ศาลปกครองไม่รับฟ้อง “เพรียวพันธ์” ฟ้อง “นายกฯ” ตั้ง”ปทีป”เป็น รักษาการ ผบ.ตร.

25/8/53

โดย www.isnhotnews.com เมื่อ 16 ส.ค.2553

วันนี้(16ส.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

นายวราวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เจ้าของสำนวน 

มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีที่

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. 

ยื่นฟ้อง

นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกฟ้อง 

เรื่องกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 29 ก.ย.52 แต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีอาวุโสลำดับที่ 3 ของตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.52 เป็นต้นมา โดยดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมายขณะที่ผู้ฟ้อง เป็น รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับที่ 1

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจาก สารบบความ เนื่องจากเห็นว่า การแต่งตั้ง ผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. นั้น ผู้ถูกฟ้องอ้างอำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ม.72 วรรค 1 (1) ซึ่งเป็นมาตรการภายในของฝ่ายปกครอง และเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาแต่งตั้งผู้ที่เห็นว่ามี ความเหมาะสม โดยกฏหมายไม่ได้กำหนดให้ผู้ถูกฟ้องต้องแต่งตั้งผู้ที่ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.เป็นผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.แต่อย่างใด จึงไม่ถือว่าผู้ฟ้องเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการกระทำดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดี

ต่อมาผู้ฟ้องได้ยื่นอุทธรณ์อ้างว่า หากผู้ถูกฟ้องไม่ดำเนินการออกคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนดังกล่าว ผู้ฟ้องย่อมจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.โดยชอบด้วยกฎหมายได้ทันทีตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯและจารีตประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติที่จะยึดถือลำดับอาวุโส โดยผู้ฟ้องเป็นผู้มีสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายทุกประการและมีอาวุโสสูงสุดในขณะ นั้น

ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาข้อกฎหมายแล้ว เห็นว่า 

การที่มีคำสั่งสำนักนายกฯ แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ปทีป ซึ่งเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.52 เป็นการแต่งตั้งเนื่องจาก ผบ.ตร.พ้นจากตำแหน่งโดยการเกษียณอายุราชการและขณะนั้นยังไมสามารถแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ได้ ผู้ถูกฟ้องในฐานะผู้บังคับบัญชา จึงได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาแต่งตั้งผู้ที่เห็นสมควรรักษาราชการแทน ซึ่งเป็นมาตราการภายในของฝ่ายปกครองและเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ

ประกอบกับกฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีบทบัญญัติลักษณะบังคับให้ผู้ถูกฟ้องต้อง แต่งตั้ง รองผบ.ตร.เป็นผู้รักษาราชการแทนและเมื่อการแต่งตั้งผู้รักษาราชการ แทนไม่ได้เป็นการแต่งตั้งที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตำรวจแห่ง ชาติเหมือนการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ดังนั้นแม้ผู้ฟ้องจะเป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รักษา ราชการแทน ผบ.ตร. ตามที่ผู้ฟ้องกล่าวอ้าง แต่ไม่อาจถือได้ว่าผู้ฟ้องเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการกระทำดังกล่าวและไม่ใช่ผู้มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ศาลเพิกคำสั่งดังกล่าว

ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ศาลปกครองสูงสุดเห็นฟ้องด้วย จึงมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม