บอร์ดคณะกรรมการคัดเลือกฯ แต่งตั้ง 45 นายพลตำรวจโท ถึง พลตำรวจเอก

29/7/55
โดยมติชน เมื่อ 29 ก.ค.2555

วันที่ 29 ก.ค. 2555 ณ ห้องประชุม 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 

นายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน 

เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือก หรือ บอร์ดกลั่นกรอง 

การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ถึง ผู้บัญชาการ(ผบช.) วาระประจำปี 2555 โดยมีรองผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) ร่วมประชุมกันครบ ในจำนวนนี้มี 

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. ว่าที่ ผบ.ตร.

ร่วมประชุมด้วย ใช้เวลาประชุมเพียง 1 ชั่วโมง พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนทั้งสิ้น 45 ตำแหน่ง เป็นการแต่งตั้งเลื่อนขึ้น 37 ตำแหน่งและสับเปลี่ยน 8 ตำแหน่ง

รายงานข่าวระบุว่าบอร์ดกลั่นกรองพิจารณาแล้ว ตามเห็นชอบตามบัญชีแต่งตั้งที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เสนอเข้ามา ทั้งนี้มีรายงานว่า บอร์ดกลั่นกรองเห็นชอบบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายดังนี้ โยก 

พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา 
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา(สบ10) 

เป็นรองผบ.ตร. 

พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ ที่ปรึกษา(สบ10) 

เป็นจตช. 

โดยเห็นชอบแต่งตั้ง 

พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง 
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ 
พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ 
พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน และ
พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี 

ผู้ช่วยผบ.ตร. ขึ้นเป็นที่ปรึกษา(สบ10)

ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่า บอร์ดกลั่นกรองเห็นชอบแต่งตั้งตามลำดับความอาวุโส ดังนี้ ให้ 

พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ผบช.สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(สทส.) 
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผบช.กองบัญชาการศึกษา(ศ.) 
พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ(สพฐ.ตร.) 
พล.ต.ท.เอกรัตน์ มีปรีชา จเรตำรวจ(จตร.) (สบ8) 
พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ตำรวจภูธรภาค8 (ภ.8) 
พล.ต.ท.ภัทรชัย หิรัญญะเวช ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี(กมค.) 
พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภ.9 และ
พล.ต.ท.อรรถพร อุทยานนท์ จตร.(สบ8) และ
พล.ต.ท.นเรศ เทียนกริม จตร.(สบ8) เป็นผู้ช่วยผบ.ตร. และให้ 
พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน จตร.(สบ8) ขึ้นเป็น รองจตช.(สบ9)

ขณะที่มีรายงาน ระดับ ผบช.บอร์ดกลั่นกรองเห็นชอบ ดังนี้ โยก 

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 เป็น ผบช.ภ.2 

คุมพื้นที่บ้านเกิดตัวเอง ทั้งนี้มีกระแสข่าวมาตั้งแต่ตอนที่ พล.ต.ท.วินัย ลุกจากตำแหน่งผบช.น.แล้ว ว่าตั้งใจจะย้ายไปลงในตำแหน่ง ผบช.ภ.2 แต่เนื่องจากติดขัดหลายปัจจัย ทำให้ต้องดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 ก่อน ขณะที่บอร์ดกลั่นกรองโยกเห็นชอบโยก 

พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น เป็น ผบช.สพฐ.ตร. 

ทั้งนี้มีกระแสว่าเหตุที่ถูกโยกเนื่องจากไม่สามารถทำงานสนอมตามนโยบายของฝ่ายการเมืองในหลาย โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและการเมือง 

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 ซึ่งเป็นคนสนิท ของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็น ผบช.สตม. โดยให้ 

พล.ต.ต.เชิด ชูเวช รองผบช.ก. นรต.28 ซึ่งเติบโตในพื้นที่บช.ภ.3 เป็น ผบช.ภ.3 คนใหม่

ทั้งนี้เห็นชอบให้ 

พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ รองผบช.ภ.4 คนสนิทก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 ให้

พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ประจำสง.ผบช.ตร.ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน นรต.30 ซึ่งทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาหลายปี ได้แรงหนุนจากหลายฝ่าย โยกเป็น ผบช.ภ.8 ให้ 

พล.ต.ต. พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น. ได้แรงหนุน คุณหญิงพจมาน ขึ้นเป็นผบช.ภ.9

ขณะที่เห็นชอบให้ 

พล.ต.ต.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รองผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) มือทำงานของพล.ต.อ.อดุลย์ ได้แรงหนุนจากหลายทางโดยเฉพาะ พล.ต.อ.อดุลย์ ให้ขึ้นเป็น ผบช.สันติบาล คุมงานด้านการข่าว 

พล.ต.ต.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ รองผบช.ศชต. ลูกหม้อ ตชด. ขึ้นเป็น ผบช.ตชด. 

พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รองผบช.รร.นรต. ลูกเขยกลุ่มบริษัทเกษตรรุ่งเรืองพืชผล ขึ้นเป็นผบช.ศ. โยก พล.ต.ต.ชัยยง กีรติขจร จตร. (สบ8) เป็น ผบช.กตร. 

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม มือทำบัญชีแต่งตั้ง ลูกหม้อสำนักงานกำลังพลขึ้น เป็นผบช.สกพ. 

พล.ต.ต.วัฒนา สักวัตร รองผบช.ภ.5 เป็น ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี 

พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผบช.สทส.อดีตโฆษกตร ขึ้นผบช.สทส. 

พล.ต.ต.สุชีพ หนูนาง รองผบช.7 เป็น ผบช.สำนักงานตรวจสอบภายใน

ขณะที่ เห็นชอบให้ 

พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผบช.ภ.7 คนสนิทคุณหญิงพจมาน ซึ่งมีข่าวเดินทางไปฮ่องกง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็น ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษาประสานบก.สส. 

พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รองผบช.สตม. ขึ้นผบช.ประจำ ประสานสง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ประสานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย 

พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา รองผบช.ภ.4 เป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารด้านป้องกันปราบปราม 

พล.ต.ต. จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ รองผบช.สยศ.ตร. ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ 

พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผบช.ภ.8 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำด้านนโยบายและแผน 

พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวานิช รองผบช.ภ.7 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวช่ญด้านสืบสวน

นอกจากนี้ เห็นชอบให้ 

พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม ผบช.สกพ. เป็น หัวหน้าจตร.(สบ8) 
พล.ต.ต. วรเทพ เมธาวัธน์ รองผบช.สตม.คนสนิท พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ 
พล.ต.ต.สมโชค เจริญพร รองผบช.สกพ. 
พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รองผบช.ภ.7 
พล.ต.ต.พจน์ ไทยกล้า รองผบช.ภ.6 
พล.ต.ต.ณรงค์ กาญจนะ รองจตร(สบ7) 

ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)

โดยมีรายงานว่า สำหรับกรณี 

พล.ต.ท. นพ. จงเจตน์ อาวเจนพงศ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ 

ซึ่งมีความอาวุโสอันดับที่ 8 นั้น ตร.มีความเห็นว่า เห็นควรให้อยู่บริหารพัฒนารพ.ตร.ต่อ อีกทั้งในสายงานรพ.ตร.นั้น ยังไม่มี ระดับรองนายแพทย์ใหญ่คนใดครบเกณฑ์แต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จึงอนุมัติให้ยังดำรงตำแหน่งเดิมไม่ขึ้นในระดับผู้ช่วยผบ.ตร.

ทั้งนี้ในบอร์ดกลั่นกรองไม่มีการพูดถึงตำแหน่งของ

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 

แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามบัญชีแต่งตั้ง ที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองแล้ว จะนำเสนอให้ ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือก.ตร. พิจารณาเห็นชอบอีกครั้งในวันที่ 1 สิงหาคม ทั้งนี้หากก.ตร.เห็นว่าการแต่งตั้งตำแหน่งใดไม่เหมาะสม ก็สามารถเสนอกลั่นกรองใหม่และเปลี่ยนแปลงได้ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่า ก.ตร.จะเห็นชอบตามบัญชีแต่งตั้งฉบับนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม