เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ตำรวจและประชาชนพากันกล่าวถึงด้วยความชื่นชม
การทำหน้าที่ของ ก.ตร.ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 ก.พ.53
จากในอดีตที่ผ่านมาหลายครั้ง หรือครั้งเดียวก็ตาม การทำหน้าที่สร้างความคลางแคลงใจให้กับผู้คนทั่วไป จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบเสียหาย
กลายเป็น ตราบาป ถูกขนานนาม ก.ตร.ตรายาง
องค์กรตำรวจนั้น ถือว่าเป็นองค์กรใหญ่ที่มีอำนาจหน้าที่มากมายมหาศาล ทำให้ผู้มีอำนาจเหนือกว่าจากภายนอก, การเมือง พยายามเข้ามามีบทบาทใช้เป็นเครื่องมือสร้างประโยชน์ให้แก่ตัวเองและพวกพ้อง จนทำให้องค์กรตำรวจอ่อนแอ ไม่มีศักยภาพเป็นตัวของตัวเอง
แต่ในปัจจุบัน ได้เห็นการ ทำหน้าที่ของ ก.ตร. เป็นไปด้วยความ ถูกต้องเที่ยงธรรม มากขึ้น เรื่องใดที่ไม่ถูกไม่ต้อง จะสั่งให้มีการ หันซ้ายหันขวา-พยักหน้า จาก วงจรอุบาทว์หรืออำนาจการเมือง ที่เข้ามาสอดแทรก จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ก.ตร.แข็ง จึงเป็นที่พึ่งของตำรวจได้!!!
การประชุม ก.ตร. เมื่อ 12 ก.พ. นอกจากได้เห็นการทำหน้าที่ของ ก.ตร.ด้วยความชื่นชมแล้ว ยังทำให้เห็นอะไรต่อมิอะไรได้อีกหลายอย่าง
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. เป็นผู้เสนอเรื่อง ขออนุมัติเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.
ด้านการสืบสวน
โดยที่ไม่ได้ระบุตัวบุคคลที่จะลงในตำแหน่ง แต่ก็เป็นที่รู้ เป้าหมายขอเปิดตำแหน่ง?!?
ก.ตร.ส่วนใหญ่ ยกเหตุผลขึ้นมาถกเถียงกันมากมาย รายละเอียดแต่ละคนแต่ละเหตุผลส่วนใหญ่คัดค้าน เป็นข่าวรับรู้กันไปทั่วแล้ว
ในที่สุด พล.ต.อ.ปทีป ก็ต้องขอถอนเรื่องออกไป!!!
จึงมีคำถามตามมามากมาย ทำไม พล.ต.อ.ปทีป จึงต้องเสนอเรื่องนี้เข้ามา มีนัยอะไร ในเมื่อขณะนี้ก็ยังไม่สามารถแต่งตั้ง ผบ.ตร.
ตัวจริงได้ เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน พล.ต.อ.ปทีปก็ต้องเกษียณ 30 ก.ย.แล้ว
ไม่มีใครตอบ มีแต่คิดและคาดเดา
การเมือง ที่มีอำนาจเหนือ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ คือ ใบสั่ง!!!
จึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไปให้ดี เรื่องนี้ยังไม่จบเลิกรา
งานเข้า ก.ตร.ไปแล้ว และคงจะต้องเข้ามาอีก!!!
สหบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น