โดย สน.พระอาทิตย์ นสพ.ผู้จัดการ เมื่อ 14 ธ.ค.2557
น่าจะมีความชัดเจนเกือบ 80-90% แล้ว สำหรับชื่อผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้ “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” หรือ “ผบช.ก.” ซึ่งว่างลง หลังจาก “บิ๊กกิ๊ก” พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ตกเป็นผู้ต้องหาคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ เรียกรับผลประโยชน์ส่วยน้ำมันเถื่อน และซื้อขายตำแหน่งแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ จน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการ
แม้ “พล.ต.อ.สมยศ” ยังไม่ได้กำหนดฤกษ์งามยามดีในการแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” นอกฤดู และอยู่ระหว่างห้วงเวลาการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง สารวัตร (สว.)-รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ทั่วประเทศประจำปี 2557 ซึ่งถูกขีดเส้นใต้ตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอให้เสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557
แต่ชื่อผู้ที่จะนั่งเก้าอี้ “ผบช.ก.” คนใหม่ก็ถูกตีตราจองเรียบร้อยแล้ว
“บิ๊กหมู” พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) คือชื่อตำรวจที่จะก้าวขึ้นมากุมบังเหียน “ตำรวจสอบสวนกลาง” คนใหม่!
“สอบสวนกลาง” ในยุคที่มีคาดว่าจะมีการล้างบางตำรวจเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กว่า 200 ราย พ้นจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบังคับการตํารวจทางหลวง (บก.ทล.) กองบังคับการตํารวจรถไฟ (บก.รฟ.) กองบังคับการตํารวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) กองบังคับการตํารวจน้ำ (บก.รน.) กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ทส.)
กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และกองบังคับการอำนวยการ (บก.อก.)
ชื่อ “พล.ต.ต.ฐิติราช” ไม่ใช่ “ม้ามืด” หรือชื่อโนเนมที่อยู่นอกโผตัวเต็งที่มีโอกาสก้าวเข้ามากุมบังเหียน “ผบช.ก.” แต่เป็นคนหนึ่งที่ซุ่มเงียบรอเข้ามาสวมเก้าอี้เจ้าพ่อ บช.ก.อย่างมั่นใจในแรงหนุนตลอดมา
แม้ช่วงที่ผ่านมากระแสเต็ง 1 จะถูกจับตาไปที่ “บิ๊กปู” พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เนื่องจากได้แรงสนับสนุนจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. รวมทั้ง พล.ต.อ.สมยศ เพราะเคยคลุกคลีอยู่ใน “สอบสวนกลาง” มานาน ทำให้เข้าใจการทำงานของ บช.ก. ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะหน้าที่
แต่พอ พล.ต.อ.สมยศ มีคำสั่งให้ตำรวจ 4 นาย ไปรักษาการตำแหน่ง แทนตำรวจที่อยู่ในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มีชื่อ “บิ๊กก้อง” พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.5 บก.ทท. น้องภรรยา “บิ๊กหมู” พล.ต.ต.ฐิติราช ไปนั่งเก้าอี้รักษาการ ผกก.1 ป. หรือผู้กำกับกรุงเทพฯ ถือว่าเป็นตำแหน่งไม่ธรรมดา หากไม่แข็งจริงคงไม่ได้มานั่งเก้าอี้รักษาการ เพราะขนาด พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.8 รน. หลานชายพล.ต.อ.สมยศ ยังขยับมานั่งได้แค่รักษาการ ผกก.5 บก.ทท.แทน ทั้งๆ ที่ พ.ต.อ.ภูมินทร์ก็เคยอยู่กองปราบปรามมาก่อน กระแส “บิ๊กหมู” เลยแรงขึ้นเบียด “บิ๊กปู” อย่างสูสี
กระทั่งแม่ทัพใหญ่สีกากีซึ่งควงทีมงานอย่าง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาการ ผบช.ก.เดินทางไปราชการที่ประเทศอังกฤษ และเดินทางกลับจากอังกฤษมาถึงประเทศไทยเร็วกว่ากำหนดเดิม 2 วัน ท่ามกลางกระแสข่าวที่เด่นชัดขึ้นมาตามลำดับว่ามี พล.ต.อ.สมยศ ได้รับสัญญาณการสนับสนุน “พล.ต.ต.ฐิติราช” ระดับซูเปอร์เพาเวอร์ ให้แปะชื่อขยับขึ้นเป็น “ผบช.ก.” คนใหม่
ทุกอย่างเลยลงล็อก รวมทั้งทำให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ยังคงปักหลักในตำแหน่ง ผบช.น.ต่อไป
อย่างไรก็ดี ความชัดเจนเหลืออีกไม่มากในการก้าวขึ้นเป็น “ผบช.ก.” ของ พล.ต.ต.ฐิติราช แค่เพียงรอให้ พล.ต.อ.สมยศ ประสานงานไปยังคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง “บิ๊กหมู” ตามระเบียบขั้นตอน โดยคาดว่าน่าจะต้องรอหลังจากบัญชีแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ที่จะเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2557 ไปก่อน ซึ่งคงทำในคราวเดียวกับการแต่งตั้ง “นายพลนอกฤดู” ร่วมกับการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งว่างจากผู้ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการเออร์ลีรีไทร์
แม้ขั้นตอนการเข้ากุมบังเหียนสอบสวนกลางของ พล.ต.ต.ฐิติราช อาจจะต้องรอขั้นตอนและรอเวลาอีกพักใหญ่ แต่ก็ว่ากันว่าการเข้าปฏิบัติหน้าที่ “บิ๊กหมู” น่าจะไม่ต้องรอนาน เพราะแว่วๆ ว่าภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า พล.ต.อ.สมยศน่าจะสะบัดปากกาเซ็นคำสั่งมอบหมายให้ พล.ต.ต.ฐิติราช ทำหน้าที่รักษาการ ผบช.ก.แทน พล.ต.ท.ประวุฒิ ที่ “รักษาการ ผบช.ก.” อยู่ในขณะนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะแตะไม้ส่งมือระหว่าง พล.ต.ท.ประวุฒิกับ พล.ต.ต.ฐิริราช จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “สว.-รอง ผบก.” ในส่วนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเสร็จสิ้น ตามสัญญาใจที่ตกลงให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ดำเนินการจัดโผแต่งตั้ง ส่วน พล.ต.ต.ฐิติราชจะเป็นผู้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งระดับนายพันซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 มกราคม 2558 เท่านั้น ทุกอย่างก็เป็นอันเสร็จสิ้น สมประโยชน์กันทุกฝ่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น