วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.
นำเอกสารเรื่อง “ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบ และระงับยับยั้งการเสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ และพระราชทานยศสูงขึ้นของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.” โดยเอกสารทั้งหมดมีความหนาจำนวน 20 หน้า และประทับตราด่วนที่สุดที่หน้าแรกมุมบนด้านซ้าย
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวระบุว่า ได้รับหนังสือจากข้าราชการตำรวจผู้รักความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.53 ว่า การแต่งตั้ง
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวระบุว่า ได้รับหนังสือจากข้าราชการตำรวจผู้รักความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.53 ว่า การแต่งตั้ง
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.
เป็นที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.53 เป็นต้นมา โดยการปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาดังกล่าว พล.ต.ต.ศรีวราห์ได้เบิกเงินค่าเสี่ยงภัย ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าเลี้ยงดูย้อนหลังตั้งแต่ เม.ย.53 จนถึงปัจจุบัน ปรากฏข้อเท็จจริงว่าในห้วงระยะเวลาที่ซ้ำซ้อนกันดังกล่าว พล.ต.ต.ศรีวราห์อยู่ระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตร วปอ.มีกำหนด 1 ปี จึงไม่น่าที่จะปฏิบัติหน้าที่ปรึกษาดังกล่าวที่ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) โดยได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วยมาให้พิจารณา
ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจครั้งล่าสุด ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ จเร ตร. และรอง ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่าลงมา ถึง ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า โดยเห็นชอบแต่งตั้ง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รอง ผบช.ก.ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 (ยศ พล.ต.ท.) ซึ่งขณะนี้รักษาการ ผบ.ตร.ได้นำรายชื่อข้าราชการตำรวจที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจมีมติเห็นชอบดังกล่าวเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และพระราชทานยศสูงขึ้นแล้ว
ตนได้พิจารณาตามเอกสารที่ส่งมา ประกอบหลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.53 แล้วขอเรียนนายกรัฐมนตรีว่า การคัดเลือกแต่งตั้งและการให้ความเห็นชอบ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รอง ผบช.ก.ให้ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย โดยเป็นมติที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ดังกล่าวอย่างชัดเจน เพียงเพื่อช่วยเหลือ พล.ต.ต.ศรีวราห์ให้ได้รับยศและตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งผู้รับผิดชอบอาจจะต้องรับโทษตามกฎหมายได้ พร้อมกันนี้ได้แนบเอกสารใบเบิกรับค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเสี่ยงภัย และค่าเบี้ยเลี้ยงของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ มาด้วย
ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจครั้งล่าสุด ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ จเร ตร. และรอง ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่าลงมา ถึง ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า โดยเห็นชอบแต่งตั้ง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รอง ผบช.ก.ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 (ยศ พล.ต.ท.) ซึ่งขณะนี้รักษาการ ผบ.ตร.ได้นำรายชื่อข้าราชการตำรวจที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจมีมติเห็นชอบดังกล่าวเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และพระราชทานยศสูงขึ้นแล้ว
ตนได้พิจารณาตามเอกสารที่ส่งมา ประกอบหลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.53 แล้วขอเรียนนายกรัฐมนตรีว่า การคัดเลือกแต่งตั้งและการให้ความเห็นชอบ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รอง ผบช.ก.ให้ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย โดยเป็นมติที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ดังกล่าวอย่างชัดเจน เพียงเพื่อช่วยเหลือ พล.ต.ต.ศรีวราห์ให้ได้รับยศและตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งผู้รับผิดชอบอาจจะต้องรับโทษตามกฎหมายได้ พร้อมกันนี้ได้แนบเอกสารใบเบิกรับค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเสี่ยงภัย และค่าเบี้ยเลี้ยงของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ มาด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น