อชิรวิทย์โวยโผตำรวจ มี'ตั๋ว'การเมือง และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ ตร.

2/2/54
โดยข่าวสด เมื่อ 1 ก.พ.2554

ผบ.ตร.ยันโยกย้ายไม่ล่าช้า -ปลอดการเมือง น.1ออกตัวตั๋วไม่เยอะมีทั้งปชป.-มะเขือเทศ 'อชิรวิทย์' โวยแต่งตั้งรอง ผบก.-สว.มีตั๋วนักการเมืองเพียบ แฉบช.ภ.4 มีเกือบทุกตำแหน่ง ลั่นโผรองผบก.-สว.ต้องรื้อตรวจสอบให้ถูกต้อง เตือนตร.อย่าสยบให้การเมือง ขู่ซ้ำให้กลัวโดนย้ายเพราะอำนาจก.ตร.ด้วย

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองผบก.-สว.วาระประจำปี 2553 ว่า ขณะนี้การจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 โดยยังมีบางหน่วยที่ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดให้มีความถูกต้องมากที่สุด ทั้งนี้ตามหลักแล้วการจัดทำบัญชีเป็นอำนาจของผู้บังคับการแต่ละกองบัญชาการ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอำนาจในการปรับเกลี่ยตำแหน่งที่ว่าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกระดับและทุกภาค โดยระบุว่าในส่วนที่ยังมีความล่าช้าอยู่คือตำแหน่งของศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.)ที่ในส่วนที่ลงไปอยู่ในพื้นที่เป็นระยะเวลา 3 ปีสามารถขอย้ายออกจากพื้นที่ได้ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 26 ราย และในส่วนของตำแหน่งสารวัตรที่ต้องมีการ พิจารณาจากคุณสมบัติเฉพาะเช่น ด้านบัญชี และการสื่อสาร อย่างไรก็ตามการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายน่าจะแล้วเสร็จภายใน1-2วันนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ก.พ. ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้

"ขอยืนยันว่าความล่าช้าไม่ได้เกิดจากการวิ่งเต้นของผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะนักการเมือง ซึ่งยอมรับว่านักการเมืองมีสิทธิให้การเสนอแนะ แต่ไม่มีสิทธิเรียกร้องว่าจะให้ดำรงตำแหน่งใด เพราะองค์กรตำรวจถือเป็นองค์กรที่มีความเป็นระเบียบสูงมากกว่าองค์กรอื่นๆ" ผบ.ตร.กล่าว

ที่บช.น. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ให้สัมภาษณ์ถึงการทำบัญชีแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก-สว. ว่า ทั้งหมดเรียบร้อยดีขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของธุรการคือการตรวจสอบคุณ สมบัติ ส่วนการย้ายเข้าและออกนอกหน่วยนั้นมีจำนวนน้อยกว่า 2-3 ปี ที่ผ่านมา สำหรับเรื่องตั๋วไม่เยอะ แต่ตนจะดูเรื่องคนทำงานอย่างเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนังสือพิมพ์ลงว่าอกหักผิดหวังถึงขั้นลาออก พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า มีอยู่เพียง 1 คน คือ พ.ต.อ.ปกรณ์ กิติวัฒน์ ผกก. สส.บก.น.4 เนื่องจากใกล้เกษียณ ไม่ได้อกหักแต่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น อยู่ในกลุ่มอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสาเหตุที่ลาออกเขาตัดสินใจเลือกทางเดินอย่างนั้นไม่สามารถบังคับได้

สำหรับผกก.สน.ห้วยขวางคนใหม่ที่จะมาดูแลนั้นจะสามารถรับมือสถานบริการได้หรือไม่ ผบช.น. กล่าวว่า ตนว่าเขาทำได้ ซึ่งตนก็ได้ให้ระดับรองผบช.น.เลือกดูว่าใครจะมาทำหน้าที่ ก็เหมือนนักฟุตบอลเพียงดูว่าใครเล่นตำแหน่งไหนได้ก็ให้มาเล่น โดยในที่ประชุมต่างพอใจ รองผบช.น.ทุกนายก็เห็นด้วย

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีเด็กพรรคประชาธิปัตย์ได้ดีกันทุกคน พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า มีการคละกันไป บางทีก็เด็กพรรคประชาธิปัตย์ บางทีก็มะเขือเทศ แต่ตนจะเอาการทำงานเป็นตัวตั้ง คาดว่าภายใน 7 วัน ทราบกันว่าใครทำงานส่วนไหน

ด้านพล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีต รองผบ.ตร. ในฐานะว่าที่ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในตำแหน่งรองผบก.-สว.วาระประจำปี 2553 ว่า ก่อนหน้านี้ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า หากตนมีอะไรก็ขอให้พูดคุยกันภายในที่ประชุมก.ตร. แต่ระหว่างที่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯในตำแหน่ง ก.ตร. จึงขอมาพูดผ่านสื่อในเรื่องที่ควรจะพูดในก.ตร.

"ที่ผ่านมาแม้ผมจะออกมาเตือนผบ.ตร. และผบช.ถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ถึงตอนนี้ก็ยังมีโทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนที่ผมวันละหลายร้อยครั้ง ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ประกอบกับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับยังทำไม่แล้วเสร็จ ซึ่งตอนนี้มีบางกองบัญชาการที่ผมรับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบช.ในพื้นที่ภาคอีสาน โดย เฉพาะใน บช.ภ.4 เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนมากมาย ซึ่งในการประชุมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายก็มีการกล่าวอ้างว่า มีบัญชีฝากจากตร.และฝ่ายการเมืองเกือบทุกตำแหน่ง ทำให้การพิจารณาแต่งตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมและไม่เป็นตามวัตถุประสงค์ ไม่เป็นไปตามพ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ" พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าว

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ขอยกตัวอย่างตำรวจบางคน ก่อนหน้านี้เป็นสารวัตรหัวหน้าสถานี ในสังกัดบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ที่ได้รับรางวัลมาตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการเสนอชื่อจากผบก.จว.ให้แต่งตั้งขึ้นตำแหน่งสารวัตรใหญ่หัวหน้าสถานี ซึ่งได้รับการยกฐานะ แต่รายชื่อกลับถูกตีตกในที่ประชุมบอร์ดคัดเลือก และไม่มีรายชื่อแม้ในตำแหน่งรองผกก.ด้วยซ้ำ ดังนั้น ต้องตอบคำถามเรื่องนี้ให้ได้ว่า เหตุใดจึงแต่งตั้งสารวัตรธรรมดาที่ไม่ใช่ตำแหน่งสารวัตรหัวหน้าสถานีมาดำรงตำแหน่งรองผกก. ได้ ทั้งที่สารวัตรหัวหน้าสถานีคนดังกล่าวครองตำแหน่งมากว่า 7 ปีแล้วกลับตั้งขึ้นไม่ได้

พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ขอฝากไปยังผบช.ภ.ทุกแห่งที่มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 54 ถ้าหากมีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม ลุแก่ โลภะ โมหะ โทสะ แต่งตั้งบุคลากรข้ามขั้นตอน หรือก่อให้เกิดความแตกแยกในหน่วยงาน ตัวผบช.และรองผบช.ที่เป็นบอร์ดกลั่นกรองต้องร่วมรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องอำนาจนอกระบบที่เข้ามาแทรกแซง ยังมีเรื่องซื้อขายตำแหน่งด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวว่า เป็นเรื่อง'ไปยาลใหญ่' ที่รู้กันอยู่ทั่วไป ก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือเท็จ ที่ชัดเจนคือที่ประชุมทุกบช. ทางผบช.ต้องตอบคำถามรองผบช.ทุกคนว่า ตร. และฝ่ายการเมืองสั่งมา ซึ่งตั๋วต่างๆไม่มีคนเซ็นนำส่ง แต่เป็นตั๋วมืดที่ให้มารับบัญชีไปและต้องดำเนินการตามนั้น ส่วนที่คำสั่งยังออกไม่ได้ เพราะทุกกองบัญชาการต้องส่งมาตรวจสอบว่าเป็นไปตามคำสั่งหรือไม่ เรื่องนี้ผบก.กองทะเบียนพลสามารถตอบได้ ส่วนตั๋วนักการเมืองมาจากใครนั้น ก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ นักการเมืองที่ต้องการใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ และเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งทั้งหมด ตนไม่ตำหนิฝ่ายการเมืองอย่างเดียว แต่ขอตำหนิฝ่ายตำรวจด้วย ที่นำตัวไปสยบกับฝ่ายการเมือง บอกแล้วว่า ตราแผ่นดินที่สวมอยู่หน้าหมวก ทำไมต้องไปศิโรราบกับตักนักการเมือง

"ทำไมคุณกลัวอำนาจนักการเมืองย้ายคุณหลุดจากตำแหน่ง แต่เหตุใดไม่กลัวว่า ต้องหลุดจากตำแหน่ง เพราะอำนาจของก.ตร.บ้าง พูดแบบไม่ต้องดัดจริต การแต่งตั้งโดยใช้ระบบอุปถัมภ์ร้อยละ 20 ก็พอรับได้ แต่อย่าถึงขั้นต้องใช้ระบบอุปถัมภ์ทั้งหมด ส่วนโผระดับรองผบก.-ส.ว. ส่วนตัวคิดว่า ต้องรื้อ เพราะอะไรที่ผิดก็ต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง ประกอบกับก่อนหน้านี้รัฐบาลออกมาระบุว่า จะไม่แทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการบุคลากรตำรวจตามรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้เหตุใดตั๋วกลับมีเต็มไปหมด และขอเตือนว่า หากแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจไม่ถูกต้อง ก็มีความผิดตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 54 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157" พล.ต.อ. อชิรวิทย์กล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ครม. รับทราบมติที่ประชุมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่พิจารณาเรื่องขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับเงินเพิ่ม เป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน และขออนุมัติให้สตช. แก้ไขระเบียบก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ สำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน พ.ศ. 2553 ให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.53

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรายชื่อนายตำรวจใน บช.น. ที่น่าสนใจและคาดว่าจะได้รับการโยกย้ายในครั้งนี้คือ พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.จต. อดีตผกก. สส.บก.น.5 กลับนครบาล เป็นรองผบก.จร., พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร รองผบก.อก. เป็นรองผบก.จร., พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.ตชด. โยกมาเป็นผกก.สน. คลองตัน, พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.บุปผาราม เป็นผกก.สน.วัดพระยาไกร, พ.ต.อ.สมโภชน์ ทัศนา ผกก.ฝอ.1 บก.อก. เป็นผกก.สน.บุปผาราม, พ.ต.อ.วิญญู อำนวยสมบัติ ผกก.สภ.หนองสองห้อง จ.ขอน แก่น เป็นผกก.สส.บก.น.9

พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ รองผกก.ปป. สน.ดินแดง เป็นรองผกก.ปป.สน.ห้วยขวาง, พ.ต.ท.พรเทพ สูติปัญญา รองผกก.จร.สน. ห้วยขวาง เป็นรองผกก.ปป.สน.แสมดำ, พ.ต.ท. พาติกรณ์ ศรชัย สวป.สน.ห้วยขวาง ขึ้นเป็นรองผกก.ปป.สน.ฉลองกรุง, พ.ต.ท.ชาญฤทธิ์ ทรัพย์สมบัติ สว.จร.สน. พระราชวัง เป็นสว.จร. สน.พลับพลาไชย 2, พ.ต.ต.เอกนรินทร์ สุวรรณ ทา สว.ฝอ.8 บก.อก. เป็นสว.จร.สน.พระราชวัง, พ.ต.ต.อดิเรก วิเศษชูชาติ สว.ฝอ.3 บก.อก. เป็นสว.จร.สน.บางพลัด, พ.ต.ต.เนติ วงษ์กุหลาบ สว.ฝอ.5 บก.อก. (สารวัตรประชาสัมพันธ์) เป็น สว.จร.สน.ลาดกระบัง, พ.ต.ต.เมธี ไกรทอง สว.อก.บก.น.1 เป็นสวป.สน. มักกะสัน พ.ต.ต. สุรพงษ์ พุฒขาว ผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นสว.สส.สน. บางนา เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม