แฉเซ็งลี้เก้าอี้ผกก.เมืองท่องเที่ยวสูง14ล้าน

8/2/53
วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553

คมชัดลึก :"วสิษฐ"นัด กก.ประชุมด่วนสอบซื้อเก้าอี้ตำรวจ ลั่นให้ได้ข้อยุติใน 7 วัน "อธิการบดีมธ." เผย ข้อมูลเพียบ ด้านรองโฆษกปชป.แฉมีคนไม่เกี่ยวข้องร่วมประชุมทั้งที่ไม่มีอำนาจ แถมยังมีตั๋วปลอม เล็งสรุปเสนอนายกฯในทางลับ"เพื่อไทย" แฉภาค 8 เซ็งลี้เก้าอี้ ผกก.เมืองท่องเที่ยวสูงถึง 14 ล้าน แถมต้องจ่ายรายเดือน

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2553

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ (รอง อ.ตร.) ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร 2 (บช.ภ.2) ตามคำสั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในเรื่องการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนซื้อขายตำแหน่งตำรวจว่า จะเชิญคณะกรรมการอีก 4 คน ประกอบด้วย 

1. นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิบการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

2. รศ.สุจิตรา บุญรัตน์พันธ์ อาจารย์คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) 

3. นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ และ

4. นายถาวร พาณิชพันธุ์ รองอัยการสูงสุด 

มาประชุมเพื่อพิจารณาร่วมกันในต้นสัปดาห์นี้ โดยจะตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการทราบคำสั่งนั้น เบื้องต้นคงจะดำเนินการตามคำสั่งก่อน ทั้งนี้หากผลการพิจารณาออกมาเป็นอย่างไร จะสรุปเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

ขณะที่นายสุรพลกล่าวว่า ได้รับทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้คณะกรรมการอยู่ระหว่างนัดวันประชุม ซึ่งคาดว่าจะเป็นต้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เอกสารบางส่วนแล้ว มีจำนวนมากพอสมควร ซึ่งกำลังดูอยู่ ส่วนรายละเอียดในเอกสารจะเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับใครและเรื่องอะไรบ้างนั้นขอสงวนไว้ก่อน

ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หนึ่งในคณะกรรมการชุดพิเศษตรวจสอบการโยกย้ายตำรวจที่มีการซื้อขายตำแหน่ง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 ชุดของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรค ปชป. และประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวในเรื่องดังกล่าวว่า 

จากการตรวจสอบกับนายตำรวจสัญญาบัตรในพื้นที่ภาคตะวันออกกว่า 20 คน ยืนยันว่า ในการพิจารณาโผตำรวจครั้งนี้ มีบุคคลใกล้ชิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายตำรวจที่มีอำนาจแต่งตั้งตำรวจได้เข้าไปร่วมการพิจารณาด้วย ทั้งที่ไม่มีอำนาจ และยังมีการปลอมตั๋วตำรวจอีกด้วย ส่วนการสอบสวนในครั้งนี้ต้องการให้ประชาชนประจักษ์ในการทำงานของรัฐบาล หากมีหลักฐานจะดำเนินคดีทันที โดยจะมีการประชุมในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ก่อนที่จะมีผลการแต่งตั้งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะสรุปผลให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบเป็นทางลับ

นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรค ปชป. แถลงถึงกระแสข่าวการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจว่า ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ทำงานที่กำลังจะหมดกำลังใจจากกรณีนี้ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นมะเร็งร้ายขององค์กรตำรวจ และขอสนับสนุนแนวทางของนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ที่มี พล.ต.อ.วสิษฐ เป็นประธาน โดยอยากเรียกร้องให้เร่งตรวจสอบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้มาตรฐานการหาหลักฐานเช่นเดียวกับคดีอาญาทั่วไป เพียงแค่มีพยานแวดล้อมและข้อมูลก็สามารถสอบคดีได้ 

นอกจากนี้อยากให้ขอความร่วมมือกับธนาคาร และสถาบันการเมือง เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ผิดปกติและเบอร์โทรศัพท์ ว่ามีความผิดปกติว่ามาจากใคร อย่างไรก็ตามอยากให้ตำรวจกล้าพูดความจริง อย่ากลัวผู้มีอำนาจหรือผู้บังคับบัญชา เพราะคนพวกนี้เลวทราม จึงอยู่ในอำนาจได้ไม่นาน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า พล.ต.อ.วสิษฐ เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ คงจะมีความเข้าใจได้ และจะทำงานได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงว่า ปัญหาการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจครั้งล่าสุด ราคาเก้าอี้หลักล้านจนถึงหลักสิบล้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (บช.ภ.2) แล้ว และทางพรรคยังได้รับการร้องเรียนเพิ่มเติมในพื้นที่ บช.ภ.8 ว่าตำแหน่งผู้กำกับ (ผกก.) ราคา 3.5 ล้านบาท 

แต่หากเป็นพื้นที่ เช่น ภูเก็ต หรือพื้นที่ท่องเที่ยว ราคาจะสูงถึง 14 ล้านบาท แถมยังมีการต้องจ่ายเพิ่มอีกเป็นรายเดือนด้วย และการร้องเรียนยังระบุว่านักการเมืองใหญ่ฝ่ายรัฐบาลได้ประโยชน์ ทั้งนี้ พื้นที่ บช.ภ.8 เป็นแหล่งการพนัน บ่อน หวย แรงงานเถื่อน น้ำมันเถื่อน ซึ่งสามารถใช้เป็นช่องทางทุจริตได้มหาศาล จึงขอให้นายกฯ สั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม