ก.ตร.เปิด รอง ผบก.51 ตำแหน่ง คาดตั้งทัน 31 มี.ค.นี้

20/2/55
โดยผู้จัดการ เมื่อ 20 ก.พ.2555

“เฉลิม อยู่บำรุง” นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร.ได้เพียง 2 ชั่วโมง แล้วหลบเข้าห้อง “ภาณุพงศ์” พักผ่อนอีกครึ่งชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ โฆษกแจง ไม่มีข้อขัดแย้ง แต่รองนายกฯต้องรีบไปประชุม ครม.สัญจร ขณะที่ ก.ตร.อนุมัติเปิดตำแหน่ง รองผบก.รวม 51 จังหวัด ย้ำ บัญชีแต่งตั้งเสร็จทันสิ้นเดือน มี.ค.นี้แน่

วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ตร.

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) 

เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 2/2555 โดยมี 

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) 
รองผบ.ตร.และ 
ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 

เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง โดย ร.ต.อ.เฉลิม เป็นประธานการประชุมได้เพียง 2 ชั่วโมง พร้อมด้วย พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา รองผบ.ตร.คนสนิท ออกมานั่งในสำนักงาน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ โดยให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ทำหน้าที่ประธาน ก.ตร.ต่อไปจนแล้วเสร็จประมาณ 16.30 น.

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ ในฐานะโฆษก ตร.

แถลงหลังการประชุมว่า ร.ต.อ.เฉลิม ต้องเดินทางไปร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จึงต้องออกจากห้องประชุมก่อน ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ 

ทั้งนี้ ก.ตร.วันนี้ได้มีมติปรับเงินเดือนข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามอัตราเดียวกับอัตราเงินเดือนที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน โดยให้มีผลย้อนหลังด้วย ขณะเดียวกัน ก.ตร.ได้กำหนดคุณสมบัติ สมรรถนะด้านต่างๆ ของผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแต่งตั้งครั้งนี้

“นอกจากนี้ เรื่องสำคัญ ก.ตร.ได้อนุมัติเปิดตำแหน่ง

รองผู้บังคับการ (รองผบก.)

เพื่อมาดูแลงานด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่เน้นการป้องกันปราบปรามยาเสพติด โดย

เปิดตำแหน่ง รองผบก. ในสังกัด ภ.1-9 และ
ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 51 จังหวัด ประกอบด้วย 

บช.ภ.1 ได้แก่ จ. ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สมุทรปราการ 

บช.ภ.2 ได้แก่ จ.สระแก้ว ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด จันทบุรี ปราจีน 

บช.ภ.3 ได้แก่ จ.นครราชสีมา สุรินทร์ ศีรสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร 

บช.ภ.4 ได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร หนองคาย มหาสารคาม 

บช.ภ.5 ได้แก่ ลำปาง น่าน แพร่ 

บช.ภ.6 ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร 

บช.ภ.7 ได้แก่ นครปฐม สมุทรสาคร กาญจนบุรี ลพบุรี ราชบุรี ประจวบคิรีขันธ์ สุพรรณบุรี 

บช.ภ.8 ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช กระบี่ 

บช.ภ.9 ได้แก่ สงขลา สตูล ตรัง และ ศชต. ได้แก่ จ. ปัตตานี นราธิวาส ยะลา 

เปิดตำแหน่ง

 รองผบก.ในสังกัด 

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 5 ตำแหน่ง

ในสังกัด 

บก.ปส.1-4 และ
บก.ข่าวกรองยาเสพติด 

โดยเปิดตำแหน่งใหม่ เพื่อมาทำงานด้านสืบสวนสอบสวนและยึดทรัพย์ โดยเฉพาะ และเปิดตำแหน่ง รองผบก.ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 8 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 

บก.ทล 
บก.รฟ 
บก.ทท 
บก.ปปป 
บก.ปคม 
บก.ปอศ 
บก.ปคบ 
บก.ปอท.
โดยทั้งหมด รองผบก.ฝ่ายปฏิบัติการเป็นหลัก 

รวมเปิดตำแหน่งใหม่ในวันนี้เพียง 64 ตำแหน่ง ส่วนการขยายสถานีตำรวจ และปรับโครงสร้างหน่วยงาน บช.อื่นๆ ที่มีการขยายอัตราตำแหน่งเพิ่มเติมตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ประธานการประชุม คือ ผบ.ตร.ระบุว่า จะนำเข้าการพิจารณา ก.ตร.ในครั้งหน้า ซึ่งตำแหน่งที่เปิดใหม่วันนี้ จะใช้ในการแต่งตั้งวาระนี้เลย 

ส่วนตำแหน่งที่จะเข้า ก.ตร.ครั้งหน้าในต้นเดือนมีนาคม ถ้าทันพอดีก็คงจะใช้แต่งตั้งในวาระเดียวกันด้วย 

โดยไม่มีการเปิดตำแหน่งฝ่ายอำนวยการประจำสำนักงานแต่อย่างใด”

โฆษก ตร.กล่าว
      
ส่วนความคืบหน้าในการแต่งตั้ง โฆษก ตร.กล่าวว่า ที่ประชุม ก.ตร.ไม่มีการขอขยายเวลาในการแต่งตั้งระดับ รองผบก.-สว.วาระประจำปี 2554 ออกไป โดยมีการพูดว่า พยายามจะทำให้ทันในกรอบเวลาวันที่ 31 มีนาคม 

ดังนั้น จึงนัด ก.ตร.ครั้งหน้าในช่วงต้นเดือน ทำให้เร็ว เพื่อว่าการเปิดตำแหน่งใหม่ อาจใช้แต่งตั้งได้ทัน 

ทั้งนี้ ก.ตร.ไม่มีการพูดถึงกรณีตำแหน่ง ผบช.ภ.1 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งดำเนินการแต่งตั้ง เนื่องจากตำแหน่งยังไม่ว่างโดยแท้จริง เนื่องจากยังไม่มีการโปรดเกล้าฯตำแหน่งระดับ รองผบช.-ผบก.แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละหน่วยได้เตรียมพร้อมทำบัญชีอาวุโสรอแล้ว

โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ใน ก.ตร.ครั้งนี้ มีการถามถึงกรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ ตร. กำหนดตำแหน่งพนักงานสอบสวน ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 โดย 

พล.ต.ต.วิบูล ปรองดอง ผบช.ก.ตร.ในฐานะเลขา ก.ตร.

ได้ชี้แจงว่า เรื่องนี้มาถึง ก.ตร.แล้ว จะนำเข้าพิจารณาในครั้งหน้าเช่นกัน โดย ก.ตร.ต้องดำเนินการต่อ ซึ่งคาดว่า ก.ตร.จะต้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุด

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม