนอชื่อตัวบุคคล จากนั้น รรท.ผบ.ตร.ก็กลับมารายงานให้ ก.ตร.ใหญ่ทราบ ว่า ในการประชุมคัดเลือกครั้งที่ 2 ที่ประชุมไม่สามารถที่จะพิจารณาตัวบุคคลได้ ก.ตร.จึงมีมติ ว่า เมื่อไม่สามารถพิจาณาได้ก็ให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ว่า จะมีเหตุผลความจำเป็นใดหรือไม่ ที่จะมีการเสนอตำรวจเข้าสู่ตำแหน่งที่เปิดใหม่โดยเฉพาะ หรือควรแต่งตั้งในวาระประจำปี ซึ่งจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมซึ่งจะมีการแต่งตั้งนายพลวาระประจำปี จากนั้น ก.ตร.จึงได้เลิกประชุม
พร้อมเสนอตามอาวุโส
เมื่อถามว่า ในวันนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือก ได้มีการเสนอตัวบุคคลหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ตนได้สอบถาม รรท.ผบ.ตร.เช่นกัน ซึ่ง ท่านระบุว่า ยังไม่ได้มีการเสนอ และจะเสนอตัวบุคคลตามกฎ ก.ตร.ที่ให้ไว้ คือ เรียงลำดับอาวุโส
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่มีการเลือกตัวบุคคล พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ยังมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการคัดเลือกเป็นกรณีพิเศษนั้น เป็นกรณีพิเศษหรือวาระประจำปี และจะมีการประชุม ก.ตร.เมื่อใด และจะมีการแต่งตั้งตำแหน่งที่เปิดใหม่หรือไม่ หรือจะแต่งตั้งพร้อมกับวาระประจำปี ซึ่งมีกำหนดภายในเดือนสิงหาคมก็เหลือแค่เดือนเดียว ก็ขึ้นกับประธาน ก.ตร. พิจารณา
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ท่านเองเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 2 และจะมีการแต่งตั้งข้ามอาวุโส ท่านมีความเห็นอย่างไร พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบได้ เพราะมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ในครั้งก่อนนั้น พล.ต.ท.อัศวิน ได้สัมภาษณ์ว่า ตนเหมาะสม เพราะได้ทำประโยขน์ให้สังคมไว้มาก รู้สึกว่าเหมือนโดนตบหน้าหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ไม่รู้สึกนะ ไม่เห็นเจ็บเลย ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ยัน ก.ตร.ไม่ล่ม เพราะยังไม่ขึ้นเรือ
ด้าน พล.ต.ท.เหมราช ธารีไทย ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุม ก.ตร.วันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธาน ก.ตร.สั่งยุติหลังจากที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.รายงานต่อ ก.ตร.ว่า คณะกรรมการกลั่นกรองยังไม่ได้ข้อสรุป โดยก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.ปทีป ได้เสนอให้ ก.ตร.พิจารณาว่าการแต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านการสืบสวนสามารถพิจารณาได้ทันทีหรือไม่ ก่อน ก.ตร.จะให้ไปประชุมบอร์ดกลั่นกรองพิจารณาบุคคลตามที่ รรท.ผบ.ตร.เสนอ แต่การประชุมกลั่นกรองก็ไม่ได้ข้อสรุป ในที่สุดก็หาคนมาลงไม่ได้ รรท.ผบ.ตร.จึงรายงานต่อ ก.ตร.ซึ่ง นายสุเทพ ก็สั่งยุติการประชุมทันที โดยไม่ได้บอกว่าจะประชุมพิจารณาวาระนี้ครั้งต่อไปหรือไม่ อย่างนี้ไม่ถือว่าล่ม เพราะยังไม่ขึ้นเรือด้วยซ้ำ แต่ก็มีความพยายามจะพิจารณาตัวบุคคลกันในวันนี้
พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า เหตุที่ ก.ตร.ไม่ยอมให้มีการแต่งตั้ง คือ ควรต้องแต่งตั้งในวาระประจำปีเสียคราวเดียว ไม่ต้องรีบร้อน และการพิจารณาในตำแหน่งระดับรองผบ.ตร.หรือที่ปรึกษา (สบ 10) นี้ กฎ ก.ตร.ก็ระบุชัดเจนว่าต้องเป็นไปตามลำดับอาวุโส
“ผมว่ามันควรจะไปพิจารณากันในวาระประจำปี ผู้ช่วยที่มีอาวุโสทุกคนจะได้ แล้วคนที่เขาหมายว่า จะให้ได้ ก็ได้ด้วย ได้เป็น พล.ต.อ.ด้วยกันหมด มีความสุขกันทุกคน และตามกฎหมายในเดือนหน้า เดือนสิงหาคมก็ต้องพิจารณาแต่งตั้งแล้ว เรื่องนี้มันรู้กันนัยนัยอยู่แล้วว่ามีตำแหน่งนี้เป็นของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.” พล.ต.ท.เหมราช กล่าว
แนะตั้งรวมวาระประจำปี
เมื่อถามว่า คิดเห็นอย่างไรหากแต่งตั้ง พล.ต.ท.อัศวิน ขึ้นมาโดยข้ามอาวุโส พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า สำหรับ พล.ต.ท.อัศวิน ก็เป็นน้อง เป็นลูกศิษย์ตน และเคยพูดกันอยู่ “ความก้าวหน้าของน้องๆเป็นความต้องการของผม ถ้าได้ก็ต้องได้กันทุกคน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นนักกีฬา มีกติกา ก็เสนอว่าควรแต่งตั้งรวมในวาระประจำปี จะได้หมดปัญหา”พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว
เมื่อถามว่า พล.ต.ท.อัศวิน ได้มาคุย มาให้ช่วยสนับสนุนหรือไม่ พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า ก็มา
ถามว่า แต่งตั้งครั้งนี้รัฐบาลสั่งมาหรือไม่ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าการแต่งตั้งครั้งนี้รัฐบาลหรือใครสั่งมาหรือไม่ ตนตอบไม่ได้
ยัน ก.ตร.มีจุดยืนพิจารณาตามกฎ-ระเบียบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ ก.ตร.ถูกโจมตีเรื่องการยอมเปิดตำแหน่ง และพยายามแต่งตั้ง ดูเหมือนไม่มีจุดยืน พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า ก.ตร.มีจุดยืนแน่นอน โดย ก.ตร.มีจุดยืนว่าต้องให้ความยุติธรรม ทำให้คนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเป็นธรรมมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ซึ่งเสมอกันคงไม่ได้ คนมันเยอะ แต่ต้องให้อยู่ในทำนองคลองธรรม เหมาะสมตามสมควร แต่จะพูดว่าคนที่พยายามเสนอกันวันนี้ไม่อยู่ในทำนองคลองธรรมคงไม่ได้ อย่าพูดอย่างนั้น เพราะทุกคนอยากเป็นกันทั้งนั้น เราเอาความรู้สึกไปตัดสินไม่ได้ แต่การแต่งตั้งมีกฎ ระเบียบที่ต้องยึดถือ
ยันไม่ตั้ง ที่ปรึกษา (สบ 10) ก่อนวาระประจำปี
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจาก พล.ต.ท.อัศวินที่ให้ช่วยสนับสนุนแล้วยังมีคนอื่นต่อสายให้ช่วยสนับสนุน พล.ต.ท.อัศวิน อีกหรือไม่ พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า พล.ต.ท.อัศวิน ไม่เคยต่อสายมาถึงตน แต่ก็มีมาทางอ้อมบ้าง ธรรมดา ขณะที่ฝ่ายการเมืองไม่มีใครมาพูดกับตนเลย อย่างไรก็ตาม ก.ตร.ก็จะไม่มีการพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านการสืบสวน ก่อนวาระประจำปี เรามีจุดยืนอย่างนี้แม้มีความพยายามเรา ก.ตร.ก็ต้องยืนยันตามนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น