ภายหลัง "บิ๊กอ๊อบ" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้รับแต่งตั้งเป็น "ผบ.ตร." ชนิดลอยลำ ก็เดินหน้าทำหน้าที่ ผบ.ตร. เสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รอง ผบ.ตร. ถึงระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ทันที เป็นไปตามปฏิทินสีกากี
การประชุมคณะกรรมการคัดเลือก หรือบอร์ดกลั่นกรอง มี
เลขาธิการ ก.พ. นายนนทิกร กาญจนะจิตรา นั่งหัวโต๊ะ
ร่วมด้วย
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต
พล.ต.อ.ภาณพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. และ
พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.)
ร่วมถก พิจารณาบัญชีแต่งตั้งที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เป็นผู้เสนอบัญชี ลงตัวไปแล้วเมื่อเย็นวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 10 นาที
พร้อมนำบัญชีแต่งตั้ง ซึ่งผ่าน "ยกแรก" แล้ว แนบเป็นเอกสารการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ส่งให้ ก.ตร. เพื่อใช้เวลา 3 วัน พิจารณาก่อนประชุมแต่งตั้งในวันที่ 25 ตุลาคม
ผลการพิจารณา เริ่มที่ระดับรอง ผบ.ตร. ที่พิจารณากันไปตาม กฎ ระเบียบ ไม่ต้องลุ้น โดยสไลด์
พร้อมนำบัญชีแต่งตั้ง ซึ่งผ่าน "ยกแรก" แล้ว แนบเป็นเอกสารการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ส่งให้ ก.ตร. เพื่อใช้เวลา 3 วัน พิจารณาก่อนประชุมแต่งตั้งในวันที่ 25 ตุลาคม
ผลการพิจารณา เริ่มที่ระดับรอง ผบ.ตร. ที่พิจารณากันไปตาม กฎ ระเบียบ ไม่ต้องลุ้น โดยสไลด์
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ที่ปรึกษา (สบ10) เข้าไลน์หลัก เป็นรอง ผบ.ตร.
ทำให้เก้าอี้ที่ปรึกษา (สบ10) ว่าง 5 เก้าอี้ หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (หน.นรป.) ว่าง 1 เก้าอี้ บอร์ดเล็กขยับ
ทำให้เก้าอี้ที่ปรึกษา (สบ10) ว่าง 5 เก้าอี้ หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (หน.นรป.) ว่าง 1 เก้าอี้ บอร์ดเล็กขยับ
พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
พล.ต.ท. จิโรจน์ ไชยชิต
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา
พล.ต.ท. อมรินทร์ อัครวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.
พล.ต.ท.ฉัตรชัย โปรตระนันท์ รอง จตช.(สบ9) ให้ติดยศ พล.ต.อ. ขึ้นเป็นที่ปรึกษา(สบ10) ส่วน
พล.ต.ท.ชลธาร จิราณรงค์ รอง หน.นรป.(สบ9) ขึ้นเป็น หน.นรป.(สบ10)
แต่มีหมายเหตุ
แต่มีหมายเหตุ
กรณี พล.ต.ท.สมยศ แม้คุณสมบัติครบ มีอาวุโสอันดับ 1 แต่ตำแหน่งนี้กลับเกิดการ ถกเถียงในห้องประชุมอย่างกว้างขวาง จากกรณีตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีพิเศษ สุดท้ายบอร์ดกลั่นกรอง ยกป้ายให้ขึ้น แต่ข้อร้องเรียนในคดีดังกล่าวเสนอให้ ก.ตร. ทบทวนอีกครั้ง
ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่า ขยับ
ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่า ขยับ
พล.ต.ท. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง จตช.(สบ9) เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.
ทำให้มีเก้าอี้รอง จตช.(สบ9) ว่าง 2 เก้าอี้ ผู้ช่วยผบ.ตร.ว่าง 6 เก้าอี้ และเก้าอี้รอง หน.นรป. (สบ9) ว่าง 1 เก้าอี้ มติบอร์ดเล็กพิจารณาตามหลักความอาวุโส ให้
ทำให้มีเก้าอี้รอง จตช.(สบ9) ว่าง 2 เก้าอี้ ผู้ช่วยผบ.ตร.ว่าง 6 เก้าอี้ และเก้าอี้รอง หน.นรป. (สบ9) ว่าง 1 เก้าอี้ มติบอร์ดเล็กพิจารณาตามหลักความอาวุโส ให้
พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร.
พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผบช.ภ.6 ขึ้นเป็นรอง จตช.(สบ9) และขยับ
พล.ต.ท. บริหาร เสี่ยงอารมณ์ จตร.(สบ8)
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร.
พล.ต.ท.อุดม รักศิลธรรม ผบช.สตส.
พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2
พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต ผบช.ตชด.
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และ
พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อมาตยกุล ผบช.สง.นรป.(สบ8) ขึ้นเป็นรอง นรป.(สบ9)
เป็นไปตามความอาวุโส
กรณีตำแหน่งในสาย นรป.นั้น ครั้งนี้พิจารณาให้เติบโตตามสายงานทั้งหมด ทุกระดับ
สำหรับ
กรณีตำแหน่งในสาย นรป.นั้น ครั้งนี้พิจารณาให้เติบโตตามสายงานทั้งหมด ทุกระดับ
สำหรับ
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม จตร.(สบ8) หัวหน้า จตร. แม้อาวุโสอันดับ 1
แต่ด้วยเหตุผล ด้านความมั่นคง ที่มีการตอกย้ำด้วยการเดินทางมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ก่อนการประชุมกลั่นกรองไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ชื่อของ พล.ต.ท.สมคิด ถูกตรึงหมุด ไม่ได้นำเข้ามาพิจารณา
ไฮไลต์อยู่ที่ตำแหน่ง ผบช. มีเก้าอี้ว่างให้รอง ผบช. ได้ลุ้นขึ้นติดยศ พล.ต.ท.ทั้งสิ้น 13 เก้าอี้
เช็กชื่อ ว่าที่ ผบช. ที่ผ่านด่านบอร์ดกลั่นกรอง ทั้งสิ้น 13 นาย กลุ่มแรกอาวุโส 33%
พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช รอง ผบช.ศชต. ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)
พล.ต.ต.เรืองชัย วัจนะพุก รอง ผบช.ศ. ขึ้นเป็น ผบช.กมค.
พล.ต.ต.สุทิน เขียวรัตน์ รอง ผบช.ตชด. ขึ้นเป็น ผบช.ตชด.
พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ รอง ผบช.ภ.1 ซึ่งมาแรงได้เก้าอี้ ผบช.ภ.6
พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รอง ผบช.สตม. เป็น จตร.(สบ8) และพ่วงอาวุโสอันดับ 6
พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบช.ศชต. เป็น ผบช.สงป.
อีกกลุ่มที่ได้ขึ้นแบบอาวุโสไม่เกี่ยว มาด้วย "คุณ สมบัติพิเศษ และคอนเนกชั่นระดับไม่ธรรมดา" อีก 6 นาย ไม่นับรวม
อีกกลุ่มที่ได้ขึ้นแบบอาวุโสไม่เกี่ยว มาด้วย "คุณ สมบัติพิเศษ และคอนเนกชั่นระดับไม่ธรรมดา" อีก 6 นาย ไม่นับรวม
พล.ต.ต.เจษฎา อินทรสถิตย์ รอง ผบช.สง.นรป. ที่ขึ้นเป็น ผบช.สง.นรป.
มีดังนี้
คนแรกขึ้นมาแบบไม่พลิกโผ
คนแรกขึ้นมาแบบไม่พลิกโผ
"พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รอง ผบช.ก."
อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม หลานเขยคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกสตัฟฟ์ในช่วงผลัดขั้วอำนาจ คราวนี้ขึ้นเป็น ผบช.น.ผลัก
พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.คนเดิมลงใต้เป็น ผบช.ภ.9
"พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก." เป็น ผบช.ภ.2
"พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก." เป็น ผบช.ภ.2
คุมพื้นที่ บช.เกรดเอ
"พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น." คอนเนกชั่น น้องสาวว่าที่ ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภ.3
"พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น." คอนเนกชั่น น้องสาวว่าที่ ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภ.3
ทำให้
พล.ต.ท.เดชาวัตร รามสมภพ เจ้าของเก้าอี้คนเดิม ถูกพิจารณาดองที่ตำแหน่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.
"พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา รอง ผบช.ก."
"พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา รอง ผบช.ก."
สายตรง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เป็น ผบช.ภ.5 คุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เขตอิทธิพลคนเสื้อแดง
ผลัก
พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล ผบช.ภ.5 ที่แรงดีในรัฐบาลก่อน นั่งตบยุงเป็น จตร.(สบ8)
"พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส."
"พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส."
ลูกน้องคนสนิท พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็น ผบช.ภ.7 ทำให้
พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน เจ้าของเก้าอี้ที่เคยมีแรงหนุนดีจากรัฐบาลในอดีต เข้ากรุเป็น จตร.(สบ8)
ขณะที่
ขณะที่
"พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบ.ช.ภ.1 รรท.ผบช.ภ.1"
คนสนิท ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ. ตร.ทำหน้าที่ประสานนายกรัฐมนตรี
และยังคงให้รักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 และแอบมีหมายเหตุด้วยว่าหากเคลียร์กรณี
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. ที่ ก.ตร.เคยให้เป็น ผบช.ภ.1
ในครั้งก่อน ลงตัวก็จะหยิบชื่อของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ โยกเป็น ผบช.ภ.1
ทั้งนี้หาก ก.ตร.ในครั้งหน้ามีมติตามบทสรุปของ จเรตำรวจว่า พล.ต.ต.ศรีวราห์ขาดคุณสมบัติเลื่อนตำแหน่งในการแต่งตั้งเมื่อวาระ 2553 ครั้งนี้ พล.ต.ต. ศรีวราห์ก็จำใจต้องแป้ก ในตำแหน่งรอง ผบช.เช่นเดิม นั่นเพราะเก้าอี้ ผบช. น้องใหม่ ตัวที่ 14 มีชื่อของ
ทั้งนี้หาก ก.ตร.ในครั้งหน้ามีมติตามบทสรุปของ จเรตำรวจว่า พล.ต.ต.ศรีวราห์ขาดคุณสมบัติเลื่อนตำแหน่งในการแต่งตั้งเมื่อวาระ 2553 ครั้งนี้ พล.ต.ต. ศรีวราห์ก็จำใจต้องแป้ก ในตำแหน่งรอง ผบช.เช่นเดิม นั่นเพราะเก้าอี้ ผบช. น้องใหม่ ตัวที่ 14 มีชื่อของ
พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา รอง ผบช.ภ.4 อดีตนายเวร พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เจ้ากระทรวงตาชั่งตีตราจอง โดยมี
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร รอง ผบช.ภ.4 อีกคน อดีตหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวสอดแทรก
ขณะที่บอร์ดกลั่นกรองยังมีการสลับเปลี่ยน ผบช.หลายตำแหน่งด้วย เช่น
พล.ต.ท.ธนากร ศิริอัฐ ผบช.สงป. นรต.26 คนสุดท้ายของรุ่นที่ยังรับราชการ เพื่อน พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตรอง ผบช.สตม. ถูกวางตัวโยกมาคุมด้านการข่าวเป็น ผบช.ส. ทำให้ ผบช.ส.คนเดิม
พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย สายสัมพันธ์บ้านสี่เสาเทเวศร์ กระเด็นไกลไปเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ทำหน้าที่ประสาน สมช.
ส่วน
ส่วน
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา จตร.(สบ8) คนสนิท พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็น ผบช.ปส.
พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ จตร.(สบ8) น้องชาย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ โยกเป็น ผบช.สพฐ.ตร.
เหล่านี้เป็นรายชื่อโผสับเปลี่ยนบิ๊กสีกากีส่วนหนึ่งที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรอง เสมือนรอบคัดเลือกมาแล้ว หากการประชุม ก.ตร.ยังคงกำหนดตามเดิมในวันที่ 25 ตุลาคม คงต้องติดตามการพิจารณาใน ก.ตร.รอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง คาดว่าเวลา 3 วันที่ ก.ตร.ได้พินิจบัญชีคัดเลือก คงมีหลายตำแหน่งที่ไม่จบง่ายๆ
เหล่านี้เป็นรายชื่อโผสับเปลี่ยนบิ๊กสีกากีส่วนหนึ่งที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรอง เสมือนรอบคัดเลือกมาแล้ว หากการประชุม ก.ตร.ยังคงกำหนดตามเดิมในวันที่ 25 ตุลาคม คงต้องติดตามการพิจารณาใน ก.ตร.รอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง คาดว่าเวลา 3 วันที่ ก.ตร.ได้พินิจบัญชีคัดเลือก คงมีหลายตำแหน่งที่ไม่จบง่ายๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น