โดยไทยรัฐ เมื่อ 5 ม.ค.2557 เวลา 06.05 น.
ขอความเป็นธรรม กรณีพัวพันป้ายไฟ
คดีโยกย้าย 67 ผกก.สังกัด บช.น.พัวพันป้ายโฆษณา ส่อเค้าบานปลาย ล่าสุด ผกก.สน.สาย-ไหม เออร์ลี่รีไทร์ มีผลแล้ว ส่วนนายตำรวจระดับรอง ผบก.-สว. รวมตัวร้องขอความเป็นธรรมเสนอ ก.ตร. หลังพบผู้เกี่ยวข้องบางนายสามารถล็อบบี้จนยุติเรื่อง ไม่ถูกโยกย้าย ด้าน น.1 ระบุรายชื่อโผส่งไปตั้งแต่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา บางรายโดนเรื่องป้ายโฆษณาแล้วไม่โดนย้ายก็มี ต้องดูที่ ผลงานประกอบ
กรณี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เสนอย้าย ผกก. 67 สน. จากทั้งหมด 88 สน. ออกนอกหน่วย ในความผิดเรื่องป้ายโฆษณาติดตามป้อมจราจรในพื้นที่ บก.1-9 และสั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเร่งสรุปผลให้ทันคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายรอง ผบก.-ผกก.ในเดือน ม.ค.นี้
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 ม.ค. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวถึงการเสนอย้ายนายตำรวจระดับ ผกก. 67 นาย ออกนอกหน่วยว่า จำจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ แต่มีการโยกย้ายหลายสิบตำแหน่ง ส่วนที่เกี่ยวข้องกรณีเรื่องป้ายโฆษณา เบื้องต้นคณะกรรมการสอบสวนสรุปว่าผิดหมด ทำให้รัฐเสียหาย ต้องถูกดำเนินคดีอาญา การแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องป้ายโฆษณาอย่างเดียว ต้องดูเรื่องความประพฤติและการทำงานด้วยว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ ไม่ใช่โยกย้ายเรื่องป้ายโฆษณาอย่างเดียว บางรายโดนเรื่องป้ายโฆษณาแล้วไม่โดนย้ายก็มี เนื่องจากต้องดูด้านการทำงานด้วย ที่เสนอโยกย้ายออกนอกหน่วยนั้นมีไม่ถึง 67 สน. มีประมาณ 50-60 สน. ในจำนวนดังกล่าวมีสมัครใจย้ายประมาณ 20กว่า สน. ส่วนผู้ต้องการร้องเรียนว่าโยกย้ายไม่เป็นธรรมให้เสนอเรื่องขึ้นมาจะพิจารณาให้
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวต่ออีกว่า ทาง ตร.ไม่ได้กำชับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ กรณีเรื่องป้ายถ้ารัฐเสียหายก็สรุปว่าผิด แต่ถ้ารัฐไม่เสียหายก็สรุปว่าให้ยุติ ซึ่งยุติไปหลายรายไม่ใช่โดนหมดทุกกรณี การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายต้องดูผลงานและความประพฤติด้วย บางรายโดนเรื่องป้ายแล้วไม่ถูกย้ายก็มี เพราะมีผลงานและความประพฤติดี ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรอง ผบก.-สว. มีการเสนอรายชื่อไปตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่ถูกระบุว่า มีตำรวจถูกโยกย้ายออกนอกหน่วยมากเป็นประวัติการณ์ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า จำนวนทั้งหมดอยู่ที่ผลการปฏิบัติกับความประพฤติ ถ้าปล่อยปละละเลยให้บุกรุกที่หลวงเก็บเงินกันแล้วจะให้ทำอย่างไร ต้องไปถามผู้บังคับบัญชาสมัยเก่าดูว่าปล่อยกันได้อย่างไร ทั้งๆที่มันผิดกฎหมายและทำให้รัฐเสียหาย
มีรายงานว่า พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.สายไหม ยื่นหนังสือขอเกษียณก่อนอายุราชการ โดย พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีเรื่องป้ายไฟของ รพ.แห่งหนึ่ง ที่ติดอยู่ป้อมจราจร บุคคลใกล้ชิดระบุว่า พ.ต.อ.เชวงศักดิ์รู้ตัวจะถูกโยกย้ายออกนอกหน่วย จึงยื่นหนังสือขอเออร์ลี่รีไทร์และมีผลแล้ว โดยให้เหตุผลว่าจะเกษียณในเดือน ต.ค. 58 ไม่อยากเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดเพราะก่อนหน้านี้เคยถูกย้ายออกนอกหน่วยมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ได้รับการเยียวยาก่อนมารับตำแหน่งเป็น ผกก.สน.สายไหม ทั้งอาวุโสอยู่ในอันดับ 4 มีสิทธิ์ได้ขึ้นรอง ผบก.ปีสุดท้ายก่อนเกษียณ แต่โดนพิษป้ายไฟทำให้ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง แถมถูกโยกออกนอกหน่วยอีกจึงยื่นใบลาออก เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ถามสาเหตุที่ลาออกจาก พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ ได้รับคำตอบเพียงว่า ไม่อยากพูดอะไรมาก ขอลาออกเพราะเบื่อหน่ายวงการตำรวจ
วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงคำสั่งแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-สว.ที่มีปัญหาโยกย้ายนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องป้ายโฆษณาในสังกัด บช.น.ว่า มอบนโยบายให้ผู้บังคับ-บัญชาในแต่ละพื้นที่เป็นผู้พิจารณาตามกฎ ก.ตร. โดยผู้บังคับบัญชาใน ตร.จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เชื่อว่าไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะต้องมีคำตอบในการโยกย้าย หากไม่มีเหตุผลเพียงพอคณะกรรมการต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้เสียหายมีสิทธิ์ฟ้องศาลปกครองได้ กรณีนายตำรวจระดับ ผกก.ใน บช.น.ทำหนังสือร้องเรียนขอให้ทบทวนการโยกย้ายกรณีป้ายโฆษณาที่ติดตามป้อมจราจรในพื้นที่ บช.น. ทาง ตร. ยินดีที่รับเรื่องและส่งหนังสือไปยังต้นสังกัด หากผลการสอบสวนออกมาว่าตำรวจรายดังกล่าวมีความผิดจริงต้องยอมรับคำตัดสิน โดยคณะกรรมการจะให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทุกนาย
มีรายงานว่า นายตำรวจระดับรอง ผบก.-สว.ในสังกัด บช.น.ที่มีชื่อเสนอออกนอกหน่วยในเรื่องดังกล่าวรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยสรุปรายชื่อเสนอต่อ ก.ตร.ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม เนื่องจากมีหลายโรงพักที่เข้าข่ายความผิดเดียวกันแต่วิ่งเต้นจนสามารถยุติเรื่อง ได้ขยับตำแหน่งหรืออยู่ในตำแหน่งเดิมไม่ต้องถูกโยกย้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น