ปลด ‘สุชาติ เหมือนแก้ว’ สั่งสลายม็อบ 7 ตุลา

17/11/52
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2552 18:53 น.

คณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมติปลดออก “สุชาติ เหมือนแก้ว” สั่งสลายม็อบเหตุการณ์7 ตุลา ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดพ่วงด้วย

อดีตผู้การอุดร“เพิ่มศักดิ์” ปล่อยเสื้อแดงรุมทำร้ายประชาชนที่หนองประจักษ์จ.อุดรธานี

คณะกรรมการ ชี้ ตร.ทั้งสองนายทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วโทษสถานเบาแค่ปลดออก

หลังจากที่พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมคณะกรรมการ ซึ่งมีรอง ผบ.ตร.ทุกท่านเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง เหตุการณ์สลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม 2551การพิจารณาความผิดของ

พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภ.อุดรธานี

ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงพร้อมอาวุธบุกทำร้ายประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2551จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บคณะกรรมการพิจารณาโทษสามารถพิจารณาไล่ออกหรือปลดออกเท่านั้น โดยมติของคณะกรรมการเองเห็นว่าตำรวจทั้งสองนายทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว จึงลงโทษปลดออก ซึ่งเป็นโทษสถานเบาที่สุด

ส่วนกรณี พล.ต.ท.สุชาติร้องขอความเป็นธรรมนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่าทางคณะกรรมการไม่มีอำนาจพิจารณาในส่วนนี้ คณะกรรมการต้องพิจารณาไปตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูลมาซึ่ง พล.ต.ท.สุชาติ สามารถร้องขอความเป็นธรรมทำได้ต่อศาลปกครอง

หลังจากนี้คณะกรรมการจะนำมติในที่ประชุมเสนอไปยัง พล.ต.อ.ปทีปตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ลงนามก่อนที่จะแจ้งให้ตำรวจทั้งสองนายให้ทราบด้าน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้วกล่าวว่า ยอมรับในคำตัดสิน จะไม่ร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานอื่นอีกแล้ว ที่ผ่านมารับราชการมานอนพอควร จึงอยากขอพักผ่อนจะขอยกเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นอุทาหรณ์

สำหรับ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4(ผบช.ภ.4) เกิดเมื่อวันที่ 4มกราคม 2494 จบ ร.ร.นายร้อยตำรวจ “นรต.รุ่น 26” รุ่นเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ

จบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากม.ธรรมศาสตร์ ปี 2538 และ
นิติศาสตรมหาบัณฑิต มสธ. ปี 2543
ผ่านอบรมหลักสูตร ร.ร.ผบก.รุ่น 18และ
วปอ.รุ่น 48

เติบโตในเส้นทางสีกากีเริ่มตั้งแต่ปี 2516 เป็น ผบ.มว.ประจำ กก.สอ.ตชด.
ผ่านตำแหน่งสำคัญในกองปราบปราม
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
อาทิ
รอง สว.ผ.5 กก.5 ป.
รอง สว.ผ.4 กก.2 ป.
ผู้ช่วยนว.ผบก.ป.
นว.ผบก.ป.
สว.ผ.ธุรการกก.นผ.บก.อก.บช.ก.
สว.ผ.7 กก.8 ป.
สว.ผ.8 กก.8 ป.
รอง ผกก.1 ป.
ผกก.1 ป.
รอง ผบก.ป.
รอง ผบก.อก.บช.ก.

พล.ต.ท.สุชาติ เป็นนายพลติดยศ พล.ต.ต.ครั้งแรกเมื่อปี2544 เป็น
ผบก.อก.บช.ก.โยกเป็น
ผบก.ทล.ปี 2546 ขึ้นเป็น
รองผบช.ก.ในปี 2547 และโยกมาเป็น
รอง ผบช.น.เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2551

ต่อมาได้รับการคาดหมายว่าจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นคนต่อไป แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพ.ศ. 2551 ขึ้น ได้มีคำสั่งโยกย้ายพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบ.ช.น.ไปเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และแต่งตั้งให้พล.ต.ท.สุชาติ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ต่อมาเมื่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ เข้ามาบริหารประเทศจึงถูกย้ายไปเป็น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4)พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว มีชื่อเล่นๆ ที่เพื่อนร่วมรุ่นเรียกว่า“ไอ้เบื๊อก” จึงกลายมาเป็นชื่อที่สื่อมวลชนเรียกว่า“บิ๊กเบื๊อก” หรือ“เดอะ เบื๊อก”

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม