ตำรวจระส่ำโผ ‘นายพัน’ วัดใจ ‘ก.ตร.’ ผดุงคุณธรรม

5/1/58
โดยผู้จัดการ เมื่อ 5 ม.ค.2558 เวลา 10:34 น.

โผ “นายพัน” สีกากีครั้งนี้ ยิ่งใกล้คลอด ยิ่งทำให้ ”ตำรวจ” ระส่ำระสาย ขาดขวัญกำลังใจ ไม่เป็นอันทำงาน เพราะแนวโน้มการแต่งตั้ง แต่ละตำแหน่ง แต่ละเก้าอี้ ดูเหมือนหลักคุณธรรม การพิจารณาตามความรู้ ความสามารถ จะเป็นเพียงแค่ “หลักการ” สวยหรู ให้ผู้บริหาร “สำนักปทุมวัน” เอาไว้ใช้อวดอ้างเบื้องหน้า แต่เบื้องหลังยึด “หลักกู” เอาแต่พวกพ้อง เพื่อนฝูง และผลประโยชน์เท่านั้น

ตามปฏิทินการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ “สารวัตร(สว.)-รองผู้บังคับการ(รองผบก.)” ทั่วประเทศประจำปี 2557 ที่โดนโรคเลื่อนข้ามปี “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่ ขีดเส้นให้แต่ละกองบัญชาการจัดทำบัญชีแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 9 มกราคม 2558และให้คำสั่งมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 15 มกราคม 2558

ตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา การจัดทำโผแต่งตั้ง “นายพัน” สีกากี ใน 2 กองบัญชาการใหญ่ อย่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงแรงกระเพื่อมของบัญชีรายชื่ออย่างมาก ถึงขนาดทำให้การแต่งตั้ง “สว.-รองผบก.” ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก โดยเฉพาะการเข้ามา “ป่วน” บัญชีแต่งตั้งของ “จ.หวานเจี๊ยบ” ที่มีการยัดไส้รายชื่อจากบัญชี “พี่ใหญ่บ้านบิ๊กบราเธอร์” กันถึงขนาด “หัวหน้าเมืองกรุง” รับออเดอร์ไปตาค้าง ต้องพาสัตว์น้อยใหญ่ออกมาเต็มสำนักงาน จนต้องมีการส่งสัญญาณให้ “พี่ใหญ่บ้านบิ๊กบราเธอร์” เคลียร์ปัญหา เช่นเดียวกับ “สอบสวนกลาง” กองบัญชาการที่ถูกตั้งธงต้องล้างบางเครือข่าย “บิ๊กกิ๊ก”พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ให้สิ้นซาก มีการ “กาหัว” ตำรวจ ที่จะต้องถูกโยกย้ายออกนอกหน่วยมากถึง 200 ตำแหน่ง

แม้พอกระแสข่าวการโยกย้าย “อภิมหาศาล” เป็นประวัติศาสตร์ “สำนักปทุมวัน” กระเซ็นกระสายออกมา จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมทั่วไป ทำให้ผู้มีอำนาจถูกแรงกดดันอย่างหนัก ต้องสั่งทบทวนการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ทั้ง “นครบาล” และ “สอบสวนกลาง” กันใหม่ มีการเรียก “จ.หวานเจี๊ยบ” และ “นายพลตัวขาว” เข้าไปเคลียร์บัญชียัดไส้ รวมทั้งนำรายชื่อตำรวจสอบสวนกลางที่ถูก “กาหัว” มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดพล.ต.ท.พงศพัฒน์ มาตรวจสอบกันอีกครั้ง ซึ่งทำให้ “สีกากี” ต่างเริ่มมีความหวังขึ้นมาในระดับหนึ่งว่า นายจะมีคุณธรรม ผลงาน การทุ่มเททำงาน จะเป็นเกราะคุ้มกัน ไม่ให้ต้องระเห็จระเหินไปตามแรงเหวี่ยงจากการมัวเมาอำนาจ การเลือกที่รักมักที่ชั่ง หรือการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

แต่ทุกอย่างก็พังทลาย ความเป็นธรรม ความเมตตา การยึดหลัก การยึดเกณฑ์ ที่หวังจะให้เกิดขึ้นในยุคที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราศจากการเมืองแทรกแซง ยุคที่รัฐบาลประกาศจะคืนความสุขให้ทุกๆคน สุดท้ายไม่ว่ายุดไหนสมัยใดแวดวงสีกากีก็หนีไม่พ้น“ค่าของคนอยู่ที่คนของข้า”!!!พวกพ้อง ผลประโยชน์ เงินทอง ยังคงเป็นปัจจัยแรกๆในการแต่งตั้งโยกย้าย “ตำรวจ” อยู่วันยันค่ำ ความรู้ ความสามารถ ผลการทำงาน เป็นปัจจัยลำดับท้ายๆ

ว่ากันว่า “นครบาล” มีการเสนอรายชื่อตำรวจระดับ ผู้กำกับการ (ผกก.) และ รองผู้บังคับการ (รองผบก.) ออกนอกหน่วย มากถึง 60-70 คน ทั้งๆที่โรงพักในนครบาลมีอยู่แค่ 88 สน. ซึ่งหากเป็นไปตามกระแสข่าวดังกล่าว ต้องถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์บทใหม่ของตำรวจเมืองกรุง ที่หัวหน้าโรงพักถูกย้ายออกนอกหน่วยกว่า 80-90% ขนาดช่วงที่นักการเมืองมีบทบาทยังไม่กล้าเพียงนี้

เช่นเดียวกับ “สอบสวนกลาง” แม้จะทบทวนชื่อตำรวจที่โดน “กาหัว” อีกครั้ง แต่บัญชีรายชื่อตำรวจที่ถูกเสนออกนอกหน่วยก็ยังเป็นหลักร้อย แถมหลักร้อยไม่ร้อยเปล่า กลุ่มที่ถูก “กาหัว” ในโซนสีดำ โดนล็อคเก้าอี้ให้ไปอยู่ไกลสุดกู่ ส่งผลให้ตำรวจทั้ง 2 กองบัญชาการ ระส่ำระส่าย ไม่เป็นอันทำงาน มิหนำซ้ำตำรวจหน่วยงานอื่นที่รู้ข่าวต่างก็ปลงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะพยายามคิดว่าสมบัติผลัดกันชม หรือทีใครทีมัน แต่ขวัญกำลังใจในการทำงานก็หดหาย และผลพวงก็กระทบมาถึงประชาชนตาดำๆอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

หนทางเดียวที่จะหยุดความระส่ำ ระส่าย สร้างขวัญ กำลังใจ ให้ “ตำรวจ” กลับคืนมา คงต้องหวังพึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. จะหาญกล้าเพียงใดในการทำหน้าที่คืนความยุติธรรมให้ชาวสีกากี “หยุด” หรือ “เบรก” โผแต่งตั้งที่ทำลายขวัญและกำลังใจตำรวจให้ได้เพราะตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 88/2557 มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ เพื่อปรับปรุงระบบการบริหารบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เกิดประสิทธิภาพ มีความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่มากยิ่งขึ้น

ซึ่งหนึ่งในประกาศฉบับดังกล่าว กำหนดให้การแต่งตั้งระดับ ผกก.-รองผบก. ให้นำรายชื่อเข้าที่ประชุม ก.ตร.พิจารณาเป็นด่วนสุดท้าย ก่อนออกมาเป็นคำสั่ง ต่างจากของเดิมที่ใช้อำนาจผู้บัญชาการ(ผบช.) ก็ออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายได้เลย ไม่ต้องนำเข้า ก.ตร.โดยกรรมการ ก.ตร. ชุดปัจจุบันที่มีการปรับแก้ไขเช่นเดียวกัน ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ก.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เป็น รองประธาน ก.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. และพล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น กรรมการ จะมีบทบาทอย่างมากในการพิจารณาโผแต่งตั้ง “นายพัน” ครั้งนี้

ดังนั้นในการประชุม ก.ตร.วันที่ 7ม.ค.2558 จะเป็นการ “วัดใจ” การทำหน้าที่ของ “กรรมการ” ก.ตร. จะเป็นที่พึ่งให้กับตำรวจทั่วประเทศได้หรือไม่ หรือเป็นแค่เพียง “ตรายาง” อย่างที่ถูกปรามาสมาตลอดทุกยุคทุกสมัย

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม