15 ก.พ.2553 ไทยรัฐ
นอกจากจะฉาวโฉ่เรื่องแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในแบบที่ว่าซื้อตำแหน่งซื้อเก้าอี้แล้ว ยังมีปัญหาในเรื่อง ผบ.ตร.ที่มิอาจดำเนินการให้ลุล่วงไปได้ ยังคงให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นแค่รักษาการอย่างไม่มีกำหนด
ครับ...แบบนี้มันก็ป่วนกันไปหมด
ล่าสุด พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าการโยกย้ายแต่งตั้งที่
ผ่านมา มีการซื้อขายเก้าอี้ได้ผลสรุปออกมาแล้วว่าเป็นเรื่องจริงที่ บช.ภ. 2 และได้เสนอเรื่องให้นายกฯทราบแล้ว
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ปทีปได้สั่งย้าย ผบช.ภ. 2 ให้เข้าประจำ สตช. ซึ่งรับผิดชอบในการโยกย้ายครั้งนี้ต่อไปก็คงต้องรอผลสอบว่าจะมีความผิดหรือไม่
ขณะเดียวกัน ก็มีการร้องเรียนจากตำรวจอีกหลายภาคว่ามีพฤติกรรมไม่ต่างไปจาก บช.ภ. 2 คงจะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมอีก
เรียกว่าเหม็นเน่ากันไปหมด
นั่นแสดงว่าสภาพภายในแวดวงตำรวจเกิดปัญหา ไม่สามารถกุมสภาพได้ หากรัฐบาลยังปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้จะมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และมีผลต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การเมืองอย่างนี้ที่รัฐบาลจะต้องอาศัยตำรวจเป็นหลักในการรักษาความสงบเรียบร้อย
ยิ่งใกล้ถึงวันตัดสินคดี "ยึดทรัพย์" และมีความเคลื่อนไหวของผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังปั่นป่วน ประเทศจึงต้องอาศัยตำรวจในการควบคุมและดูแล แต่เมื่อตำรวจเป็นอย่างนี้จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาทันที
พล.ต.อ.ปทีปที่นายกฯพยายามจะตั้งให้เป็น ผบ.ตร.ตัวจริง แต่ปรากฏไม่สามารถดำเนินการได้เพราะ ก.ต.ช.ไม่เห็นด้วย จนกระทั่งเกิดปัญหาวุ่นวายไม่จบ รวมถึงไม่สามารถควบคุมดูแลการโยกย้ายให้เกิดความเป็นธรรมและถูกต้อง
แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่มีฝีมือ ไม่สามารถคุมตำรวจได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ นายกฯจึงพยายามหาทางออกด้วยการผลักดัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อให้มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.
วิธีการก็คือ เสนอเพิ่มตำแหน่งที่ปรึกษา สบ 10 เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. ให้ ก.ตร. พิจารณา แต่ปรากฏว่า ก.ตร.คัดค้านไม่เห็นชอบด้วยจนต้องถอนเรื่องออกไป
เพราะตำแหน่งที่ปรึกษา สบ 10 นั้น มีอยู่แล้วถึง 4 ตำแหน่งเพียงพอต่อภารกิจ และเห็นว่าการจะให้ พล.ต.ท.อัศวินมาดำรงตำแหน่งนี้ไม่เหมาะสมเนื่องจากอาวุโสน้อย
แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่า การเสนอให้เปิดตำแหน่งใหม่เพื่อใคร แต่ดูเหมือนว่า ก.ตร.จะรู้เท่าทันว่าเป็นการเปิดช่องให้ พล.ต.ท. อัศวิน เพื่อก้าวข้ามขั้นไปสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.
งานนี้นายกฯก็หน้าแตกอีกครั้ง
แม้ก่อนหน้านี้จะพยายามเสนอให้ พล.ต.อ.ปทีป เป็น ผบ.ตร.ตัวจริง แต่เมื่อเป็นรักษาการ ผบ.ตร. ก็ไม่สามารถทำงานได้บรรลุเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังเล่นพรรคเล่นพวกปล่อยให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ เช่น ผบช.ภ. 2 ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นและยังทำงามหน้าอีก
พูดง่ายๆ นอกจากไม่มีฝีมือแล้วยังตั้งตัวเป็นใหญ่เสียเอง ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจการเมือง แถมยังสร้างปัญหาขึ้นอีก เมื่อเป็นเช่นนี้ นายกฯจึงต้องหาทางออกด้วยการผลักดัน พล.ต.ท.อัศวิน เพื่อหวังจะให้เป็น ผบ.ตร. แทน แม้จะมีเสียงค้านจากนายสุเทพ เทือก-สุบรรณ รองนายกฯ ที่ดูแลรับผิดชอบ ก.ตร.
ยิ่งแก้จึงยิ่งหลงทางเข้ารกเข้าพงกันไปใหญ่.
"สายล่อฟ้า"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น