ยุคนักสืบเมืองหลวงฟูเฟื่องรุ่งเรือง
พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนท์ รับบทผู้นำทัพนครบาล ถือเป็น “ปรมาจารย์” สืบสวนที่มองการณ์ไกลในช่วงใกล้ย่อยสลายกองสืบเหนือ-ใต้-ธนบุรี แห่งตำนานสารพัดผลงานโบแดงของกรมตำรวจเป็น บก.น.1-9 ด้วยการเปิดโครงการ “โรงเรียนนักสืบ” หาทายาทต่อยอด
คัดเอารองสารวัตรสอบสวนระดับ หัวกะทิ ที่มีแววมาถ่ายทอดวิชาสืบสวนเพียงแค่ 30 คน
ปัจจุบันหลายคนประสบความสำเร็จเป็น “ตัวหลัก” ของแต่ละหน่วย ช่วยขับเคลื่อนผลักเนื้องาน แม้บางคนเลือกเดินอีกเส้นทาง เมื่อไม่อาจฝ่าด่านความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ เพราะ “ผู้เป็นนาย” ไม่ให้ความสำคัญ
ถึงขนาด ปรมาจารย์ต้นตำรา ยังอดบ่นไม่ได้
“แต่งตั้งผู้กำกับกองสืบ รู้จักถนนหรือเปล่าไม่รู้ มาจากบ้านนอกไปไหนยังหลงแล้วมาเป็นหัวหน้ากองสืบสวนได้อย่างไร ตั้งคนไม่เหมาะสมกับงาน ไม่พัฒนาคน ให้ไปหาความรู้เอาเอง เหมือนปล่อยลิงเข้าป่า แจกกล้วยให้หวี สอนให้ร้องเจี๊ยก อย่างอื่นไปหากินเอาเองแล้วมันจะไปดีได้อย่างไร ไม่มีทางหรอก”
“เพราะหัวหน้าหน่วยมันไม่ได้เรื่อง” พล.ต.ท.โสภณกัดทิ้งท้ายได้เจ็บแสบเมื่อไม่กี่ปีก่อน
สะท้อนเหตุผลความเป็นจริงที่มีส่วนทำให้นักสืบเมืองกรุงสู่ภาวะวิกฤติใกล้สูญพันธุ์
ผ่านมาถึงยุค พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล คุมบังเหียนนั่งบนอานอำนาจ ผบช.น. ปรับทัพนักสืบแบบ “เกือกยกยวง” ตามขั้วที่เปลี่ยนไป
พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม เป็น ผกก.สส.บก.น.1
พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สภ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา เป็น ผกก.สส.บก.น.2 ขณะที่
พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3 ยังได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งเดิม เช่นเดียวกับ
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6 มี
พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ข้ามเป็น ผกก.สส.บก.น.4
พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ฝ่ายการจัดสวัสดิการ สก.สกพ. เป็น ผกก.สส.บก.น.5
พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ฝ่ายการจัดสวัสดิการ สก.สกพ. เป็น ผกก.สส.บก.น.5
พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผกก.กลุ่มงานจราจร สยศ. เป็น ผกก.สส.บก.น.7
พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.3 ปส.4 บช.ปส. เป็น ผกก.สส.บก.น.8
พ.ต.อ.พรเทพ กลิ่นอุดม ผกก.สส.ภ.จ.มหาสารคาม เป็น ผกก.สส.บก.น.9
ชื่อชั้นหลายคนไม่ขี้เหร่ แต่จะเดินเป๋ เดินหลง (อำนาจ) หรือไม่ ต้องรอชม!?!
ชื่อชั้นหลายคนไม่ขี้เหร่ แต่จะเดินเป๋ เดินหลง (อำนาจ) หรือไม่ ต้องรอชม!?!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น