“อชิรวิทย์” พร้อมลุยเดินหน้าเร่งรัด 4 ประเด็น

12/2/54
“อชิรวิทย์” พร้อมทำงานในฐานะ ก.ตร.เสียงอันดับหนึ่ง เดินหน้าเร่งรัด 4 ประเด็น

ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันนี้ 7 ม.ค.

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีต รอง ผบ.ตร.

กล่าวภายหลังได้รับเลือกตั้งเป็น ก.ตร.ด้วยคะแนนเป็นอับดับหนึ่งว่า มีความยินดีมากที่มีโอกาสได้กลับมาทำงานที่ ตร.อีก ครั้งเหมือนได้กลับมาบ้านหลังจากจากไป 3 ปี เต็ม จากนี้ จะกลับมาทำงาน 4 ปี จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ให้สมกับความไว้วางในจากพี่น้องข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ และมาเริ่มทำงานหลังจาก ก.ตร.ชุดเดิมจะหมดวาระในวันที่ 24 ม.ค.นี้ ซึ่งเรื่องเร่งด่วนที่พี่น้องตำรวจขอร้องให้เร่งรัดและตรวจสอบมี 4 เรื่องด้วยกันที่ตนเองต้องการเรียนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ทราบ

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวต่อว่า

เรื่องที่ 1
เรื่องของเงินเดือนของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ที่ไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาล เงินเดือนตำรวจชั้นประทวนเมื่อเทียบกับเงินเดือนชั้นประทวนของทหารนั้นเพดานเงินเดือนแตกต่างกัน 3,000 บาท ทหารเลือนเพดานจาก 23,000เป็น 25,000 และจะเป็น 27,000 บาทแล้วโดยมีการปรับไปตั้งแต่ปี 2551 ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการ ตนเองจะเร่งรัดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมี่ต้องทำงานหนักวันหยุดก็ไม่ได้หยุด ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า

เรื่องที่ 2
เป็นเรื่องการแทรกแซงการแต่งตั้งจากฝ่ายการเมือง ทั้งที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ตามกฎหมายแล้วนายกรัฐมนตรีสามารถแทรกแซงการแต่งตั้งได้ตำแหน่งเดียวคือตำแหน่งผบ.ตร.เท่านั้นเพราะนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานก.ต.ช.จะเป็นคนเสนอรายชื่อ จากนี้ไปตนเองจะตรวจสอบการแต่งตั้งทุกตำแหน่ง หากใครรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งให้มาร้องทุกข์ได้พร้อมหลักฐานตนเองจะเป็นคนดำเนินการให้ ตนเองเชื่อว่าตนเองเสียงเดียวแต่เสียงดังจะสามารถช่วยเพื่อนตำรวจได้ และจะจับตาการแต่งตั้งระดับรองผบก.-สว.ที่เหลืออยู่ให้เกิดความเป็นธรรม อีกอย่างแนวทางการทำงานในก.ตร.จะไม่เดินออกจากร้องประชุมแต่จะใช้เหตุผลโน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตนเองไม่เกรงกลัวใครหรืออำนาจใดเพราะมาจากการเลือกตั้งที่คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงซึ่งเยอะมากเป็นประวัติการไม่เคยมีมาก่อน

เรื่องที่ 3
เป็นเรื่องของการอนุมัติแต่งตั้งบุคลากรให้เลื่อนข้ามหน่วย โดยใช้มาตรา 56 ตนเองก็เห็นด้วยเพราะปัญหาการแต่งตั้งบุคลากรมีมาก แต่ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด เพราะการแต่งตั้งข้ามหน่วยทำให้คนที่ได้รับเลื่อนขาดความรู้ความสามารถในหน่วยงานใหม่ทำให้เกิดการวิ่งเต้นมาหน่วยงานเดิม ตนเองจะเสนอให้การใช้มาตรา 56 แต่งตั้งเลื่อนข้ามหน่วยนั้นทำได้ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 90 เปอร์เซ็นต์ให้เลื่อนภายในหน่วย จะได้เป็นธรรม” พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าว

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวอีกว่า

เรื่องที่ 4
เรื่องของการปรับปรุงโครงสร้างตำรวจ ที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจโดนมีนายวศิษฐ์ เดชกุญชร เป็นประธาน เรื่องนี้ตนเองได้รับคำปรารบจากตำรวจทั่วประเทศว่าการปฏิรูปตำรวจแต่งละครั้งนั้นการเมืองไม่เคยถามว่าตำรวจต้องการอะไร ซึ่งจริงๆแล้วการรื้อบ้านจะต้องถามเจ้าของบ้านเนื่องจากกระทบความเป็นอยู่ของเจ้าของบ้านซึ่งตนเองจะมาดูแลให้ตำรวจได้แสดงความคิดเห็นเพื่อให้การปฏิรูปเกิดประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะที่ผ่านมาการปฏิรูปทุกครั้งไม่แทบไม่เกิดประโยชน์ขาดแคลานอย่างไรก็อย่างนั้น.



ไม่มีความคิดเห็น:

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม