กระหึ่มยืดแต่งตั้ง “นายพล” ล็อตสอง รอ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” เสียบ ผบก.191

31/3/58
โดยผู้จัดการ เมื่อ 29 มี.ค.2558

สน.พระอาทิตย์

ถ้านำระยะเวลาการอบรมของ “รองฯโจ๊ก” ไปผนวกกับ “ข่าวลือ” และนำไปผสมกับการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู “ล็อตสอง” ที่ต้องหลีกทางให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจระดับ “รองสารวัตร - ผบ.หมู่” เสร็จสิ้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป

ทุกอย่างดูลงตัว เหมาะเจาะ สอดรับกันช่างเป็นเรื่อง “บังเอิญ” จริงๆ

กำลังกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในแวดวง “สีกากี” หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้จัดทำบัญชีแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ รองสารวัตร (รอง สว.) - ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2557 ที่ค้างเติ่งข้ามปี ให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ที่ออกมา “แทรกกลาง” การแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง ว่า มีเบื้องลึก เบื้องหลังอะไรหรือไม่ อย่างไร

ในสภาวะปกติที่ผ่านมา หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดปฏิทินการแต่งตั้งระดับใด ก็จะทำให้เสร็จสิ้น โดยไม่มีการแทรกโผแต่งตั้งระดับอื่น คือ ถ้าทำบัญชีแต่งตั้งระดับ “นายพล” หากแบ่งเป็น 2 ล็อต ระดับ พล.ต.ท.- พล.ต.อ. ตำแหน่ง ผบช. ขึ้นไป กับระดับ พล.ต.ต. ตำแหน่ง ผบก.- รอง ผบช. ก็จะทำต่อเนื่อง เมื่อเสร็จจาก “นายพล” ล็อตแรก ก็จะทิ้งเวลาไม่เกิน 15 วัน หรืออย่างช้าไม่เกิน 1 เดือน ก็จะทำ “นายพล” ล็อตสอง ต่อทันที

แต่ครั้งนี้หลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กลาโหม) นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานทำคลอดบัญชีแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง “ล็อตแรก” ระดับ ผบช. ขึ้นไป เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2558

ผ่านมาใกล้จะครบ 1 เดือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็ยังไร้วี่แววการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง “ล็อตสอง” ระดับ พล.ต.ต. ตำแหน่ง ผบก.- รอง ผบช. จะเกิดขึ้นเมื่อใด

ในทางตรงกันข้ามระหว่างรอการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง “ล็อตสอง” ปรากฏว่า “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่สำนักปทุมวัน กลับมีคำสั่งให้ทุกกองบัญชาการจัดทำบัญชีแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ รองสารวัตร - ผบ.หมู่ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2558 แล้วให้คำสั่งมีผลในวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป

“เป็นเวลาที่เหมาะสมด้วยเหตุผล เพราะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตำรวจระดับปฏิบัติการจะได้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยไม่ต้องมากังวลเรื่องแต่งตั้ง” พล.ต.ต.สรไกร เพิ่มพูล ผู้บังคับการกองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจกแจงเอาไว้

คำสั่งทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ รองสารวัตร - ผบ.หมู่ ประจำปี 2557 ย่อมเรียกเสียงเฮ! จากตำรวจระดับล่างทั่วประเทศ เพราะต่างเฝ้ารอกันข้ามปี เนื่องจากในวาระการแต่งตั้งประจำปี 2557 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เลือกทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย “ตำรวจ” ระดับ “นายพล” ทั้ง 2 ล็อต ในวาระประจำปีก่อน จากนั้นช่วงต้นเดือนมกราคม ก็ตามมาด้วย การแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ประจำปี

พอการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ประจำปี เสร็จสิ้นเรียบร้อย ตำรวจระดับ “รองสารวัตร - ผบ.หมู่” ต่างก็คาดกันว่า ปฏิทินการแต่งตั้งจะถึงเสียที สุดท้าย “ผบ.สมยศ” ก็เลือกย้อนขึ้นระดับบนก่อน ด้วยการทำบัญชีแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ล็อตแรก ทำให้ต่างมองว่าการแต่งตั้งระดับเล็กคงต้องรอให้ “นายพล” เสร็จสิ้นก่อน

จู่ๆ “ผบ.สมยศ” ก็หันมาหยิบการแต่งตั้งระดับ รองสารวัตร - ผบ.หมู่ มา “แทรกกลาง” การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ทำให้ “ตำรวจ” ส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ และเกิดข้อสงสัย เหตุใดถึงมีการ “แทรกกลาง” โผนายพล แบบผิดแปลกแตกต่าง ตามธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้

เหตุและผลในการเลือกทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย “ตำรวจ” ระดับ รองสารวัตร - ผบ.หมู่ แทนที่จะทำบัญชีแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู “ล็อตสอง” ที่เหลืออยู่ก่อน จะเป็นเช่นไร ยังไม่มีใครออกมาชี้แจงแถลงไข

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากการ “แทรกกลาง” ครั้งนี้ คือ ทำให้การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู “ล็อตสอง” ระดับ ผบก.- รอง ผบช. ทดแทนตำแหน่ง ก็มีอันต้องยืดระยะเวลาออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหากจะทำกันเร็วที่สุด จริงๆ ก็คงต้องหลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 ไปแล้ว เพื่อให้คำสั่งแต่งตั้งระดับ รองสารวัตร - ผบ.หมู่ ประจำปี มีผลบังคับใช้ ตามหนังสือคำสั่ง “ผบ.สมยศ” ระบุไว้เสียก่อน

นั่นทำให้ดูจะสอดรับกับกระแสข่าวลือก่อนหน้านี้ ที่ว่ากันว่า มีความพยายามจะผลักดันให้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ (รอง ผบก.สปพ.) หรือ 191 นายตำรวจคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ขึ้นนั่งเก้าอี้ “นายพล” เต็มตัว และข่าวลือที่ออกมานั่น อ้างเอ่ยกันไปถึงเก้าอี้ใหม่ ที่จะขยับ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ รองฯโจ๊ก ขึ้นไปนั่งในตำแหน่ง “ผบก.สปพ.” หรือ “ผู้การฯ 191”

หากจะขยับดัน “รองฯโจ๊ก” ขึ้น “ผบก.” ก็ต้องรอให้ถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2558 ไปแล้ว เพราะขณะนี้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ระหว่างการแต่งตั้งให้คุณสมบัติครบถ้วน ด้วยเข้าเข้าอบรมหลักสูตร โรงเรียน “ผู้การฯ” ที่กองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) อยู่

หลักสูตรดังกล่าวชื่อ “หลักสูตรการบริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 39” ซึ่งเปิดหลักสูตรไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 มีระยะเวลาการอบรม 3 เดือน ซึ่งระยะเวลาการอบรมจะสิ้นสุดวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 โดย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นหนึ่งผู้เข้ารับการอบรม รวมทั้งยังเป็น “ประธานรุ่น” ด้วย

ดังนั้น ถ้านำระยะเวลาการอบรมของ “รองฯโจ๊ก” ไปผนวกกับ “ข่าวลือ” และนำไปผสมกับการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู “ล็อตสอง” ที่ต้องหลีกทางให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจระดับ “รองสารวัตร - ผบ.หมู่” เสร็จสิ้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป

ทุกอย่างดูลงตัว เหมาะเจาะ สอดรับกันช่างเป็นเรื่อง “บังเอิญ” จริงๆ

อย่างไรก็ดี การเลื่อนทำบัญชีแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ล็อตสอง ระดับ ผบก.- รอง ผบช. ยศ “พล.ต.ต.” จะเพื่อรอ “รองฯโจ๊ก” อย่างข่าวลือที่คาดเดาหรือไม่ หลังวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป จะรู้กัน
Read more ...

สั่งเด้ง 10 เสือ 2 โรงพัก! เซ่นจับไฮโลกลางทุ่งนาร้อยเอ็ด

30/3/58
โดยไทยรัฐ เมื่อ 30 มี.ค.2558

ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด มีคำสั่งด่วน ให้นายตำรวจตั้งแต่ สวป. จนถึง ผกก.สภ.เมยวดี และ สภ.เมืองสรวง รวม 10 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ บก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด หลังมีการจับกุมนักพนันที่ลักลอบเล่นไฮโลกลางทุ่งนาทั้ง 2 ท้องที่ ได้ผู้ต้องหากว่า 30 คน พร้อมเงินของกลาง...

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 58 พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 27 มี.ค. 58

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ร้อยเอ็ด ได้สั่งการชุดเคลื่อนที่เร็วศูนย์ดำรงธรรม จ.ร้อยเอ็ด สนธิกำลังกับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด และฝ่ายปกครอง พร้อม อส.บก.เมยวดี และตำรวจ สภ.เมยวดี

ร่วมจับกุมการเล่นไฮโล ที่บริเวณใต้ร่มไม้ในทุ่งนาด้านทิศตะวันออกบ้านโป่ง หมู่ 3 ต.บุ่งเลิศ อ.เมยวดี ได้ผู้ต้องหารวม 15 คน อุปกรณ์เล่นไฮโล 1 ชุด พร้อมเงินเล่นพนัน จำนวน 271,405 บาท

ทั้งนี้ เพื่อทราบข้อเท็จจริง ในข้อสงสัยที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมยวดี กับผู้มีส่วนร่วมในการปราบปรามอบายมุข มีความบกพร่องในการป้องกันปราบปรามอบายมุขในเขตพื้นที่รับผิดชอบหรือไม่ ทางตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด จึงสั่งให้ข้าราชการตำรวจ สภ.เมยวดี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ด ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 31 มี.ค.เป็นต้นไป คือ

 (1).พ.ต.อ.สุบรรณ พิมพ์ชัยศรี ผกก.

(2.)พ.ต.ท.ภากร สุขประเสริฐ รอง ผกก.ป.

(3.)พ.ต.ท.รุจน์ วิเชียรภักดี รอง ผกก.สส.

(4.)พ.ต.ท.สัมพันธ์ สังข์คำ สว.ป.

(5.)พ.ต.ต.บุญสม นันสถิต สว.สส.

ส่วนกรณีเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 28 มี.ค. 58 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็วศูนย์ดำรงธรรม จ.ร้อยเอ็ด สนธิกำลังกับกลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองอ.เมืองสรวง และตำรวจ สภ.เมืองสรวง ร่วมกันจับกุมนักพนันไฮโล ที่บริเวณกระท่อมนาอยู่กลางทุ่งนาท้ายบ้านหนองผือ หมู่ 3 ต.เมืองสรวง ได้ผู้ต้องหา 19 คน อุปกรณ์เล่นพนันไฮโล 2 ชุด และเงินพนันจำนวน 6,734 บาท ซึ่งกรณีเป็นที่สงสัยว่า พ.ต.อ.วิโรจน์รัตน์ จั่นประดับ ผกก.สภ.เมืองสรวง กับผู้มีส่วนร่วมในการปราบปรามอบายมุข มีความบกพร่องในการป้องกันปราบปรามอบายมุข ในเขตพื้นที่รับผิดชอบหรือไม่ อย่างไร

ดังนั้น เพื่อทราบข้อเท็จจริง ทางตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดจึงสั่งให้ข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองสรวง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ด ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 31 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป คือ (1) พ.ต.อ.วิโรจน์ จั่นประดับ ผกก. (2)พ.ต.ท.สุภาพ หารี รอง ผกก.ป. (3)พ.ต.ท.สุทัศ อะทาโส รอง ผกก.สส. (4)พ.ต.ท.ไพบูรณ์ นาเมือง สว.สส. (5) พ.ต.ต.วิเศษ สังขพัฒน์ สว.ป. โดยให้ตำรวจทั้ง 10 นาย เข้ารายงานตัวโดยตรงกับ พล.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ภายในเวลา 12.00 น. วันที่ 31 มี.ค. 2558 นี้
Read more ...

เซ่นบ่อนไฮโล เด้งฟ้าผ่า 4 เสือ สน.ดอนเมือง

20/3/58
โดยไทยรัฐ เมื่อ 19 มี.ค.2558

ผบก.น.2 เด้งฟ้าผ่า 4 เสือ สน.ดอนเมือง ช่วยราชการจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เซ่นทลายบ่อนไฮโล ริมถนนสรงประภา

ล่าสุดวันนี้ 19 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีตำรวจ กก.1 บก.ป. เข้าตรวจค้นบ่อนพนันไฮโลลักลอบเล่นการพนัน ย่านถนนสรงประภา ดอนเมือง เข้าไปในซอยอีกประมาณ 200 เมตร และสามารถจับกุมนักพนันได้ 41 คน เป็นชาย 26 คน หญิง 15 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์การเล่นพนัน 17 รายการ เงินสด 3,000 บาท ได้เมื่อกลางดึกวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น.รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้ลงนามในคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับกรณีที่เกิดขึ้น และมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิต ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.พาติกรณ์ ศรชัย รอง ผกก.ป.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.อัครวินต์ สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง และ พ.ต.ต.สมิทธิกิจ อินทรหอม สารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.ดอนเมือง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (ศปก.น.2) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามผู้บังคับบัญชาโดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2558 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ยังได้มีคำสั่งให้ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปก.น.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม

ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามอบายมุขและสิ่งผิดกฎหมายมาโดยตลอด และหากพบพื้นที่ใดมีการจับกุมบ่อนการพนันสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าของพื้นที่ต้องรับผิดชอบ
Read more ...

จับสัญญาณตั้ง ‘รองสว.-ประทวน’ ‘สกพ.’ ขยับปรับหลักเกณฑ์ใหม่!

17/3/58
โดยผู้จัดการ เมื่อ 17 มี.ค.2558

คิวการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “รองสารวัตร” – “ชั้นประทวน” ประจำปี 2557 ที่ค้างเติ่งข้ามปีมา แม้จะยังไม่มีกำหนดอะไรออกมาอย่างชัดเจน จากหัวเรือใหญ่สำนักปทุมวัน แต่ถ้าจับสัญญาณจากหน่วยงานแวดล้อมก็ต้องบอกว่า เริ่มมีแนวโน้มที่ดีให้ ผู้กอง ผู้หมวด ดาบ จ่า และหัวหมู่ ได้เตรียมเข้าลู่กันแล้ว

ตามปฏิทิน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ รองสารวัตร(รองสว.) – ชั้นประทวน ประจำปี 2557 ที่ค้างเติ่งข้ามปี น่าจะเกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง เพราะเริ่มมีสัญญาณเรดาร์การแต่งตั้งที่ใกล้เข้ามาถึงคิว ผู้กอง ผู้หมวด ดาบ จ่า หมู่ กันแล้ว คาดว่าผ่านพ้น “สงกรานต์” ทุกอย่างคงชัดเจนขึ้น

คิวการแต่งตั้งโยกย้าย “สีกากี” หลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ไฟเขียวบัญชีรายชื่อแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง ล็อตแรก ระดับ ผบช.ขึ้นไป ยศ พล.ต.ท. เรียบร้อยแบบไม่มีพลิก มีแต่ล็อค ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะประธาน ใช้เวลาพิจารณากันเพียง 10 นาที ทุกรายชื่อก็ผ่านฉลุยตามที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่สำนักปทุมวัน เสนอบัญชี

พล.ต.ท.ธีรศักดิ์ กลิ่นพงษา หัวหน้าจเรตำรวจ (สบ 8) ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ จเรตำรวจ(สบ 8) เป็น หัวหน้าจเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว รอง ผบช.ศชต. เป็น จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รอง ผบช.ศ. เป็น จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิ์ประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 เป็น ผบช.ประจำ ตร. และพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.ก เป็น ผบช.ก.

จากนั้นคิวต่อไปน่าจะเป็นการแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” นอกฤดู อีกล็อต ซึ่งเป็นล็อตสอง ระดับ รองผู้บัญชาการ (รองผบช.) – ผู้บังคับการ (ผบก.) ยศ พล.ต.ต. แทนตำแหน่งว่าง ที่คาดว่าฤกษ์งามยามดีคงทำบัญชีแต่งตั้งกันในช่วงปลายเดือนมีนาคม หรือจากนี้อีก 2-3 อาทิตย์ข้างหน้า

ขณะที่คิวการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “รองสารวัตร” – “ชั้นประทวน” ประจำปี 2557 ที่ค้างเติ่งข้ามปีมา แม้จะยังไม่มีกำหนดอะไรออกมาอย่างชัดเจน จากหัวเรือใหญ่สำนักปทุมวัน แต่ถ้าจับสัญญาณจากหน่วยงานแวดล้อมก็ต้องบอกว่า เริ่มมีแนวโน้มที่ดีให้ ผู้กอง ผู้หมวด ดาบ จ่า และหัวหมู่ ได้เตรียมเข้าลู่กันแล้ว

สัญญาณนี้ถูกถอดรหัสจากบันทึกข้อความ ที่พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (รองผบช.สกพ.) ลงนามในฐานะปฏิบัติราชการแทน ผบช.สกพ. ส่งไปถึงทุกผู้บังคับบัญชาทุกกองบัญชาการ และหน่วยขึ้นตรง ให้แจ้งผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่อง หลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศตามคุณสมบัติ

เฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ ในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระดับ รองสว. ลงมา หลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศดังกล่าว พล.ต.ต.ปิยะ แจ้งการยกเลิกหลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศตามหนังสือ ตร. ที่ 0006.121/13191 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2546 ทั้งหมด และใช้หลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศเป็นข้าราชการตำรวจระดับ รองสว. ลงมาใหม่

โดยภาษาอังกฤษสามารถเลือกเข้ารับการทดสอบจากสถาบันต่างๆ ซึ่งมีระดับคะแนนไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ TOEIC 495 คะแนน TOEFL 53 คะแนน CU-TEP 60 คะแนน IELTS 4.5 คะแนน ส่วนภาษาต่างประเทศอื่น นอกจากภาษาอังกฤษ จะต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานราชการ หรือสถาบันการศึกษา หรือสถาบันที่ได้มาตรฐานตามที่ สตม.กำหนด โดยความเห็นชอบของ ตร.

ส่วนผลการทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศของตำรวจนอกสังกัด สตม.เพื่อใช้ยื่นขอรับการแต่งตั้งเป็นตำรวจในสังกัด สตม.ให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่เข้ารับการทดสอบ โดยสตม.จะตรวจสอบความถูกต้องของผลการทดสอบกับสถาบันที่ทำการทดสอบ ก่อนที่จะประกาศรายชื่อเป็นผู้ผ่านการทดสอบ

ขณะที่ตำรวจระดับ รองสว.ลงมา ที่ดำรงตำแหน่งในสังกัด สตม. ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศ ให้ สตม.ประสานกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของรัฐที่ได้มาตรฐานดำเนินการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ความเข้าใจภาษาต่างประเทศ และจัดการทดสอบภาษาอังกฤษ โดยมีขอบเขตการทดสอบประกอบด้วย การอ่าน การฟัง และการสนทนา เพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งซึ่งผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องเป็นผู้ที่สอบได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบ

ที่น่าสนใจในบันทึกแจ้งข้อความดังกล่าวของสำนักงานกำลังพล ระบุว่า สำหรับข้าราชการตำรวจนอกสังกัด สตม. หรือตำรวจในสังกัด สตม. ซึ่งเป็นผู้ผ่านการทดสอบ ไม่เป็นข้อผูกมัดในการพิจารณาแต่งตั้งดำรงตำแหน่งต่างๆ ในสังกัด สตม.

ซึ่งแสดงว่าถึงจะผ่านหลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ ในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระดับ รองสว. ลงมา แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้นั่งเก้าอี้ “สตม.” ตามที่ต้องการ

เพราะต่างก็รู้ว่าเก้าอี้ “สตม.” ไม่เว้นแม้แต่ รองสว. หรือชั้นประทวน ล้วนมีขุมทรัพย์ทั้งสิ้น ใครจะมาอยู่นอกจากแต่งตัวตามคุณสมบัติครบแล้ว “เส้นสาย” ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ต้องมีควบคู่ไม่ต่างจะระดับ นายพัน นายพล เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะต้องใช้เส้นสายในการ “วิ่ง” สู่เก้าอี้ สตม. อย่างไร แต่บันทึกหลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศสำหรับตำแหน่งตำรวจ ในสังกัด สตม. ระดับ รองสว. ลงมาครั้งนี้ ก็ถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่ส่งออกและเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองสว.-ชั้นประทวน ซึ่งต่างเฝ้ารอกันอยู่ว่า

เมื่อไหร่จะถึงคิว ชั้นผู้น้อยเสียที!!!
Read more ...

ย้าย 5 เสือ สภ.แกลง เข้ากรุ หลังกองปราบเข้าจับกุมบ่อนการพนันไฮโล

16/3/58
โดยเดลินิวส์ เมื่อ 15 มี.ค.2558

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มโนเจริญทรัพย์ รอง ผกก.2 ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม

เข้าจับกุมบ่อนการพนันไฮโล

กลางสวนยางพารา หมู่ 9 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 

ได้ผู้ต้องหาสองคน คือ

นายชาญ เจริญรื่น และ

นายอรรถพรทรัพย์เจริญ 

พร้อมด้วยของกลาง

เงินสด 521 บาท และ
ของกลางอื่นรวม 7 รายการ 

ทำให้

พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง

ได้ลงนามย้าย 5 เสือ สภ.แกลง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดระยองนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ได้มีคำสั่งลงนามจาก พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง คำสั่งเลขที่ 84/2558 เรื่องให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงจากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบเข้าจับกุมบ่อนไฮโลดังกล่าวซึ่งในกรณีดังกล่าวมีข้าราชการตำรวจรับผิดชอบที่ต้องถูกพิจารณาข้อบกพร่องตามคำสั่งตร.ที่ 234/2558 ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้

พ.ต.อ.จตุวัฒน์ กิ่งบัวหลวงผกก.สภ.แกลง 

พ.ต.ท.สิทธิ แสงจันทร์ รองผกก.ป.สภ.แกลง 

พ.ต.ท.สุเชาว์ ขมสนิท รองผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สาธิต สุวรรณโชติ สวป.ฯ 

พ.ต.ท.สุระพล จิตรักษ์ สว.สส.ฯ 

พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนโดยมี

พ.ต.อ.สมพงษ์ ทองใบ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง 

พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สินธุประเสริฐ รองผกก.สส.ภ.จว.ระยอง 

พ.ต.ต.บัณฑิต เหล่าสุทธิวงษ์ สว.สส.ภ.จว.ระยอง 

เป็นคณะกรรมการในการสืบสวนข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน

และมีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดระยองเลขที่ 86/2558 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทนตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ที่ 85/2558 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2558 ให้พ.ต.อ.จตุวัฒน์ กิ่งบัวหลวง ผกก.สภ.แกลง จ.ระยอง พร้อมด้วยพวก 5 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง โดยขาดจากตำแหน่งเดิมทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2558 และให้ พ.ต.อ.เสถียร บุญค้ำ รอง ผบก.ภ.จว.ระยองไปรักษาการแทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.แกลง ซึ่งมีคำสั่งลงนามจาก พล.ต.ต.ชุมพลฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ในวันที่ 15 มีนาคม 2558

Read more ...

เด้ง ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ไป ภ.1 ไร้แผนคุมม็อบค้านโยกปลัด สธ.

14/3/58
โดยไทยรัฐ เมื่อ 12 มี.ค.2558

'พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน' เซ็นคำสั่งย้าย ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ไปช่วยราชการ ศปก.ภ.1 เซ่นไร้แผนคุมม็อบ คัดค้านการโยกย้าย ปลัด สธ. ...

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 58 พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 68/2558 เรื่อง ให้ พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ วรรธน์จิรัฐ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ภ.1) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เนื่องจากไม่มีความรับผิดชอบ และไม่ใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ หากให้รับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการได้

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่ง ที่ 69/2558 ให้ พ.ต.ท.พิเชียรยศ อรุณพันธ์กุล รอง ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี รักษาราชการแทน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ในคำสั่งระบุว่า ด้วยตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 จะมีข้าราชการจากกระทรวงสาธารณสุขจำนวนมาก เดินทางจากส่วนภูมิภาคมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อชุมนุมเคลื่อนไหว ให้กำลังใจและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรณีมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี

จึงได้ตรวจสอบการปฏิบัติของกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมี พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ถึงสถานการณ์การข่าวแกนนำ จำนวนมวลชนที่เข้าร่วม การใช้เส้นทางการเดินทางเข้ามายังกระทรวงสาธารณสุข พื้นที่ชุมนุม เพื่อให้นำมาเป็นข้อมูล เตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นได้


คำสั่งโยกย้าย
แต่ปรากฏว่า ทางกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ไม่มีข้อมูลดังกล่าวอีกทั้ง พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ ยังไม่ไปตรวจสถานที่ แสดงถึงการไม่มีความรับผิดชอบและไม่ใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เป็นที่ตั้งของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยราชการที่มักจะมีกลุ่มมวลชนเข้ามาชุมนุมประท้วง ดังนั้น หากให้รับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการได้

ดังนั้น จึงอาศัยอำนาจตามความในระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 จึงให้ พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ วรรธน์จิรัฐ ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ลงวันที่ 12 มี.ค. 58

ด้าน พล.ต.ต.สำราญ ยินดีอารมณ์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า ที่มีคำสั่งจาก พล.ต.ท.อำนวย ผบช.ภ.1 ให้ พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ ไปปฏิบัติราชการยัง ศปก.ภ.1 ตนไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ ซึ่งเป็นความเหมาะของทางผู้บังคับบัญชา เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประสิทธิภาพ ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ตนได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอยู่ตลอดเวลา.
Read more ...

ผู้การโคราช เจอพิษด่านจร. ภาค3ย้ายด่วน ผกก.เมืองด้วย

12/3/58
โดยข่าวสด เมื่อ 11 มี.ค.2558

สั่งเด้งด่วนผู้การและผู้กำกับเมืองโคราช ไปช่วยราชการ ศปก.ภาค 3 ทันทีไม่มีกำหนด เหตุผู้บัญชาการภาค 3 ออกตรวจพื้นที่พบตั้งด่านจราจรหวังค่าปรับ ทั้งที่ให้นโยบายไปแล้วว่า ต้องเน้นเรื่องความมั่นคงพร้อมให้มีป้ายชื่อผู้รับผิดชอบจุดตรวจอย่างชัดเจน แต่กลับละเลยถือว่าไม่ปฏิบัติตามนโยบาย พร้อมเปิดเผยล่าสุดสั่งการให้ผู้กำกับสภ.ปักธงชัย ไปช่วยราชการโดยไม่มีกำหนดเช่นกัน เพราะไม่อยู่สภ. แต่ไปโผล่อยู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำ เตรียมตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ภาค 3 เปิดเผยว่า มีคำสั่งให้พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และพ.ต.อ. ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา มาช่วยราชการที่ศปก.ภาค 3 เนื่องจากพบว่ามีการตั้งด่านที่ไม่ถูกต้องตาม นโยบาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนให้นโยบายชัดเจนและสั่งกำชับทุกหน่วยในเรื่องการตั้งด่านตามถนนหนทาง ให้เน้นเรื่องความมั่นคงมากกว่าการจราจร ทุกครั้งที่ตั้งด่านต้องมีป้ายชื่อผู้รับผิดชอบด่าน พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อติดให้เห็นเด่นชัดทุกครั้ง

อีกทั้งยังย้ำด้วยว่า การตั้งด่านอย่าให้ประชาชนเดือดร้อน การตั้งด่านต้องเน้นตรวจอาชญากรรมและความมั่นคง ไม่ใช่ตั้งด่านเพื่อหวังค่าปรับจราจร ดังเช่นที่เคยถูกกล่าวหาว่าตำรวจในพื้นที่ตั้งด่านจำนวนมาก เพื่อหวังรายได้จากค่าปรับ ซึ่งที่ผ่านมาเคยคาดโทษไปแล้วว่า ใครไม่ทำตามนโยบายจะลงโทษและสั่งมาช่วยราชการที่ภาค 3

"ผมย้ำไปแล้วหลายครั้ง กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ผมไปตรวจพื้นที่ เพื่อดูการตั้งด่านของตำรวจ พบว่ามีด่านตรวจ 2 แห่ง ในพื้นที่สภ.เมืองนครราชสีมา ไม่มีป้ายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ และลักษณะของด่านดูเหมือนด่านจราจรมากกว่าด่านความมั่นคง จุดประสงค์แปรเปลี่ยน เป็นด่านหารายได้ หวังค่าปรับจราจร ซึ่งกำชับไปแล้วว่าอย่าทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ดีต่อตำรวจ เนื่องจากที่ผ่านมาเคย ถูกประชาชนร้องเรียนว่าตำรวจตั้งด่านเยอะ ประชาชนมองว่าตำรวจตั้งด่านหวังค่าปรับจราจร สั่งไปแล้วแต่ก็ยังทำ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เหมือนว่าไม่ทำตามนโยบาย จึงออกคำสั่งให้ทั้ง 2 ไปช่วยราชการที่ศปก.ภ.3 โดยไม่มีกำหนด และให้รายงานข้อเท็จจริงก่อน จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต่อไป" ผบช.ภาค 3 กล่าว

ผบช.ภาค 3 กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ได้ให้ พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รองผบก.ภ.จ. นครราช สีมา รรท.ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา และให้พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผบก.ภ. จ.นครราชสีมา รรท.ผกก.สภ.เมืองนครราช สีมา นอกจากนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนมีคำสั่งให้พ.ต.อ.กัมปนาท ฐาตุจิรางค์กูล ผกก.สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มาช่วยราชการที่ศปก.ภ.3 โดยไม่มีกำหนดเช่นกัน พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงด้วย เนื่องจากไปตรวจเยี่ยมสภ.แล้วไม่อยู่ สอบถามอ้างว่าอยู่กทม. แต่จากการสืบสวนทางลับพบว่าอยู่ที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่าผกก.คนนี้ไม่ค่อยอยู่โรงพัก แม้แต่ครั้งที่แขกคนสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางเข้าพื้นที่ก็ไม่อยู่ต้อนรับ สืบสวนเชิงลึกพบว่าอยู่ที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และมักเดินทางไปที่นั่นบ่อยๆ ชอบทำกิจกรรมที่นั่น ตนจึงสั่งให้มาช่วยราชการและให้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าช่วงที่ไม่อยู่โรงพักไปไหน หากพบว่ามีความผิดจริงตามที่สืบสวนพบจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป
Read more ...

ก.ตร.มีมติตั้งพล.ต.ต.ฐิติราชนั่งผบช.ก.-พ­ล.ต.ท.ธีรศักดิ์นั่งผช.ผบ.ตร.

10/3/58
โดยทีเอ็นเอ็น เมื่อ 10 มี.ค.2558

วันนี้(10 มี.ค.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 5/2558 โดยมี นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขธิการ ก.พ. พร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผบ.ตร. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าร่วมประชุม โดยมีวาระที่ผ่านการพิจารณาที่สำคัญคือ วาระการบรรจุและแต่งตั้ง นายปิยวิทย์ สรไชยเมธา (นอกราชการ) ก.ตร.ได้มีมติเห็นชอบให้กลับเข้ารับราชการ­เป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตร ในตำแหน่งนายแพทย์ สบ.5 ยศ พ.ต.อ.(เทียบเท่า รอง ผบก.) สังกัด รพ.ตร.

สำหรับวาระการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ ผช. ผบ.ตร. 1 ตำแหน่ง ระดับ ผบช.หรือ จตร.(สบ8) 4 ตำแหน่ง รวมแล้ว 5 ตำแหน่ง ที่ประชุม ก.ตร.ได้พิจารณามีมติ เห็นชอบ แต่งตั้งในตำแหน่งสูงขึ้นให้ พล.ต.ท.ธีรศักดิ์ กลิ่นพงษา หน.จเรฯ (สบ.8) นรต.32 ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ จตร.(สบ.8) นรต.37 โยกมาเป็น หน.จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว รอง ผบช.ศชต.(นรต. 32) ขึ้นเป็น จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รอง ผบช.ศ.(นรต.31) ขึ้นเป็น จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิ์ประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 (นรต.34) ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ตร. นอกจากนี้ยังพิจารณาให้ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.ก(นรต.34) ขึ้นเป็น ผบช.ก. ด้วย
Read more ...

แต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูระทึก! ล้างบาง “ผู้การฯ”

2/3/58
โดยผู้จัดการ คอลัมน์ สน.พระอาทิตย์ เมื่อ 1 มี.ค.2558

มีบางกลุ่มพยายาม “ดิ้น” เพื่อสกัด “พล.ต.ต.ฐิติราช” และ “พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี” รอง ผบก.ป. ไม่ให้ขึ้นตำแหน่ง “ผบช.ก.” และ “ผบก.ป.” จึงหยิบยกบัญชีผู้เหมาะสมเดิมที่จัดทำไว้ในการแต่งตั้ง “นายพล” ประจำปีช่วงก่อนวันที่ 1 ต.ค. 2557 มาอ้าง ซึ่งถ้าการแต่งตั้งครั้งนี้นำบัญชีผู้เหมาะสมเดิมมาใช้ ก็จะทำให้ พล.ต.ต.ฐิติราช คุณสมบัติไม่ครบตามหลักเกณฑ์ ก.ตร. เพราะ พล.ต.ต.ฐิติราช ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้เหมาะสมเดิม

หากไม่เกิดฟ้าผ่า “กรมปทุมวัน” เก้าอี้ “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” หรือ “ผบช.ก.” คงต้องแปะชื่อ “บิ๊กหมู” พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.ก. ซึ่งรักษาการ ผบช.ก. ขณะนี้ ขยับรับตำแหน่ง “ผบช.ก.” ติดยศ “พล.ต.ท.”อย่างเต็มตัว ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วาระแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูแทนตำแหน่งว่าง ที่จะมีขึ้นในราววันที่ 11 มี.ค. นี้

แม้ก่อนหน้านี้ คาดกันว่า การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง ล็อตแรกระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร.- ผบช. หรือ “พล.ต.ท.” จะเสร็จเรียบร้อยในการประชุม ก.ตร. วันพุธที่ 25 ก.พ. และ พล.ต.ต.ฐิติราช จะได้รับการเสนอชื่อขึ้นเป็น ผบช.ก. ไปในคราวเดียวกับที่จะแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา หัวหน้าจเรตำรวจ (จตร.) (สบ8) ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว รอง ผบช. ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ขึ้น ผบช.ประจำ ตร. พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รอง ผบช. สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ขึ้น จตร. (สบ8) และพล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รอง ผบช. กองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) ขึ้น จตร. (สบ8)

แต่แล้วในการประชุม ก.ตร. วันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร. ไม่ได้เดินทางมาประชุม มอบอำนาจให้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ทำหน้าที่แทน

รวมทั้งวาระในการประชุมก็ไม่มีการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู

วงประชุม ก.ตร. วันนั้น มีวาระพิจารณากรณีการจัดทำบัญชีผู้เหมาะสม เพื่อใช้ในการเสนอแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู โดยที่ประชุมได้พิจารณากรณีบัญชีผู้เหมาะสมที่จัดทำเอาไว้เดิมจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ เนื่องจากผู้ที่จะได้รับเสนอชื่อให้ได้รับแต่งตั้ง ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชี

เหตุที่ต้องหยิบยกประเด็น “บัญชีผู้เหมาะสมที่จัดทำเอาไว้เดิมจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่???” ว่ากันว่า มีบางกลุ่มพยายาม “ดิ้น” เพื่อสกัด “พล.ต.ต.ฐิติราช” และ “พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี” รอง ผบก.ป. ไม่ให้ขึ้นตำแหน่ง “ผบช.ก.” และ “ผบก.ป.” จึงหยิบยกบัญชีผู้เหมาะสมเดิมที่จัดทำไว้ในการแต่งตั้ง “นายพล” ประจำปีช่วงก่อนวันที่ 1 ต.ค. 2557 มาอ้าง ซึ่งถ้าการแต่งตั้งครั้งนี้นำบัญชีผู้เหมาะสมเดิมมาใช้ ก็จะทำให้ พล.ต.ต.ฐิติราช คุณสมบัติไม่ครบตามหลักเกณฑ์ ก.ตร. เพราะ พล.ต.ต.ฐิติราช ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้เหมาะสมเดิม

ทว่าดูเหมือนกลุ่มที่สนับสนุน พล.ต.ต.ฐิติราช ก็ “รู้ทัน” และส่งสัญญาณระดับ “ซูเปอร์พาวเวอร์” เน้นย้ำอีกครั้ง ทำให้กลุ่มที่พยายามดิ้นต้องยอม และนำประเด็น “บัญชีผู้เหมาะสมที่จัดทำเอาไว้เดิมจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่” เข้ามาให้วงประชุม ก.ตร. รับรองเพื่อให้เกิดความถูกต้องตามขั้นตอนระเบียบปฏิบัติ

สุดท้าย ก.ตร. ก็มีมติเห็นว่า การแก้ไขบัญชีผู้เหมาะสมสามารถทำได้ใหม่ในทุกครั้งที่จะมีการแต่งตั้งนายพล แม้จะเป็นการแต่งตั้งนอกวาระก็ตาม

ทำให้มีการเดินขั้นตอนเสนอชื่อ พล.ต.ต.ฐิติราช เข้ามาอยู่ในบัญชีผู้เหมาะสม และเตรียมเสนอชื่อเข้าที่ประชุม ก.ตร. วันที่ 11 มี.ค. นี้ ตีตราประทับแต่งตั้งเป็น “ผบช.ก.” คนใหม่

อย่างไรก็ดี ในการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูครั้งนี้ นอกจากความพยายาม “ดิ้น” ชิงเก้าอี้ “ผบช.ก.” แล้ว ล็อตสองที่จะมีการแต่งตั้งระดับ “รอง ผบช.- ผบก.” แทนตำแหน่งว่าง ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ต้องติดตาม แบบห้ามกะพริบตา

โดยเฉพาะ “ผู้บังคับการ” หรือ “ผบก.” เก้าอี้ “ผู้การฯกองปราบ” ที่ “บิ๊กอ้อ” พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. จองกฐินไว้แบบแน่ๆ ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณแปลกๆ ไม่ต่างจาก ที่ พล.ต.ต.ฐิติราช เจอเช่นกัน

พ.ต.อ.อัคราเดช ก็ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้เหมาะสมในการแต่งตั้ง “นายพล” ประจำปีครั้งที่ผ่านมา ทำให้มีเสียงลือในแวดวงสีกากีทำนอง พี่ใหญ่แห่งบ้าน “บิ๊กบราเธอร์” พยายามจะผลักดัน “เสี่ยโจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบก.191 มาขึ้นเป็น ผบก.191 ซึ่งหากคุณสมบัติยังครบไม่ทันก็อาจจะให้ รักษาการ ผบก.191 รอครบเกณฑ์แล้วค่อยแต่งตั้ง แล้วโยก “บิ๊กหลวง” พล.ต.ต.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผบก.191 อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. มาเป็น ผบก.ทล. ขยับ พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผบก.ทล. อดีตนายเวร พล.ต.อ.สมชาย มิลินทางกูร อดีตรอง อ.ตร. ไปเป็น ผบก.ป.

กระนั้นโผข่าวลือนี้ก็อาจจะสมหวังยาก เพราะเมื่อบัญชีผู้เหมาะสมสามารถทำใหม่ได้ทุกครั้งเมื่อมีการแต่งตั้ง และมี พล.ต.ต.ฐิติราช เป็นบรรทัดฐานไว้ พ.ต.อ.อัคราเดช ก็อยู่ในข่ายนี้เช่นกัน รวมทั้งแรงสนับสนุนของ “บิ๊กอ้อ” ก็ระดับ “บิ๊กพาวเวอร์” เช่นเดียวกัน

เก้าอี้ “ผบก.ป.” ก็ไม่น่าจะพ้นคนชื่อ “อัคราเดช พิมลศรี”

อีกหนึ่งเก้าอี้ระดับ “ผบก.” ในการแต่งตั้งครั้งนี้ ที่ต้องจับตาเช่นกัน คือ เก้าอี้ “ผบก.น.2” ที่ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ นั่งอยู่ ดูอาการชั่วโมงนี้ต้องบอกว่า “น่าห่วง” หลังจากโรงพักในพื้นที่ ทั้งเตาปูน บางเขน และโคกคราม ถูกจับบ่อนพนัน จน “ผบ.สมยศ” เซ็นคำสั่งให้มาช่วยราชการ ศปก.ตร. มิหนำซ้ำล่าสุด “ผบ.สมยศ” ยังสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันหรือไม่ด้วย

การเพ่งเล็ง “ผู้การฯก่อเกียรติ” เป็นพิเศษในเรื่องบ่อนนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแวดวง “สีกากี” ว่าต้องมีอะไรมากกว่า มีการจับบ่อนในพื้นที่ เพราะ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.น.2 ก็ถูกจับบ่อนพนันเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มีการพูดถึง กลับโฟกัสมาที่ “ผบก.น.2” มากกว่า

พฤติกรรมเช่นนี้ก็ดูจะสอดรับกลับข่าวลือ เรื่อง “เกาเหลา” ระหว่างคนโตนครบาลกับ “พล.ต.อ.” รายหนึ่ง ที่ขัดแข้งขัดขากันมาตลอด ตั้งแต่เรื่องป้ายไฟบนป้อมตำรวจจราจร มาถึงการแต่งตั้ง “นายพัน” ที่ผ่านมา ซึ่งการจับกุมบ่อน ที่เหมือนพุ่งมาที่พื้นที่ บก.น.2 เป็นพิเศษ ยิ่งทำให้ “เกาเหลา” เดือดปุดๆๆ

อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ ผู้การฯก่อเกียรติ เป็นเพื่อนรัก นรต.35 ของบิ๊กนครบาลรวมทั้งยังเคยมีสายสัมพันธ์ฉันญาติกันมาก่อน ถูกดึงจากภูธรเข้ามาช่วยงานเมืองกรุง และกุมพื้นที่ทำเลทอง ซึ่งเมื่อมีเรื่องมีราวในพื้นที่เกิดขึ้น ก็จะเป็นเงื่อนไขให้ ตร.สามารถเสนอย้าย “ผบก.น.2” ออกจากตำแหน่งได้

ดังนั้น การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูครั้งนี้ แม้หลายเก้าอี้จะถูกตีตราจอง หรือขยับขึ้นกันตามหลักอาวุโสแล้ว แต่หลายตำแหน่งก็ยังน่าสนใจต้องติดตาม เพราะตามปกติแต่งตั้งนอกฤดูจะโยกย้ายกันไม่มาก แต่มายุคนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น
Read more ...

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม