เจอโรคเลื่อนต่ออีก คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายพล ระดับรอง ผบช.–ผบก.
จากเดิมที่มีการขออนุมัติ ก.ตร.เลื่อนการประชุม ก.ตร.พิจารณาแต่งตั้งให้มีผลภายในเดือน พ.ย. แต่ภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และความที่ไม่ลงตัวเรื่องตำแหน่ง กับแนวทางการแต่งตั้งใหม่ที่ต้อง
เสนอบัญชีเข้า “บอร์ดกลั่นกรอง” ล่วงหน้า 3 วัน ก่อนนัดประชุม ก.ตร.
ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโผบัญชีโยกย้ายที่มีสิทธิ์ถูกวิ่งเต้นล็อบบี้ตำแหน่ง
โผเด็กฝากสายการเมืองแน่น จน ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. หายใจไม่ออก
ทำให้ต้องขอ ก.ตร.ขยายเวลาคำสั่งแต่งตั้งรอง ผบช.-ผบก.ออกไป และ ก.ตร.อนุมัติไปแล้ว มีผลในวันที่ 30 ธ.ค.54 ส่วนการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-สว.ก็ต้องเลื่อนตามออกไป มีผลในวันที่ 31 ม.ค.55
นอกจากนี้ ยังมีกรณีปัญหาเรื่องคำสั่งแต่งตั้ง
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รอง ผบช.ก.
ที่ ก.ตร.ชุดเดิมมีคำสั่งแต่งตั้งเป็น ผบช.ภ.1 แต่ ก.ตร.ชุดใหม่มองว่ามีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ ต้องตรวจสอบรายละเอียด และพยายามให้ยกเลิกมติแต่งตั้ง ก.ตร.ชุดที่ผ่านมา
แต่ไม่มี ก.ตร.คนไหนกล้าสรุป กลัวจะถูกฟ้องร้อง เนื่องจากเป็นคดีความกันมานาน
ล่าสุด ก.ตร.มีมติให้ทำการสอบเพิ่มเติมอีก 3 ประเด็น ก่อนเสนอเข้าวาระประชุม ก.ตร.พิจารณาให้จบในการประชุม ก.ตร.ครั้งหน้า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ย้ำต้องให้เกิดผลสรุปภายใน 15 วัน
และจะต้องอธิบายได้ ไม่ว่าบทสรุปเป็นอย่างไรต้องว่ากันอย่างนั้น หากปล่อยทอดเวลาให้ช้าออกไป จะทำให้เกิดความเสียหาย
ที่ผ่านมาเสีย ผบช.ไป 1 ตำแหน่ง ตามด้วยตำแหน่งอื่นเป็นระนาบจนถึงระดับ รอง สว. จนต้องให้
แต่ไม่มี ก.ตร.คนไหนกล้าสรุป กลัวจะถูกฟ้องร้อง เนื่องจากเป็นคดีความกันมานาน
ล่าสุด ก.ตร.มีมติให้ทำการสอบเพิ่มเติมอีก 3 ประเด็น ก่อนเสนอเข้าวาระประชุม ก.ตร.พิจารณาให้จบในการประชุม ก.ตร.ครั้งหน้า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ย้ำต้องให้เกิดผลสรุปภายใน 15 วัน
และจะต้องอธิบายได้ ไม่ว่าบทสรุปเป็นอย่างไรต้องว่ากันอย่างนั้น หากปล่อยทอดเวลาให้ช้าออกไป จะทำให้เกิดความเสียหาย
ที่ผ่านมาเสีย ผบช.ไป 1 ตำแหน่ง ตามด้วยตำแหน่งอื่นเป็นระนาบจนถึงระดับ รอง สว. จนต้องให้
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาการ ผบช.ภ.1
ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนอยู่ในอำนาจของ ก.ตร.
นอกจากนี้ความล่าช้าของคำสั่งโยกย้ายทำให้มีผลต่อตำรวจทุกระดับชั้น บางคนมีข่าวถูกโยกย้ายก็เลยปล่อย “เกียร์ว่าง” ไม่ยอมทำงาน ส่วนคนที่ ลุ้นตำแหน่ง ก็วิ่งเต้นเข้าหา ผู้หลักผู้ใหญ่ นักการเมือง ที่มีอำนาจต่อรอง เพื่อขยับเลื่อนตำแหน่ง หรือลงในพื้นที่สำคัญ ไม่มีเวลาลงพื้นที่ เป็นช่องว่างการขับเคลื่อนนโยบายตำรวจ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เข้าใจสภาพข้อจำกัดของตำรวจ แต่อาศัยการบริหารงานที่กระจายอำนาจลงไปให้ระดับ รอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบพื้นที่ และมีหน้าที่เป็น ก.ตร. เป็นผู้สั่งการ เพื่อให้ตำรวจได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดรอง ผบ.ตร. และ ก.ตร. ผู้ที่รับผิดชอบตัวจริง
อย่างน้อยรอง ผบ.ตร.ทุกคนจะช่วยเป็นปากเสียงให้เกิดความเป็นธรรม
รู้ว่าคนไหนทำงาน คนไหนวิ่งเต้นเส้นสาย!!!
นอกจากนี้ความล่าช้าของคำสั่งโยกย้ายทำให้มีผลต่อตำรวจทุกระดับชั้น บางคนมีข่าวถูกโยกย้ายก็เลยปล่อย “เกียร์ว่าง” ไม่ยอมทำงาน ส่วนคนที่ ลุ้นตำแหน่ง ก็วิ่งเต้นเข้าหา ผู้หลักผู้ใหญ่ นักการเมือง ที่มีอำนาจต่อรอง เพื่อขยับเลื่อนตำแหน่ง หรือลงในพื้นที่สำคัญ ไม่มีเวลาลงพื้นที่ เป็นช่องว่างการขับเคลื่อนนโยบายตำรวจ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เข้าใจสภาพข้อจำกัดของตำรวจ แต่อาศัยการบริหารงานที่กระจายอำนาจลงไปให้ระดับ รอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบพื้นที่ และมีหน้าที่เป็น ก.ตร. เป็นผู้สั่งการ เพื่อให้ตำรวจได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดรอง ผบ.ตร. และ ก.ตร. ผู้ที่รับผิดชอบตัวจริง
อย่างน้อยรอง ผบ.ตร.ทุกคนจะช่วยเป็นปากเสียงให้เกิดความเป็นธรรม
รู้ว่าคนไหนทำงาน คนไหนวิ่งเต้นเส้นสาย!!!
2 ความคิดเห็น:
เมื่อไหร่มันจะแต่งตั้งกันซะทีว่ะ
แม่งชักช้าอยู่นั่น
ไม่ต้องทำมาหาแดกอะไรกันแล้ว รอแม่งแต่งตั้งกันอยู่นั่นแหละ
ขออย่าให้แดกเงินซื้อขายตำแหน่ง เหมือนสมัยไอ้เทพ ไอ้มาร์ค เป็นพอ
แม่งซื้อขายตำแหน่งกันจนรวยไปเท่าไหร่ ไอ้สาดดดดด
แสดงความคิดเห็น