เมื่อ 15 ธ.ค.2557
"อดีตบิ๊กสีกากี"เผยแต่งตั้ง ตำรวจระดับ รอง ผบก.ถึง สว. เลวร้ายมีแทรกแซงหนักกว่าทุกยุค โยกเครือข่ายอดีตบิ๊ก ผช.ก.และในสังกัด บช.น. ออกนอกหน่วยกว่า 200 นาย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)วันที่ 15 ธ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากได้มีการจับกุม พล.ต.ท.พงพัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีต ผบช.ก.พร้อมข้าราชการตำรวจเครือข่ายอีกอีกจำนวนหนึ่งนั้น ทำให้มีตำแหน่งว่างในสังกัด บชก. ว่างเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายตำแหน่ง
ดังนั้นทำให้ข้าราชการตำรวจใน บชก.ที่จะได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสูงขึ้นไม่ครบหลักเกณฑ์เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งมีรายงานว่าในการแต่งตั้งระดับ รอง ผบก.ถึง สว.ในสังกัด บชก.และ บช.น.ในครั้งนี้นั้นทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธาน ก.ตร. ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ มีนโยบายการปรับโยกตำรวจที่เชื่อว่าเป็นเครื่อข่าย พล.ต.ท.พงพัฒน์ ออกนอกหน่วยพร้อมทั้งยังกำชับไม่ให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่สังกัดใน บช.น. บช.ส. บช.ภ.1,2,7และจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่เป็นเวลา 2 ปี
โดยรายชื่อที่เชื่อว่าเป็นเครือข่ายของพล.ต.ท.พงพัฒน์ ได้ส่งให้กับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.แล้ว ทางพล.ต.อ.สมยศก็ได้ส่งรายชื่อดังกล่าวไปยัง สกพ.และให้ทาง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. รรท.ผบช.ก.รับไปจัดทำบัญชีตาม นโยบายของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งมีรายงานว่ามีรายชื่อนายตำรวจที่มีชื่อออกจากหน่วย บช.ก.และบช.น.มีจำนวนถึง 262 นาย แยกระดับ รอง ผบก.จำนวน 24 นายระดับ ผกก.จำนวน 52 นาย ระดับ รอง ผกก.จำนวน 85 นาย และระดับ สว.จำนวน 102 นาย รวมแล้ว 262 นาย ซึ่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมานี้ รรท.ผบช.ก.ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความเลขที่ 0026.112/9169 ถึง ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร.หรือตำแหน่งเทียบเท่า เพื่อสอบถามว่ามีข้าราชการตำรวจในระดับ รอง ผบก. ถึง สว.รายที่ใดประสงค์จะไปดำรงตำแหน่งในสังกัด บช.ก.หรือไม่ หากมีให้ข้าราชการตำรวจดังกล่าวทำหนังสือสมัครใจตามแบบฟอร์มพร้อมแนบประวัติการรับราชการ(กพ.7)ส่งไปยัง บชก.ภายในวันที่ 15 ธ.ค.(วันนี้)
ทั้งนี้ยังรายงานข่าวอีกว่าในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.ถึงระดับ สว.วาระประจำปี พ.ศ. 2557 นั้นทุก บช.จะต้องจัดทำบัญชีคัดเลือกให้แล้วเสร็จภายในวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. ส่วนผู้ที่ดำรงตำแหน่งไม่ถึง 2 ปีนั้นจะมีการส่งชื่อขอยกเว้นในวันที่ 17 ธ.ค.แล้วส่งรายชื่อ ผู้ที่ได้รับการพิจารณาให้ดำรงในตำแหน่งที่สูงขึ้น ระดับ รอง ผบก.กับ ผกก.เข้าวาระ ก.ตร. เพื่อ ขอมติเห็นชอบในการประชุม ก.ตร.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานฯในวันที่ 24 ธันวาคม สำหรับหน่วยขึ้นตรง และทุก บช. ผบ.ตร.และ ผบช.จะลงนามคำสั่งแต่งตั้งในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ และมีผลในวันที่ 5. มกราคม 2558 ปีหน้า
มีรายงานว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.ถึงระดับ สว. วาระประจำปี พ.ศ.2557 นั้นได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในหมู่ข้าราชการตำรวจทุกระดับโดยเฉพาะ"แหล่งข่าวระดับสูง"อดีตข้าราชการตำรวจระดับพลตำรวจเอกที่เคยดำรงตำแหน่งเป็น ก.ตร. กล่าวว่า ในขณะนี้มีการกันแชร์ข้อมูลกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์ควิพากษ์วิจารย์กันอย่างหนักถึง การแต่งตั้งในยุคนี้ที่ว่าจากที่เคยคาดหวังใว้ว่า องค์ตำรวจปลอดจากการเมืองแล้วจะมีเอกภาพในการแต่งตั้งมากขึ้นนั้น
ทั้งนี้ยังรายงานข่าวอีกว่าในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.ถึงระดับ สว.วาระประจำปี พ.ศ. 2557 นั้นทุก บช.จะต้องจัดทำบัญชีคัดเลือกให้แล้วเสร็จภายในวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. ส่วนผู้ที่ดำรงตำแหน่งไม่ถึง 2 ปีนั้นจะมีการส่งชื่อขอยกเว้นในวันที่ 17 ธ.ค.แล้วส่งรายชื่อ ผู้ที่ได้รับการพิจารณาให้ดำรงในตำแหน่งที่สูงขึ้น ระดับ รอง ผบก.กับ ผกก.เข้าวาระ ก.ตร. เพื่อ ขอมติเห็นชอบในการประชุม ก.ตร.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานฯในวันที่ 24 ธันวาคม สำหรับหน่วยขึ้นตรง และทุก บช. ผบ.ตร.และ ผบช.จะลงนามคำสั่งแต่งตั้งในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ และมีผลในวันที่ 5. มกราคม 2558 ปีหน้า
มีรายงานว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.ถึงระดับ สว. วาระประจำปี พ.ศ.2557 นั้นได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในหมู่ข้าราชการตำรวจทุกระดับโดยเฉพาะ"แหล่งข่าวระดับสูง"อดีตข้าราชการตำรวจระดับพลตำรวจเอกที่เคยดำรงตำแหน่งเป็น ก.ตร. กล่าวว่า ในขณะนี้มีการกันแชร์ข้อมูลกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์ควิพากษ์วิจารย์กันอย่างหนักถึง การแต่งตั้งในยุคนี้ที่ว่าจากที่เคยคาดหวังใว้ว่า องค์ตำรวจปลอดจากการเมืองแล้วจะมีเอกภาพในการแต่งตั้งมากขึ้นนั้น
แต่กลับมีข่าวจากบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาในอดีตนั้นได้ส่งข้อมูลให้กับตนว่า การแต่งตั้งครั้งนี้หนักกว่าทุกยุคที่ผ่านมา และ หนักกว่าในยุคที่เคยมีการเมืองมาแทรกแซงเสียอีก ซึ่งในเบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลก็พบว่าตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้ต้องมีสายสัมพันธ์แล้วได้รับการสนับสนุนกับนายทหารระดับใหญ่ในเหล่าทัพ หรือไม่ก็ต้อง ที่มีคอนเน็คชั่นกับสมาชิก คสช.
แถมทั้งยังได้ข้อมูลมาว่า มีการปักธงในการแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้นทุกระดับในครั้งนี้ ถึง 60 ตำแหน่งที่.โดยที่ ผบช.และผบ.ตร.ไม่มีสิทธิ์พิจารณาเองและเปลียนแปลงได้ แม้แต่ ผบ.ตร. และ ผบช.จะสามารถพิจารณาแต่งตั้งได้เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น
ตนก็มองว่าถ้าข้อมูลดังกล่าวจริง ก็ถือได้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติยุคนี้หมดศักดิ์ศรี ล้มเหลวและเลวร้ายมาก ในยุคก่อนๆที่ยังมีแบ่งโควต้ากันเป็นสัดส่วนกันทุกฝ่ายเพื่อให้การบริหารองค์กรให้เดินหน้าไปได้ แต่ถ้าหากผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งลูกน้องตัวที่ใช้ให้เขาทำงาน ไม่ได้ มันก็จบแล้ว จะมาคิดที่จะมาปฎิรูปองค์กรตำรวจ เพียงแค่เริ่มแต่งตั้งก็เห็นได้แล้วว่ามีการแทรกแซง เรื่องคิดที่จะไปปฎิรูปตำรวจเลิกคิดไปได้เลย ทุกรัฐบาลที่เข้ามาคิดแค่จะปฏิรูปตำรวจ
แต่เรื่องการสร้างระบบคุณธรรมในการแต่งตั้ง และงบประมาณของข้าราชการตำรวจที่เมื่อเทียบหน้างานกับหน่วยงานอื่นแล้วมันน้อยเทียบกันไม่ได้เลย แต่ตนเองเกษียณราชการแล้วได้เพียงแค่เฝ้ามองน้องๆรุ่นหลังอย่างหดหู่ และขอฝากสื่อไปยังท่าน พล.เอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีช่วยตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวดูว่าจริงหรือไม่.? หากจริงก็จะได้หาทางแก้ไขเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเสมอต้นเสมอปลายจะได้มีโอกาสเติบโตในตำแหน่งหน้าที่ต่อไปแหล่งข่าวระดับสูงอดีต ก.ตร. หลายสมัยกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น