ผกก.จอมโวยเฮ แก้โผ"ภ.1" ภูธร4-6ยันไม่รื้อ!

12/2/53

กมธ.แฉเสี่ยเบี๋ยง นักธุรกิจรถลาก ป่วนบัญชีภาค2 แจ้งจับ"มาร์ค" ดองตั้ง"ผบ.ตร."

รื้อแล้วโผบช.ภาค 1 หลังพ.ต.อ. และ พ.ต.ท.ออกมาโวยผ่านกมธ.ให้ผกก.ลาดหลุมแก้วที่ร้องเรียน จากเดิมเป็นผกก.อก. ไปเป็นผกก.บางบ่อ ส่วนที่เหลือเปลี่ยนอีกบางตำแหน่ง "สุเทพ"ปัดไม่เคยแทรกแซงโผตำรวจ ระบุถ้าพบต้องดำเนินการแน่นอน "ปทีป" ก็ยันไม่มีตั๋วการเมือง ชี้พบพิรุธแต่งตั้งไม่ชอบแค่ภาค 2 ส่วนภาค 1-4 และ 6 เป็นกก.ชุด"วสิษฐ" ขณะที่บช.ภาค 4 และ 6 ออกมาโต้ถูกร้องเรียนโยกย้าย ยืนยันทำถูกต้องตามกฎเกณฑ์และขั้นตอนทุกอย่าง ย้ำไม่มีเปลี่ยนโผ พร้อมให้ตรวจสอบได้ทุกเวลา กมธ.ตร.ชี้เสี่ยเหวียง-เบี๋ยง เป็นคนเดียวกัน เผยมีข้อมูลลับซื้อขายตำแหน่งในภาค 2 พ.ต.อ.ประธานชมรมตำรวจบำนาญ แจ้งกองปราบฯจับนายกฯ ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่แต่งตั้งผบ.ตร. ปล่อยให้ล่วงเลยมา 4 เดือนแล้ว

-"เทือก"ยันการเมืองไม่แทรกตร.

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวมีนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาล มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งตำรวจว่า ใครไปเกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีสั่งดำเนินการหมด ถ้าการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานไปถึงใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งก็ต้องดำเนินคดี เมื่อถามว่าเคยได้ยินชื่อนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาก่อนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่พูดอะไรที่เป็นข่าวลือ จนกว่าจะเห็นเรื่องจริง เพราะถ้าพูดไปจะกระทบกระเทือนคน เราต้องอดทนรอให้คณะกรรมการสอบสวนชุดที่มีพล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร สรุปผลออกมาก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายกฯ เพิ่มเติมคำสั่งการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งตำรวจในบช.ภ.1 และ 4 ด้วย จะต้องรื้อโผโยกย้ายตำรวจใหม่ทั้งหมดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องแก้ไข ส่วนการประชุมคณะกรรมการก.ตร. ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ จะมีการพิจารณาทบทวนคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจกันใหม่หรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รรท.ผบ.ตร.คงจะต้องรายงานในที่ประชุม แต่จะ รายงานอย่างไรต้องรอดู ยืนยันว่าการเมืองไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการจัดทำโผโยกย้ายตำรวจในครั้งนี้

-ชี้ตร.มีสิทธิร้องเรียนได้

เมื่อถามว่าการที่นายกฯ สั่งสอบสวนการซื้อขายตำแหน่ง และต้องมีการรื้อโผตำรวจกันใหม่ ทำให้เห็นว่าในยุครัฐบาลนี้ ที่นายสุเทพ กำกับดูแลสตช. มีปัญหามากกว่ายุคอื่นหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ปัญหามีทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่จะแก้ไขหรือไม่ บางสมัยเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่แก้ไข บางสมัยก็ต้องการจะแก้ไข

นายสุเทพยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ ตำรวจ เข้าร้องเรียนยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิ การการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรนั้นว่า ยุคสมัยนี้ข้าราชการทุกฝ่ายมีช่องทางที่จะดูแลรักษาสิทธิของตนเอง ถ้าใครเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกต้อง ก็ร้องเรียนได้หลายทาง เมื่อถามว่าการที่โผโยกย้ายตำรวจยังไม่ลงตัวในช่วงที่มีม็อบมาเคลื่อนไหวมากมาย จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ คนเป็นตำรวจ จะอยู่ตรงไหนต้องทำหน้าที่ตำรวจ จะเอาเรื่องโยกย้ายแต่งตั้งมาเป็นประเด็นและอ้างว่าไม่ได้รับความชอบธรรม ไม่ทำหน้าที่ ไม่ได้

-"ปทีป"เผยรื้อโผแค่บช.ภ.2

พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ยืนยันว่าทุกคำสั่งที่ออกไปแล้ว จะให้มีผลในวันที่ 16 ก.พ.แน่นอน รวมถึงการทำบัญชีแต่งตั้งใหม่ในบช.ภ.2 ก็ต้องเสร็จให้ทันพร้อมกัน จากการตรวจสอบโดยคณะกรรมการชุด พล.ต.ท. เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร. ก็พบว่ามีเพียงคำสั่งแต่งตั้งของบช.ภ.2 ที่เดียวเท่านั้นที่พบการแต่งตั้งไม่เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย จึงสั่งให้มีการยกเลิกแก้ไขคำสั่งแต่งตั้งในส่วนบช.ภ.2 ทั้งหมด ส่วนของบช.ภ.อื่นก็มีบ้างบางรายที่ต้องแก้ไขแต่ก็เล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องรื้อคำสั่งเหมือน บช.ภ.2 ซึ่งในส่วนบช.ภ.2 ก็ตั้งพล.ต.ท.ฉัตรชัย โปตระนันทน์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (รองจตช.) มาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วถึงประเด็นกระบวน การแต่งตั้งว่าทำถูกต้องตามวิธีการหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับชุดของพล.ต.อ.วสิษฐ ที่มุ่งตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่ง แต่ในที่สุดแล้วผลสอบของทั้ง 2 ชุดจะมาบรรจบกัน

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งตรวจสอบการโยกย้ายในพื้นที่บช.ภ.1, 4 และ 6 เพิ่มเติมจากบช.ภ.2 นั้น พล.ต.ท.ปทีป กล่าวว่า ตรงนี้ก็เป็นส่วนที่คณะกรรมการชุดพล.ต.อ.วสิษฐ ตรวจสอบ ไป ไม่กระทบคำสั่งที่ออกไปแล้ว หากผลสอบในส่วนนี้ออกมาก็ต้องดำเนินการทางวินัยต่อไป หรืออาจดำเนินการทางคดีอาญาด้วย อย่างไรก็ตามตนยังไม่ได้พบกับ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 เลย หลังจากมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สง.ผบ.ตร. ทราบว่าลาพักร้อน

-ยืนยันไม่มีตั๋วฝาก

เมื่อถามถึงกรณีที่จะขออนุมัติก.ตร.เพื่อขยายเวลาในการแต่งตั้งสว.-รองผบก.ออกไป รรท. ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นการขอขยายเวลาในส่วนที่ต้องข้อยกเว้นหลักเกณฑ์และโยกย้ายข้ามหน่วยในส่วนของผู้ที่ต้องขึ้นดำรงตำแหน่งสารวัตรในสังกัดบช.ภ.3 และบช.ภ.4 ซึ่งมีตำแหน่งสาร วัตรว่างมากกว่าตำแหน่งรองสารวัตรที่มีคุณ สมบัติขึ้นได้ในหน่วย จึงต้องให้ขึ้นข้ามหน่วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกแทรก แซงโดยการเมือง ตามที่นายกรัฐมนตรีระบุหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า รอฟังผลการสอบ สวนก่อน เมื่อถามว่ามีการแทรกแซงโดยตรงมาที่ตัวท่านเองหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ไม่เคยมี และไม่มีหรอก เพราะการแต่งตั้งเป็น อำนาจของผบช.

เมื่อถามถึงการขอก.ตร.เพื่อเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ขึ้นใหม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า จะมีการขอเปิดตำแหน่งใหม่จริง โดยตร. เสนอเหตุผลในการขออนุมัติขึ้นไป โดยไม่ขอเปิดเผยเหตุผลความจำเป็น รอให้ก.ตร.อนุมัติเสียก่อน เป็นอำนาจของก.ตร.ที่จะพิจารณา

-"อัศวิน"เดินหน้าจัดโผ"ภ.2"

รายงานข่าวแจ้งว่า บ่ายวันเดียวกันนี้ พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. เข้าพบหารือ พล.ต.อ.ปทีป คาดว่าจะเป็นการหารือเรื่องการยกเลิกและทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายในบช.ภ.2 ก่อนที่พล.ต.ท.อัศวิน จะนัดรองผบช.ภ.2 ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือก หรือบอร์ดกลั่นกรอง เพื่อประชุมแต่งตั้งใหม่ ในวันที่ 13 ก.พ. เพื่อให้มีคำสั่งแต่งตั้งออกทันให้คำสั่งวันที่ 16 ก.พ. ตามเดิม

-ภูธร4-6โต้โยกย้ายไม่โปร่งใส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าต้องสอบสวนการแต่งตั้งโยกย้ายในส่วนของบช.ภ.1, 4 และ 6 นั้น พล.ต.ต. ศักดา เตชะเกรียงไกร รองผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษกบช.ภ.4 กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายในส่วนของภาค 4 เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกครั้งมีการประชุมตามหลักเกณฑ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกอย่าง และรายชื่อการแต่งตั้งยังเป็นรายชื่อเดิมไม่มีการเปลี่ยน แปลง ส่วนที่มีการร้องเรียนนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของข้าราชการตำรวจที่มีความผิดทางวินัย คณะกรรมการกำลังสอบสวนอยู่ นอกเหนือจากนี้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ผบช.ภ.6 กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายของบช.ภ.6 มีคณะกรรมการกลั่นกรอง และยึดพ.ร.บ.ตำรวจ โดยมีการสรรหาจากสถานีตำรวจ ผู้ที่อาวุโสจะแต่งตั้งทุกคนไม่มีเว้น ผู้ที่มีผลงาน โรงพักทุกระดับได้ทุกคนครบถ้วน การพิจารณาแต่งตั้งต้องผ่าน ก.ตร. โดยมีพล.ต.ท.เอก เป็นผู้ดูแล เรียบร้อยถูกต้องทุกอย่าง จึงได้ออกคำสั่ง ส่วนที่มีการร้องเรียน สาเหตุมาจากรองผกก.นายหนึ่ง คิดว่าตนเองอาวุโส แต่จริงมีคนอาวุโสกว่า จึงไปขอความเป็นธรรม แต่ไม่ใช่เรื่องการทุจริต คณะกรรมการจัดลำดับตามความรู้ความสามารถ ที่ผ่านมาเคยมีการเยียวยาในครั้งหน้าให้ทุกครั้ง ตนยืนยันการแต่งตั้งถูกต้อง จะไม่มีการรื้อโผเด็ดขาด คณะกรรมการสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ ยินดีให้ตรวจสอบตลอดเวลา

-กมธ.ระบุรู้ตัว"เสี่ยเบี๋ยง"

ที่รัฐสภา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานตรวจสอบเรื่องการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมและการซื้อขายตำแหน่ง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของกรรมาธิการฯว่า ที่ประชุมได้เชิญนายตำรวจระดับผู้กำกับในบช.ภ.2 เข้าให้ข้อมูลในเชิงลับ โดยมีการยืนยันว่ามีนายหน้าที่ชื่อ "เหวียง" หรือ "เบี๋ยง" เป็นคนเดียวกัน กมธ.ได้ชื่อและนามสกุลพร้อมที่อยู่จริงมาแล้ว เป็นบุคคลที่มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และมีอำนาจอยู่ในบช.ภ.2 เลยมีอิทธิพล ซึ่งบุคคลนี้ทำธุรกิจด้านขนส่งรถลาก อยู่ในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ กทม. แต่เราต้องหาหลักฐานให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะถ้าสาวไม่ถึงต้นตอ หรือไม่มีใบเสร็จ ก็จะกลายเป็นมวยล้ม

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า การประชุมครั้งต่อไป จะเชิญนายตำรวจระดับ รองผบก. เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยการตรวจสอบในช่วงนี้จะตรวจสอบในคำสั่งโยกย้ายเดิมของบช.ภ.2 ที่เพิ่งมีการยกเลิกไป แต่กรรมาธิการฯยังคงเดินหน้าตรวจสอบต่อ โดยคณะทำงานชุดที่มีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นประธาน จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่มีการร้องเรียนมาในสัปดาห์หน้า คณะทำงานชุดนี้จะไปดูเรื่องการแต่งตั้งผู้กำกับเสื้อแดง จากเหตุการณ์กลุ่มเสื้อแดงบุกการประชุมอาเซียนที่พัทยา แต่กลับได้ดี ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้บังคับการสืบสวนภาค 2 ด้วย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่าปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ส่วนใหญ่มาจากข้อยกเว้นหลักเกณฑ์การพิจารณา ซึ่งถือว่าเป็นช่องว่างทำให้เกิดปัญหา

-ภ.1รื้อโผ-ผกก.จอมโวยเฮ

วันเดียวกันที่

สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี

พ.ต.อ.ฐานุพงษ์ พรมสวัสดิ์กุล ผกก.สภ.ลาด หลุมแก้ว และ


พ.ต.ท.เศรษฐกรณ์ ชัยวีระวงศ์ สวญ.สภ.สวนพริกไทย 

เปิดแถลงต่อสื่อมวลชน กรณีมีคำสั่งโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งพื้นที่อื่น

พ.ต.ท.เศรษฐกรณ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งโยกย้ายครั้งนี้ ทั้งๆ ที่สภ.สวนพริกไทยได้อันดับ 1 ของโรงพักเพื่อประชาชน ได้อันดับ 2 ของจ.ปทุมธานี ได้อันดับที่ 18 ของภาค 1 ด้วยเกณฑ์ประเมิน 83.39 ไม่ใช่รองบ๊วยอย่างที่ ผบช.ภ.1 กล่าว ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร.ให้ใช้ของตร.เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ต้องเป็นไปตามกฎอย่างเคร่งครัด การย้ายตนออกนอกหน่วยถือว่าเป็นธรรมหรือไม่ จะฟ้องศาลที่เป็นที่พึ่งต่อไป

พ.ต.อ.ฐานุพงษ์ กล่าวว่า ที่มีการระบุว่าตนถูกร้องเรียนนั้น เคยถูกร้องเรียนตั้งแต่ปี 2550 แต่จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีมูล ดังนั้นการโยกย้ายครั้งนี้ไม่ถูกต้อง การจัดโผครั้งนี้นายตำรวจที่จบรุ่น 30 ขึ้นไป ยังไม่ได้เป็นผู้กำกับเลย แต่คนจัดโผตำรวจรุ่นที่ 40 กว่า นำเพื่อนร่วมรุ่นขึ้นเป็นผู้กำกับหลายนาย ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติจะได้

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดบช.ภ.1 ได้มีการประชุมเพื่อรื้อโผ ปรับเปลี่ยนในบางตำแหน่งเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เช่น

พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ จากเดิมที่มีคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่งผกก.อก.ภ.1 เปลี่ยนเป็น ผกก.สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

พ.ต.ท.สามารถ แก้วมณี รองผกก.ปป.สภ.ปากคลองรังสิต โยกไปเป็น สวญ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี ส่วน

พ.ต.ท.สมศรี พัฒนาคม สวญ.สภ.ม่วงค่อม ขยับขึ้นเป็น ผกก.ในบช.ภาค 1 

พ.ต.ท.ภูมินทร์ สิงหสุด รองผกก.ปป.สภ.สำโรงเหนือ เป็น ผกก.สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ

-หนังสือโผล่โวยแต่งตั้งบช.ก.

นอกจากนี้ มีผู้ใช้ชื่อชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ส่งโทรสารร้องเรียนการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจกระทำผิดกฎหมาย ถึงนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ปทีป ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรวมทั้งสื่อมวลชน มาที่ห้องผู้สื่อข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้องเรียนว่ามีความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

หนังสือร้องเรียนระบุว่า มีตำรวจ 17 ราย ซึ่งเพิ่งมีคุณสมบัติครองตำแหน่งครบปีตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้าย พ.ศ. 2549 ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นทันที ขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 54, 57 และขัดต่อกฎก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ ข้อ 33 ที่ว่า การคัดเลือกผู้ที่จะได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ที่เพิ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนในปีแรก ผู้นั้นต้องมีความรู้ความสามารถและมีผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ และมีประสิทธิภาพดีกว่าข้าราชการตำรวจที่มีคุณ สมบัติครบถ้วนทั่วไปรายอื่นอย่างชัดเจน คณะกรรมการคัดเลือกต้องสามารถอธิบายต่อบุคคลทั่วไปได้ ฯลฯ

ทั้งนี้ ผู้ร้องเรียนระบุได้ว่าหากการร้องเรียนของตนไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องเป็นธรรมจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่มีอำนาจดำเนินการ ที่ละเว้นไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยผู้ร้องเรียนยังระบุด้วยว่าในการแต่งตั้งครั้งนี้มีการบีบบังคับจากฝ่ายการเมืองให้แต่งตั้งคนของตนเป็นจำนวนมาก โดยส่งรายชื่อมาให้บช.ก. ออกคำสั่งแต่งตั้งไปตามนั้น และส่วนหนึ่งก็ได้เสียเงินให้กับนักการเมืองหรือบุคคลใกล้ชิด

-แจ้งจับนายกฯยื้อตั้งผบ.ตร.

ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ ประ ธานชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญ 41 และอนุกรรมาธิการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา เข้าพบพ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผบก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรี ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีที่ไม่ยอมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบในการแต่งตั้งผบ.ตร. โดยมีเจตนาละเลยไม่กระทำให้เสร็จ ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน

พ.ต.อ.บรรจบ กล่าวว่า ตำแหน่งผบ.ตร.ว่างลงตั้งแต่ 1 ต.ค.52 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังแต่งตั้งไม่ได้ ทั้งที่กฎระเบียบของก.ตร.ระบุว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไป ต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.ของทุกปี ซึ่งตนและคณะได้มีหนังสือทักท้วง และเรียกร้องให้ดำเนินการมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมในครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีผู้บังคับบัญชาสูงสุดมาควบคุมดูแล ซึ่งพ.ต.อ.นัยวัฒน์ สั่งการให้พ.ต.ต.มาโนชญ์ สวนดอกไม้ พงส.(สบ1)กก.1ป. รับเรื่องและสอบปากคำไว้ และจะเสนอเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

หน้า 1

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม