ศาลปค.รับคดี'ชาย'ฟ้อง ป.ป.ช.ไม่เปิดเผยข้อมูล 'ตร.'ย้ำ'พฤติการณ์ม็อบ' 'ไม่ชุมนุมสงบ'ตามรธน.

1/10/52


วันที่ 9 ก.ย. 2552 เวลา 10.30 น. ที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ 
นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง 
ตุลาการหัวหน้าคณะและตุลาการเจ้าของสำนวน มีคำสั่งรับฟ้องคดีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเลขาธิการป.ป.ช. 
ที่มีคำสั่งกำหนดวันพิจารณาและชี้มูลความผิดคดีสั่งสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ผู้ฟ้องคดี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งปฏิเสธไม่อนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีได้ตรวจสอบพยานเอกสารในสำนวนคดี และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร 
จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของป.ป.ช.เมื่อวันที่15 พ.ค.2552 ให้ผู้ฟ้องคดีได้มีโอกาสตรวจพยานหลักฐานในสำนวนตามสมควร ขอให้ศาลสั่งป.ป.ช.ชะลอการลงมติชี้มูลความผิดผู้ฟ้องคดีจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร และสั่งให้การกำหนดวันชี้มูลความผิดแก่ผู้ฟ้องคดีในวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย 
ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่า กรณีที่ป.ป.ช.ปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ผู้ฟ้องคดีได้ขอไปตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารนั้น กรณีนี้ศาลเห็นว่าเป็นข้อพิพาทที่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ที่จะรับไว้พิจารณาพิพากษาได้ แต่ในส่วนประเด็นคำร้องที่ขอให้ศาลสั่งป.ป.ช.ชะลอการลงมติชี้มูลความผิดผู้ฟ้องคดีจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร และสั่งให้การกำหนดวันชี้มูลความผิดแก่ผู้ฟ้องคดีในวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายนั้น 
ศาลเห็นว่าการดำเนินการชี้มูลความผิดของป.ป.ช.เป็นการอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 250 วรรค 2 จึงเป็นการกระทำในฐานะที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ กรณีนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องกรณีนี้ไว้พิจารณา และเมื่อศาลได้มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องจึงไม่มีกรณีที่ต้องพิจารณาคำร้องคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิจารณาแต่อย่างใด
“ทนายสมชาย” หวังคำสั่งป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยกฏหมาย หลังศาลปกครองรับฟ้อง

นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความส่วนตัวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับคำฟ้องในประเด็นที่ว่าคำสั่งของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ปฏิเสธไม่ให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือการตรวจพยานเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ไว้พิจารณา ตามที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีนายสมชายได้ยื่นฟ้อง เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าหากในที่สุดถ้าศาลปกครองมีคำสั่งว่าคำสั่งของคณะกรรมการป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็อาจจะทำให้มีผลต่อกระบวนการไต่สวนที่ดำเนินการมาแล้วว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ และอาจจะมีผลตามมาต่อคำสั่งชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป.ป.ช.ด้วยหรือไม่ อีกทั้งมีปัญหาว่าในชั้นพิจารณาของอัยการสูงสุดต้องรอผลคำพิพากษาของศาลปกครองก่อนหรือไม่

“ตำรวจ” แถลงโต้ป.ป.ช. ย้ำมีพยานหลักฐานยืนยันพฤติการณ์ของผู้ชุมนุม ไม่ได้ชุมนุมโดยสงบ


อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยยืนยันให้ประชาชนมั่นใจว่า ตำรวจทุกนายจะยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองใดๆ ในปัจจุบัน

ในส่วนของพล.ต.อ.พัชรวาท ในฐานะผู้ถูกชี้มูลความผิด จะต่อสู้คดีตามกฎหมาย ยืนยันว่าได้ดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ส่งมอบให้ป.ป.ช.เพิ่มเติม จะเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่ทำให้เห็นว่า ตำรวจทำไปตามกฎหมาย

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 ได้รวบรวมพยานหลักฐานยืนยันพฤติการณ์ของผู้ชุมนุม ไม่ได้เป็นการชุมนุมที่สงบและปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด มีการยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งทำเนียบรัฐบาล และมีการกระทำอีกหลายอย่างที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนออัยการพิจารณา

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม