ยุคสมัยนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอะไรก็ไม่รู้ อำนาจเบ็ตเสร็จอยู่ที่ ผบ.ตร.คนเดียวสามารถชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้ แม้ว่าจะมีกฏเกณฑ์หลักเกณฑ์กำหนดก็แหกได้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการเป็นผู้แต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งมีผลประโยชน์มหาศาลในแต่งละครั้ง ซึ่งครั้งนี้ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตรขึ้นเป็นสารวัตร ประจำปี 2550 ท่าน ผบ.ตร. ก็ใช้อำนาจพิเศษ ควบคุมให้ กกตร.อนุมัติหลักเกณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่ง รองสารวัตรขึ้นข้ามหน่วยได้ (โดยต้องมีอายุราชการในตำแหน่ง รอง สว.ไม่น้อยกว่า 9 ปี )
แต่หลักเกณฑ์การแต่งตั้งนี้ กำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ว่าจะต้องผู้ที่สามารถได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นจะต้องย้ายมาสังกัดหน่วยนั้นไม่น้อยกว่า 1 ปี ถึงจะมีสิทธิได้รับการพิจารณา มิหนำซ้ำยังได้ข่าววงในใกล้ชิดท่าน ผบ.ตร. ลือ ออกมาหนาหูว่า ท่านจะกำหนดเกณฑ์เองให้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งรอง สว.ที่จะได้รับการพิจารณาขึ้นเป็นสารวัตรได้ ต้องเป็นรอง สว.ไม่น้อยกว่า 9 ปี (ซึ่งในกฏเกณฑ์การแต่งตั้ง ของ ตร.นั้น มีกำหนดไว้ว่า ผู้ที่เป็นรองสารวัตรที่จะสามารถได้รับการพิจารณาให้เป็นสารวัตรต้องเป็นรองสารวัตรไม่น้อยกว่า 7 ปี) ซึ่งเมื่อดูตามหลักเกณฑ์ที่ท่านใช้อำนาจควบคุมให้ กกตร.อนุมัติหลักเกณฑ์ขึ้นข้ามหน่วยได้ เพื่อจะได้เอื้อประโยชน์ในการแต่งตั้งสารวัตรได้ เหตุผลมาจาก ทั่วประเทศนั้น แต่ละ บช.ไม่ว่าจะเป็น ภ.3,4,6,8 และ 9 ผู้ที่เป็นรอง สว.9 ปี แทบจะไม่มีเหลือ ส่วนใหญ่จะมีเพียง 7-8 ปี ทำให้ บช.ดังกล่าวไม่สามารถพิจารณาในการแต่งตั้งไม่ได้อันเนื่องมาจากชั่งน้ำหนักตัวไม่ผ่าน(อายุราชการไม่ถึง9ปี) ทำให้ต้องคืนตำแหน่งกลับมายังส่วนกลางให้ ผบ.ตร.มีอำนาจพิจารณาจะให้ใครเป็นสารวัตร (ซึ่งท่านอาจจะให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นรองสารวัตรมานานไม่ได้เป็นสักที) ผมขออธิบายให้ฟังว่า ตำรวจที่ อยู่ในหน่วย อื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น ภาค 1,2,5,7,บชน.,บชก.หน่วยพวกนี้ไปดูได้เลยเป็นหน่วยที่เศรษฐกิจดี เป็นแหล่งขุมทรัพย์ของตำรวจ จึงทำให้มีตำรวจย้ายเข้าไปสังกัดอยู่มากเป็นเหตุให้ ตำแหน่งมีน้อยกว่าคนซึ่งก็ทำให้พวกเขาเหล่านี้เป็นรองสารวัตรนาน ผมว่ามันก็น่าจะเหมาะสมดีแล้วในเมื่ออยากอยู่ในที่ที่ เศรษฐกิจดีๆ แต่การแข่งขันก็จะสูงตามไป เมื่อดูอย่าง ตำรวจภูธรภาค 9 (ปัตตานี ยะลา นาราธิวาส )
มีใครอยากไปอยู่บ้าง มันจึงทำให้ บช.ภาค ที่เศรษฐกิจไม่ดีหรือไม่น่าอยู่เนื่องจากเหตุก่อการร้าย จึงทำให้ มี รองสารวัตรมีน้อย ตำแหน่ง สารวัตรมีเหลือเฟือ และทำไมไม่พิจารณาพวกเขาที่อยู่ในพื้นที่ก่อน โดยให้ใครก็ไม่รู้จากส่วนกลางมาเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งไม่รู้จักภูมิประเทศ นิสัยใจคอของประชาชนในพื้นที่ ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ โดยคนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ก็จะเสียขวัญกำลังใจ เนื่องมาจากทำงานในพื้นที่มาตลอด และพวกเขาก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น ตามหลักเกณฑ์ที่ ตร.กำหนด(7 ปี) ผมขอวิงวอนผู้ที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยแสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นเพียงความเห็นที่อาจจะทำให้ ท่าน ผบ.ตร.คนปัจจุบันได้ยิน และแก้ไขสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น