โดยเดลินิวส์ เมื่อ 24 ก.ค.2557
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่บัญชีอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นบัญชีอาวุโสที่ปรับปรุงภายหลังมีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 89/2557 เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่ให้จัดลำดับการอาวุโสใหม่ โดย ให้
Read more ...
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่บัญชีอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นบัญชีอาวุโสที่ปรับปรุงภายหลังมีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 89/2557 เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่ให้จัดลำดับการอาวุโสใหม่ โดย ให้
1.ผู้มียศสูงกว่า (ไม่รวมถึงยศที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษ) เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า
2.ยศเท่ากัน ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับนั้นใน ตร.นานกว่า เป็นผู้มีอาวุโสสูงกว่า
3.ถ้าดำรงตำแหน่งนานเท่ากัน ให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับถัดลงไปนานกว่าตามลำดับ จนถึงตำแหน่งระดับรองสารวัตร เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า ซึ่งรวมถึงตำแหน่งผู้ช่วยผบช. และสารวัตรใหญ่ด้วย
4.ถ้าดำรงตำแหน่งลำดับถัดลงไปนานเท่ากัน ให้ผู้มีระยะเวลาดำรงตำแหน่งชั้นสัญญาบัตรนานกว่า อาวุโสสูงกว่า และ
5.ถ้าระยะเวลาดำรงตำแหน่งชั้นสัญญาบัตรเท่ากัน ให้ผู้ที่มีอายุมากกว่าเป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้การจัดลำดับอาวุโส มีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายวาระปี 2557 ในหลายตำแหน่ง โดยมติก.ตร. กำหนดการการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในตำแหน่งผู้บัญชาการ (ผบช.) ลงมายึดหลักอาวุโส 33% และมีกฎก.ตร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจตำแหน่งระดับสารวัตรถึงจเรตำรวจแห่งชาติ และ รอง ผบ.ตร. พ.ศ.2549 ข้อ 33 ระบุว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้การจัดลำดับอาวุโส มีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายวาระปี 2557 ในหลายตำแหน่ง โดยมติก.ตร. กำหนดการการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในตำแหน่งผู้บัญชาการ (ผบช.) ลงมายึดหลักอาวุโส 33% และมีกฎก.ตร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจตำแหน่งระดับสารวัตรถึงจเรตำรวจแห่งชาติ และ รอง ผบ.ตร. พ.ศ.2549 ข้อ 33 ระบุว่า
การพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งในตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นไป ให้พิจารณาเรียงตามอาวุโส ทั้งนี้ประกาศอาวุโสฉบับล่าสุด ซึ่งตัดรายชื่อผู้เกษียณอายุราชการปี 2557 ออกแล้ว แบ่งตามระดับตำแหน่งดังนี้
ระดับรองผบ.ตร. เรียงตามอาวุโส ดังนี้
1. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.
2. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.
3. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.
ระดับรองผบ.ตร. เรียงตามอาวุโส ดังนี้
1. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.
2. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.
3. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.
4. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.
5. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) (อยู่ระหว่างกระบวนการโปรดเกล้าฯเป็นรอง ผบ.ตร.)
6. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จเรตำรวจแห่งชาติ
7. พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ที่ปรึกษา (สบ10)
5. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) (อยู่ระหว่างกระบวนการโปรดเกล้าฯเป็นรอง ผบ.ตร.)
6. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จเรตำรวจแห่งชาติ
7. พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ที่ปรึกษา (สบ10)
8. พล.ต.อ.ไตรรัตน์ อมาตยกุล หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดอาวุโสครั้งนี้ ไม่กระทบต่อการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีกฎหมายข้อใดระบุว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ต้องพิจารณาตามความอาวุโส แม้ว่าในอดีตเคยมีธรรมเนียมในกรมตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ยึดหลักอาวุโส แต่ในระยะหลังก็ไม่ได้ยึดถือเช่นนั้นแล้ว ขณะที่ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดอาวุโสครั้งนี้ ไม่กระทบต่อการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีกฎหมายข้อใดระบุว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ต้องพิจารณาตามความอาวุโส แม้ว่าในอดีตเคยมีธรรมเนียมในกรมตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ยึดหลักอาวุโส แต่ในระยะหลังก็ไม่ได้ยึดถือเช่นนั้นแล้ว ขณะที่ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.
1.พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก
2.พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา
3. พล.ต.ท.สุพร พันธ์เสือ
4.พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ (อายุราชการทวีคูณ ปฏิบัติงานจังหวัดชายแดนภาคใต้)
5.พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม
6.พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผู้ช่วยผบ.ตร.
7.พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองจตช.
8. พล.ต.ท.มล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์
9. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ
10.พล.ต.ท.เจษฎา อินทรสถิตย์ รองหน.นรป.
ทั้งนี้ ในวาระการแต่งตั้งครั้งนี้จะมีตำแหน่งระดับ พล.ต.อ.ว่างถึง 7 ตำแหน่ง ดังนั้นหากพิจารณาตามกฎก.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่อาวุโส 7 อันดับแรกจะได้เลื่อนตำแหน่งติดยศ พล.ต.อ.เป็น รอง ผบ.ตร. หรือจเรตำรวจแห่งชาติ หรือที่ปรึกษา (สบ10) แน่นอน
ทั้งนี้ ในวาระการแต่งตั้งครั้งนี้จะมีตำแหน่งระดับ พล.ต.อ.ว่างถึง 7 ตำแหน่ง ดังนั้นหากพิจารณาตามกฎก.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่อาวุโส 7 อันดับแรกจะได้เลื่อนตำแหน่งติดยศ พล.ต.อ.เป็น รอง ผบ.ตร. หรือจเรตำรวจแห่งชาติ หรือที่ปรึกษา (สบ10) แน่นอน
ซึ่งตามหลักการแต่งตั้งแล้วหากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. หรือจตช. ซึ่งเป็นตำแหน่งหลักว่างลง จะขยับตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) เข้าดำรงตำแหน่งแทน แต่การแต่งตั้งวาระปี 2557 นี้ คาว่าจะมีตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง แต่มี พล.ต.อ.ชนินทร์ เป็นที่ปรึกษา (สบ10) เพียงคนเดียว ทำให้ในการแต่งตั้งครั้งนี้ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ พล.ต.ท.จักรทิพย์ และ พล.ต.ท.สุพร มีโอกาสจะได้รับการแต่งตั้งเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็นรองผบ.ตร. หรือจตช. ทันที
ขณะที่ระดับ ผบช. ประกาศลำดับอาวุโส 14 อันดับแรก ดังนี้
ขณะที่ระดับ ผบช. ประกาศลำดับอาวุโส 14 อันดับแรก ดังนี้
1.พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รักษาราชการแทน ผู้ช่วย.ผบ.ตร.,
2. พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง,
3.พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบช.สงป. (อายุราชการทวีคูณ ปฏิบัติงานจังหวัดชายแดนภาคใต้),
4.พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,
5.พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8,
6. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5,
7. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7,
8. พล.ต.ท.วัฒนา สักวัตร หน.จตร.,
9.พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2,
10.พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผบช.ศ.,
11.พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย อเนกเวียง ผบช.ส.,
12.พล.ต.ท.จิตต์เจริญ เวลาดรวงณ์ ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.,
13.พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ.ตร. และ
14.พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผบช.สทส.
ทั้งนี้เบื้องต้นในวาระการแต่งตั้งครั้งนี้ จะมีตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่างลงจากการเกษียนฯและเลื่อนตำแหน่งขึ้น 13 ตำแหน่ง ทำให้ ผบช.ที่ครองอาวุโส 13 อันดับแรก ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่เนื่องจาก พล.ต.ท.จงเจตน์ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. แทน พล.ต.ท.เอกรัตน์ มีปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ลาออกไปก่อนแล้ว ทำให้ ผบช.ที่อาวุโสอันดับ 14 มีโอกาสเลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.
ขณะที่ตำแหน่งระดับ รองผบช. ก็มีการประกาศลำดับอาวุโส เช่นกัน โดยยกตัวอย่าง 10 อันดับแรก คือ
ทั้งนี้เบื้องต้นในวาระการแต่งตั้งครั้งนี้ จะมีตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่างลงจากการเกษียนฯและเลื่อนตำแหน่งขึ้น 13 ตำแหน่ง ทำให้ ผบช.ที่ครองอาวุโส 13 อันดับแรก ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่เนื่องจาก พล.ต.ท.จงเจตน์ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. แทน พล.ต.ท.เอกรัตน์ มีปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ลาออกไปก่อนแล้ว ทำให้ ผบช.ที่อาวุโสอันดับ 14 มีโอกาสเลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.
ขณะที่ตำแหน่งระดับ รองผบช. ก็มีการประกาศลำดับอาวุโส เช่นกัน โดยยกตัวอย่าง 10 อันดับแรก คือ
พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรรัชต์ รอง ผบช.น.,
พล.ต.ต.พรหมธร ภาคอัต รองผบช.ศ.,
พล.ต.ต.สุรพล ทองประเสริฐ รองผบช.ส.,
พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รองผบช.ภ.4,
พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ รองผบช.ภ.4,
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.ส.,
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.,
พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร รองผบช.ก.,
พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว รองผบช.ศชต. และ
พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รองผบช.น. ฯลฯ